เมื่อสามปีที่แล้วผมได้ทดลองจัดพอร์ตเล่นๆ ไว้ในบทความ 0034: พอร์ตทดลอง วันนี้ครบกำหนดแล้วครับ…
หุ้น | ราคาต้นทุน (15/11/50 ATC) | ราคาปัจจุบัน(15/11/53 ATC) | เงินปันผล | ผลตอบแทน |
EGCO | 117.00 | 96 | 15.25 | -5% |
HMPRO | 5.00 | 1.9×1.16×9.15 | 0.63+1.9*0.16+ 1.9*1.16*0.0193=0.9765 |
322% |
PS | 8.10 | 20.1 | 1.1 | 161% |
ERAWAN | 3.94 | 2.3 | 0.07 | -40% |
SF | 11.50+1.20 | 5.40×2 | 0.25+.12*2 | -11% |
หมายเหตุ :
- HMPRO มีการแจกหุ้นปันผลฟรีอัตรา 10:9 และอีกครั้งหนึ่ง 6:1
- SF มีการเพิ่มทุนหนึ่งครั้ง ราคาใช้สิทธิ์ 1.2 บาทต่อหุ้น
ถ้าพอร์ตทดลองนี้มีหุ้นทั้งห้าตัวในสัดส่วนที่เท่ากัน ผลตอบแทน 3 ปี ของพอร์ตจะเท่ากับ 85.2% หรือเท่ากับ IRR 22.8% ต่อปี ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10% ต่อปีไปมากทีเดียว
เห็นผลลัพธ์อดนึกถึงคำพูดของปีเตอร์ ลินซ์ไม่ได้ว่า เราทุกคนสามารถเลือกลงทุนในหุ้น 5 ตัวได้ด้วยตนเอง แล้วถือไว้ในระยะยาว (พอร์ตนี้ก็เลือกหุ้นที่คิดว่าเติบโตโดยใช้เวลาตัดสินใจห้านาที) สุดท้ายแล้วจะมี 3 ตัว ที่ให้ผลตอบแทนธรรมดาๆ อีกหนึ่งตัวไม่เป็นไปตามที่คิด และอีกหนึ่งตัวที่ให้ผลตอบแทนที่เกินคาด นั่นคือธรรมชาติของการลงทุนในหุ้น ทุกตัวมีแผนเติบโตตอนที่เริ่มลงทุน หลายตัวไม่เป็นไปตามที่คาด แต่แค่เป็นไปตามหรือเหนือกว่าคาดบางตัว ก็ทำให้ผลตอบแทนรวมดีได้แล้ว
อีกอย่างหนึ่งก็คือ การถือหุ้นระยะยาวนั้นกลับไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แม้ระหว่างทางจะแจ็กพ็อตเจอวิกฤตที่รุนแรงที่สุดในรอบสิบปีอย่างเช่นอย่างเช่นพอร์ตนี้ และเราก็ไม่ไ้ด้ทำอะไรเลยทั้งสิ้นเมื่อเกิดวิกฤต แต่สุดท้ายแล้ว ผลตอบแทนที่ได้ก็กลับน่าพอใจทีเดียว (ที่จริงแล้ว ผมว่าการตั้งใจว่าจะถือหุ้นในนานหน่อยนั้น มีข้อดีคือ ถ้าหุ้นตัวนั้นวิ่งได้เป็นเด้งๆ คุณจะไม่พลาดมัน เพราะถ้าคุณไม่ตั้ังใจจะถือยาว คุณคงขายมันทิ้งไปหมดแล้ว เพียงแต่ว่า เวลาตั้งใจจะถือยาว ก็ควร bet กับหุ้นหลายตัวสักหน่อย เผื่อความผิดพลาดด้วย)
15/11/53 ดัชนี ตลท.ปิดที่ 1,029.14 จุด
15/11/50 ดัชนี ตลท.ปิดที่ 855.52 จุด
ผลตอบแทนตลาด 3 ปี = 20.29%
ผลตอบแทนพอรต์ 3 ปี = 85.2%
ชนะตลาดแบบสบายๆ และเป็นข้อพิสูจน์ว่าหุ้นไทยถือยาวได้ 🙂
ขอขอบคุณมากครับ ที่ช่วยตอบคำถาม ปีนี้จะจัดพอร์ตอีกไหมครับ อยากศึกษาเพิ่มเติม ครับ
ขอขอบคุณ ครับ
อาจมีอีกก็ได้ครับ แต่คงเปลี่ยนรูปแบบการทดลองไปอีก แล้วแต่ความเหมาะสม