181: บทวิเคราะห์หุ้นจากทางบ้าน : MAKRO by Dr.Kaiby Dekisugi12 Comments[ดาวน์โหลด] Share Tweet Email 12 thoughts on “181: บทวิเคราะห์หุ้นจากทางบ้าน : MAKRO by Dr.Kai” atip834 December 5, 2012 at 11:36 am Reply Dr.Kai ขอบคุณมากครับ เขียนได้ดี กระชับได้ใจความดีครับ พอเป็นไปได้ที่จะเล่าถึงแนวทางการเติบโตเชิงเปรียบเทียบ ระหว่าง BigC และ MAKRO มั๊ยครับ ? ความเห็นส่วนตัว พบว่า BigC มีการทำเรื่องพื้นที่เช่าได้ดี มีประสิทธิภาพมากๆ มองว่าน่าจะเป็นแนว Growth ของ BigC อ่ะครับ nut776 December 5, 2012 at 12:12 pm Reply เห็นยอดขายเทียบกับ bigc lotus แล้วตกใจ ไม่ห่างมาก ไม่ทราบมีหลายๆปีย้อนหลังไหมคับ มาตกใจอีกที คือ sssg พอบอกสูงสุดในกลุ่ม งงเลย ขอบคุณข้อมูลคับ Dr Kai December 5, 2012 at 1:50 pm Reply ขอตอบนะครับ Makro ในระยะต่อไป จะเน้นการเติบโตในช่องทาง fresh food กับ horeca ครับ เข้าใจว่า margin น่าจะดีกว่าของแห้ง ส่วนพื้นที่เช่านี่เป็นอะไรที่ makro ไม่ได้เน้นเลยครับ ตอบคุณ nut 776 ยอดขาย lotus ผมไม่มีย้อนหลังหลายปีนะครับ ที่เอามานี้ รู้สึกว่าจะเอามาจากบทวิเคราะห์ ของบัวหลวง หรือกรุงศรี นี่แหละครับ ยอดขายนี่ไม่รวมค่าเช่านะครับ ถ้ารวมจะห่างกันพอสมควร ส่วน sssg makro สูงกว่า bigc มาหลายไตรมาสติดต่อกันแล้วครับ makro ประมาณ 6-7% bigc จะอยู่ที่ 3-4% ครับ link ข้างล่างเปรียบเทียบ bigc หลังรวม คาร์ฟูร์ แล้ว กับ makro ครับ ของสิ้นปี54 http://www.set.or.th/set/pdfnews.do?file=http%3A%2F%2Fwww.set.or.th%2Fdat%2Fnews%2F201202%2F12005100.pdf http://www.set.or.th/set/pdfnews.do?file=http%3A%2F%2Fwww.set.or.th%2Fdat%2Fnews%2F201202%2F12007143.pdf เอก December 5, 2012 at 8:58 pm Reply เรียนคุณ atip Makro จะเน้น Horeca ครับ ไม่เน้นพื้นที่เช่า เรียนคุณ nut 7776 Makro SSSG ปี 54 10% ครับ Bigc อยู่ประมาณ 3-4% ไม่รวม คาร์ฟูร์ Cpall ปี 54 = 4.8% (ไม่รวมบัตรโรศัพท์) ยอดขายเป็น ยอดขายอย่างเดียวไม่รวมค่าเช่าครับ เอก December 5, 2012 at 9:02 pm Reply BIGC54 5.6% ครับ ขอแก้ไข chamnan028 December 7, 2012 at 8:26 pm Reply ขอบคุณมาก ๆ นะครับ สำหรับบทความ และข้อมูล ผมเองชอบกลยุทธ์ HoReCa ที่ Makro ทำได้ดีกว่าคู่แข่งมาก รวมทั้งจ่ายเป็นเงินสด ๆ ทั้งนั้น … ผมเคยไปสังเกตุ จ่ายกันบิลหนึ่ง หลาย ๆ หมื่นทั้งนั้นครับ ปล.น้ำอัดลมขายดีมาก เต็มรถเข็น เข็นกันแทบไม่ไหวกันเลย … Paul December 7, 2012 at 10:44 pm Reply ขอบคุณครับสำหรับบทวิเคราะห์ ขอถามเพิ่มเติม 1. HoReCa จะมีสาขาที่สองที่ไหนครับระยะเวลาห่างจากสาขาแรกนานมาก หรือว่าเป็นเพราะMakro นิยมซื้อที่ดินแทนการเช่าจึงทำให้หาพื้นที่อย่างรอบคอบมากขึ้น 2. พี่มองว่าการลงทุนที่เวียดนาม จะเป็นสิ่งที่ทำให้Makro โตขึ้นมากมั้ย ต้องใช้ระยะเวลากี่ปี chamnan028 December 8, 2012 at 11:30 am Reply HoReCa เป็นกลยุทธ์การตลา่ดนะครับ (ไม่ใช่สาขาหรือห้างนะครับ) โดยมุ่งเน้นลูกค้าที่ีกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม สินค้า เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารสด … ครับ Paul December 8, 2012 at 2:08 pm Reply ตอนนี้เปิดHoReCa ที่หัวหินเป็นสาขาแรกเมื่อต้นปี2555 ซึ่งประสพความสำเร็จเป็นอย่างดี ก็น่าจะขยายไปตามแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ เพื่อเจาะกลุ่มนี้โดยเฉพาะ. สำหรับการปรับเลย์เอาท์ในสาขาเดิมโดยใช้กลยุทธนี้ทางแมคโครก็ทำได้้ดีอยู่แล้ว เอก December 8, 2012 at 5:45 pm Reply Horeca มีอีกสาขานึงที่สมุยครับ เวียดนามเป็นการขายแบบ trading company. ครับ ไม่ได้เปิดสาขา คิดว่าไม่น่ามี impact กับงบ makro ครับ damiano December 12, 2012 at 3:30 am Reply แอบเห็นต่างนิดนึงครับ เรื่องจำนวนสาขาที่น้อยกว่าของ makro เมื่อเทียบกับ bigc lotus ผมมองว่า เป็น opportunity ด้วยเช่นกัน เพราะ เมื่อมีการขยายสาขา จะทำให้มี growth ได้สูงกว่า ทั้งในแง่ของรายได้และมาจิ้น (ฐานต่ำกว่านั้นเอง) damiano December 12, 2012 at 3:35 am Reply ถ้าสังเกตเพิ่มอีกหน่อย จะเห็นข้อได้เปรียบอีกอย่างของ makro นะครับว่า จำนวนสาขานั้น น้อยกว่า bigc lotus อยู่ถึงครึ่งนึง แต่ว่ารายได้น้อยกว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า แสดงให้เห็นว่า ยอดขายต่อสาขาที่สูงกว่า ซึ่งตรงนี้ ถ้าหากว่ามีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในสัดส่วนเท่าๆกัน อาจจะได้เห็น makro ทำยอดขาย แซงหน้า เป็น เบอร์1 ในได้อีก 3-4 ปีข้างหน้าก็ได้นะครับ Leave a Reply Cancel replyYour email address will not be published. Required fields are marked *Name * Email * Website Comment * Save my name, email, and website in this browser for the next time I comment. Δ
atip834 December 5, 2012 at 11:36 am Reply Dr.Kai ขอบคุณมากครับ เขียนได้ดี กระชับได้ใจความดีครับ พอเป็นไปได้ที่จะเล่าถึงแนวทางการเติบโตเชิงเปรียบเทียบ ระหว่าง BigC และ MAKRO มั๊ยครับ ? ความเห็นส่วนตัว พบว่า BigC มีการทำเรื่องพื้นที่เช่าได้ดี มีประสิทธิภาพมากๆ มองว่าน่าจะเป็นแนว Growth ของ BigC อ่ะครับ
nut776 December 5, 2012 at 12:12 pm Reply เห็นยอดขายเทียบกับ bigc lotus แล้วตกใจ ไม่ห่างมาก ไม่ทราบมีหลายๆปีย้อนหลังไหมคับ มาตกใจอีกที คือ sssg พอบอกสูงสุดในกลุ่ม งงเลย ขอบคุณข้อมูลคับ
Dr Kai December 5, 2012 at 1:50 pm Reply ขอตอบนะครับ Makro ในระยะต่อไป จะเน้นการเติบโตในช่องทาง fresh food กับ horeca ครับ เข้าใจว่า margin น่าจะดีกว่าของแห้ง ส่วนพื้นที่เช่านี่เป็นอะไรที่ makro ไม่ได้เน้นเลยครับ ตอบคุณ nut 776 ยอดขาย lotus ผมไม่มีย้อนหลังหลายปีนะครับ ที่เอามานี้ รู้สึกว่าจะเอามาจากบทวิเคราะห์ ของบัวหลวง หรือกรุงศรี นี่แหละครับ ยอดขายนี่ไม่รวมค่าเช่านะครับ ถ้ารวมจะห่างกันพอสมควร ส่วน sssg makro สูงกว่า bigc มาหลายไตรมาสติดต่อกันแล้วครับ makro ประมาณ 6-7% bigc จะอยู่ที่ 3-4% ครับ link ข้างล่างเปรียบเทียบ bigc หลังรวม คาร์ฟูร์ แล้ว กับ makro ครับ ของสิ้นปี54 http://www.set.or.th/set/pdfnews.do?file=http%3A%2F%2Fwww.set.or.th%2Fdat%2Fnews%2F201202%2F12005100.pdf http://www.set.or.th/set/pdfnews.do?file=http%3A%2F%2Fwww.set.or.th%2Fdat%2Fnews%2F201202%2F12007143.pdf
เอก December 5, 2012 at 8:58 pm Reply เรียนคุณ atip Makro จะเน้น Horeca ครับ ไม่เน้นพื้นที่เช่า เรียนคุณ nut 7776 Makro SSSG ปี 54 10% ครับ Bigc อยู่ประมาณ 3-4% ไม่รวม คาร์ฟูร์ Cpall ปี 54 = 4.8% (ไม่รวมบัตรโรศัพท์) ยอดขายเป็น ยอดขายอย่างเดียวไม่รวมค่าเช่าครับ
chamnan028 December 7, 2012 at 8:26 pm Reply ขอบคุณมาก ๆ นะครับ สำหรับบทความ และข้อมูล ผมเองชอบกลยุทธ์ HoReCa ที่ Makro ทำได้ดีกว่าคู่แข่งมาก รวมทั้งจ่ายเป็นเงินสด ๆ ทั้งนั้น … ผมเคยไปสังเกตุ จ่ายกันบิลหนึ่ง หลาย ๆ หมื่นทั้งนั้นครับ ปล.น้ำอัดลมขายดีมาก เต็มรถเข็น เข็นกันแทบไม่ไหวกันเลย …
Paul December 7, 2012 at 10:44 pm Reply ขอบคุณครับสำหรับบทวิเคราะห์ ขอถามเพิ่มเติม 1. HoReCa จะมีสาขาที่สองที่ไหนครับระยะเวลาห่างจากสาขาแรกนานมาก หรือว่าเป็นเพราะMakro นิยมซื้อที่ดินแทนการเช่าจึงทำให้หาพื้นที่อย่างรอบคอบมากขึ้น 2. พี่มองว่าการลงทุนที่เวียดนาม จะเป็นสิ่งที่ทำให้Makro โตขึ้นมากมั้ย ต้องใช้ระยะเวลากี่ปี
chamnan028 December 8, 2012 at 11:30 am Reply HoReCa เป็นกลยุทธ์การตลา่ดนะครับ (ไม่ใช่สาขาหรือห้างนะครับ) โดยมุ่งเน้นลูกค้าที่ีกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม สินค้า เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารสด … ครับ
Paul December 8, 2012 at 2:08 pm Reply ตอนนี้เปิดHoReCa ที่หัวหินเป็นสาขาแรกเมื่อต้นปี2555 ซึ่งประสพความสำเร็จเป็นอย่างดี ก็น่าจะขยายไปตามแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ เพื่อเจาะกลุ่มนี้โดยเฉพาะ. สำหรับการปรับเลย์เอาท์ในสาขาเดิมโดยใช้กลยุทธนี้ทางแมคโครก็ทำได้้ดีอยู่แล้ว
เอก December 8, 2012 at 5:45 pm Reply Horeca มีอีกสาขานึงที่สมุยครับ เวียดนามเป็นการขายแบบ trading company. ครับ ไม่ได้เปิดสาขา คิดว่าไม่น่ามี impact กับงบ makro ครับ
damiano December 12, 2012 at 3:30 am Reply แอบเห็นต่างนิดนึงครับ เรื่องจำนวนสาขาที่น้อยกว่าของ makro เมื่อเทียบกับ bigc lotus ผมมองว่า เป็น opportunity ด้วยเช่นกัน เพราะ เมื่อมีการขยายสาขา จะทำให้มี growth ได้สูงกว่า ทั้งในแง่ของรายได้และมาจิ้น (ฐานต่ำกว่านั้นเอง)
damiano December 12, 2012 at 3:35 am Reply ถ้าสังเกตเพิ่มอีกหน่อย จะเห็นข้อได้เปรียบอีกอย่างของ makro นะครับว่า จำนวนสาขานั้น น้อยกว่า bigc lotus อยู่ถึงครึ่งนึง แต่ว่ารายได้น้อยกว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า แสดงให้เห็นว่า ยอดขายต่อสาขาที่สูงกว่า ซึ่งตรงนี้ ถ้าหากว่ามีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในสัดส่วนเท่าๆกัน อาจจะได้เห็น makro ทำยอดขาย แซงหน้า เป็น เบอร์1 ในได้อีก 3-4 ปีข้างหน้าก็ได้นะครับ
Dr.Kai ขอบคุณมากครับ เขียนได้ดี กระชับได้ใจความดีครับ พอเป็นไปได้ที่จะเล่าถึงแนวทางการเติบโตเชิงเปรียบเทียบ ระหว่าง BigC และ MAKRO มั๊ยครับ ? ความเห็นส่วนตัว พบว่า BigC มีการทำเรื่องพื้นที่เช่าได้ดี มีประสิทธิภาพมากๆ มองว่าน่าจะเป็นแนว Growth ของ BigC อ่ะครับ
เห็นยอดขายเทียบกับ bigc lotus แล้วตกใจ ไม่ห่างมาก
ไม่ทราบมีหลายๆปีย้อนหลังไหมคับ
มาตกใจอีกที คือ sssg พอบอกสูงสุดในกลุ่ม งงเลย
ขอบคุณข้อมูลคับ
ขอตอบนะครับ
Makro ในระยะต่อไป จะเน้นการเติบโตในช่องทาง fresh food กับ horeca ครับ เข้าใจว่า margin น่าจะดีกว่าของแห้ง ส่วนพื้นที่เช่านี่เป็นอะไรที่ makro ไม่ได้เน้นเลยครับ
ตอบคุณ nut 776 ยอดขาย lotus ผมไม่มีย้อนหลังหลายปีนะครับ ที่เอามานี้ รู้สึกว่าจะเอามาจากบทวิเคราะห์ ของบัวหลวง หรือกรุงศรี นี่แหละครับ ยอดขายนี่ไม่รวมค่าเช่านะครับ ถ้ารวมจะห่างกันพอสมควร
ส่วน sssg makro สูงกว่า bigc มาหลายไตรมาสติดต่อกันแล้วครับ makro ประมาณ 6-7% bigc จะอยู่ที่ 3-4% ครับ link ข้างล่างเปรียบเทียบ bigc หลังรวม คาร์ฟูร์ แล้ว กับ makro ครับ ของสิ้นปี54
http://www.set.or.th/set/pdfnews.do?file=http%3A%2F%2Fwww.set.or.th%2Fdat%2Fnews%2F201202%2F12005100.pdf
http://www.set.or.th/set/pdfnews.do?file=http%3A%2F%2Fwww.set.or.th%2Fdat%2Fnews%2F201202%2F12007143.pdf
เรียนคุณ atip Makro จะเน้น Horeca ครับ ไม่เน้นพื้นที่เช่า
เรียนคุณ nut 7776 Makro SSSG ปี 54 10% ครับ
Bigc อยู่ประมาณ 3-4% ไม่รวม คาร์ฟูร์
Cpall ปี 54 = 4.8% (ไม่รวมบัตรโรศัพท์)
ยอดขายเป็น ยอดขายอย่างเดียวไม่รวมค่าเช่าครับ
BIGC54 5.6% ครับ ขอแก้ไข
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ สำหรับบทความ และข้อมูล
ผมเองชอบกลยุทธ์ HoReCa ที่ Makro ทำได้ดีกว่าคู่แข่งมาก
รวมทั้งจ่ายเป็นเงินสด ๆ ทั้งนั้น … ผมเคยไปสังเกตุ จ่ายกันบิลหนึ่ง หลาย ๆ หมื่นทั้งนั้นครับ
ปล.น้ำอัดลมขายดีมาก เต็มรถเข็น เข็นกันแทบไม่ไหวกันเลย …
ขอบคุณครับสำหรับบทวิเคราะห์
ขอถามเพิ่มเติม
1. HoReCa จะมีสาขาที่สองที่ไหนครับระยะเวลาห่างจากสาขาแรกนานมาก หรือว่าเป็นเพราะMakro นิยมซื้อที่ดินแทนการเช่าจึงทำให้หาพื้นที่อย่างรอบคอบมากขึ้น
2. พี่มองว่าการลงทุนที่เวียดนาม จะเป็นสิ่งที่ทำให้Makro โตขึ้นมากมั้ย ต้องใช้ระยะเวลากี่ปี
HoReCa เป็นกลยุทธ์การตลา่ดนะครับ (ไม่ใช่สาขาหรือห้างนะครับ) โดยมุ่งเน้นลูกค้าที่ีกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม สินค้า เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารสด … ครับ
ตอนนี้เปิดHoReCa ที่หัวหินเป็นสาขาแรกเมื่อต้นปี2555 ซึ่งประสพความสำเร็จเป็นอย่างดี ก็น่าจะขยายไปตามแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ เพื่อเจาะกลุ่มนี้โดยเฉพาะ. สำหรับการปรับเลย์เอาท์ในสาขาเดิมโดยใช้กลยุทธนี้ทางแมคโครก็ทำได้้ดีอยู่แล้ว
Horeca มีอีกสาขานึงที่สมุยครับ เวียดนามเป็นการขายแบบ trading company. ครับ ไม่ได้เปิดสาขา คิดว่าไม่น่ามี impact กับงบ makro ครับ
แอบเห็นต่างนิดนึงครับ เรื่องจำนวนสาขาที่น้อยกว่าของ makro เมื่อเทียบกับ bigc lotus ผมมองว่า เป็น opportunity ด้วยเช่นกัน เพราะ เมื่อมีการขยายสาขา จะทำให้มี growth ได้สูงกว่า ทั้งในแง่ของรายได้และมาจิ้น (ฐานต่ำกว่านั้นเอง)
ถ้าสังเกตเพิ่มอีกหน่อย จะเห็นข้อได้เปรียบอีกอย่างของ makro นะครับว่า จำนวนสาขานั้น น้อยกว่า bigc lotus อยู่ถึงครึ่งนึง แต่ว่ารายได้น้อยกว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า แสดงให้เห็นว่า ยอดขายต่อสาขาที่สูงกว่า ซึ่งตรงนี้ ถ้าหากว่ามีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในสัดส่วนเท่าๆกัน อาจจะได้เห็น makro ทำยอดขาย แซงหน้า เป็น เบอร์1 ในได้อีก 3-4 ปีข้างหน้าก็ได้นะครับ