ข้อดีของทีวีดาวเทียมคือกระจายสัญญาณลงมาจากดาวเทียม ทำให้ไม่ต้องวางระบบโครงสร้างพื้นฐานบนพื้นดิน จึงเป็นการลงทุนต่ำกว่า และยังทำให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศได้ง่ายกว่าด้วย แต่อาจมีข้อเสียบ้างเรื่องสัญญาณขาดหายในช่วงที่ฝนตกหนัก ซึ่ง
ก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่ใหญ่มากนักหากเทียบกับข้อดี
ข้อดีที่สำคัญอีกอย่างคือ ไม่มีค่ารายเดือน จ่ายก้อนแรกครั้งเดียว ทำให้ทีวีดาวเทียมได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ยังไม่นับการที่่ช่วยให้ดูฟรีทีวีได้ชัดขึ้นด้วย (แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ติดจาน เพราะเข้าใจว่ามีค่ารายเดือน) แต่ปัญหาก็คือ ผู้ผลิตรายการมีแหล่งรายได้น้อย ในขณะที่จำนวนช่องก็มีเยอะมากจนสร้างฐานลูกค้าของแต่ละช่องค่อนข้างเล็ก ทำให้งบการผลิตรายการต้องน้อยตาม รายการเลยไม่ค่อยมีคุณภาพ หรือต้องมีโฆษณาแอบแฝงเยอะ
กสทช. กำหนดให้ทีวีดาวเทียมมีโฆษณาได้ไม่เกินชั่วโมงละห้านาที ปัจจุบันช่องที่มีเรดติ้งดีอันดับต้นๆ เก็บค่าโฆษณาได้ 3, 000 – 15, 000 ต่อนาที แต่ก็มีอยู่ไม่กี่ช่องเท่านั้น ที่เหลือส่วนใหญ่เก็บได้แค่ 500-2, 000 บาท ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับฟรีทีวี (น้อยกว่าอย่างน้อย 10 เท่า) ในขณะที่ แต่ละช่องเองมีต้นทุนค่าเช่าช่องสัญญาณที่ต้องจ่ายเจ้าของดาวเทียมเป็นค่่าใช้จ่ายแน่นอนในอัตรา 500, 000 ต่อเดือน ช่องที่มีกำไรจริงๆ จึงมีแค่ไม่กี่ช่อง(ตัวอย่างเช่น ช่องบันเทิงของอาร์เอส 2-3 ช่อง หรือช่องของ WORK เป็นต้น ส่วนแกรมมี่นั่นเข้าใจว่าช่องส่วนใหญ่ยังขาดทุนอยู่) หลายๆ บริษัทกำลังดิ้นหาแหล่งรายได้ใหม่เพิ่มเติม เช่น การนำระบบ Pay TV มาเป็นบริการเสริม เป็นต้น
จานดาวเทียมที่มีอยู่ในเวลานี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ พวกแรกคือจานดำใหญ่ๆ (C band) ที่มี PSI เป็นเจ้าตลาด และมีคู่แข่งอีกเยอะแยะมากมาย เช่น Infosat, Thaisat, Ideaset เป็นต้น เชื่อว่าน่าจะมีอยู่ประมาณ 7-8 ล้านจานในประเทศไทย เพราะมีมานานมากแล้ว
ส่วนประเภทที่สองคือจานเล็ก (KU Band) มีเจ้าตลาด 2 เจ้าใหญ่คือ ทรู (จานแดง) ประมาณ 2 ล้านจาน ฐานลูกค้าอยู่ในกทม.เยอะ และ DTV (จานเหลือง) ของไทยคม ฐานลูกค้าอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่า อีกประมาณ 1 ล้านจาน โดยที่จานแดงของทรูนั้นสามารถรับชมเคเบิลทีวีของทรูได้ด้วยหากเสียเงินค่าสมาชิกรายเดือน
เมื่อปีที่แล้วมีผู้ผลิตรายการเจ้าใหญ่กระโดดเข้ามาแย่งชิงตลาดฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้นโดยให้ครัวเรือนใช้จานเดิมที่มีอยู่แล้วได้ แต่ซื้อกล่องถอดรหัสมาติดเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้สามารถดูช่องพิเศษเพิ่มเติมได้ ได้แก่ กล่อง GMM Z ของแกรมมี่ และ RS Sunbox ของ RS (ถ้าต้องใช้จานใหม่ด้วยคงไม่มีใครเอาแล้ว เพราะรกหลังคาไปหมด) ซึ่งทั้งสองค่ายก็เปิดเกมรุกซื้อส่วนแบ่งตลาดแบบฉับพลันด้วยการบีบคอคนดูฟุตบอลยูโรโดยแกรมมี่ ซึ่งขายไปได้ 1.2 ล้านกล่อง และ ลาลีก้า โดยอาร์เอส ซึ่งเป็นการซื้อลูกค้าด้วยเงินจำนวนไม่น้อย และหวังจะเอาทุนคืนในระยะยาวจากการที่ได้ฐานลูกค้าเพิ่ม จนกลายไปเป็นดราม่าจอดำเมื่อปีที่แล้ว
ข้อดีของกล่องคือใช้ได้กับจานของทุกค่าย ทำให้ไปๆ มาๆ เจ้าของจานเองก็ต้องดิ้นแข่งด้วยการจับมือกันเองเพื่อให้ได้ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นเช่นกัน ทรูหันไปจับกับ PSI โดยส่งสัญญาณช่องจานแดงของตัวเองไปออกจาน PSI เพื่อให้คนที่มีจาน PSI ดูได้ด้วยการเพิ่มกล่องเข้าไป (PSI True TV) ส่วน DTV ก็ทำเช่นเดียวกันด้วย (PSI OK) เพราะในเมื่อต้นทุนค่าผลิตรายการเท่าเดิม ทุกค่ายก็ย่อมอยากให้รายการที่ผลิตออกมาเข้าถึงผู้ชมได้มากช่องทางที่สุดเท่าที่จะมากได้ สุดท้ายแล้วดูเหมือนเกมนี้จะทำให้ทุกบ้านดูได้ทุกช่องเหมือนกันหมดในที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นการแข่งขันที่ผู้บริโภคเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ แต่เป็นประโยชน์ในแง่ปริมาณเท่านั้น (ช่องเยอะ) ไม่่ใช่คุณภาพรายการ
เชื่อว่าที่สุดแล้วแต่ละค่ายก็คงต้องกลับมาแข่งกันที่คอนเทนต์เพื่อแย่งคนดูกันอีกอยู่ดี เพราะถ้าทุกบ้านดูได้ทุกช่องเหมือนกันหมดแล้วใครคุมฮาร์ดแวร์ก็จะไม่ได้เปรียบอะไร ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ผมก็ยังมองว่าปัญหาใหญ่ของทีวีดาวเทียมก็ยังเป็นเรื่องเดิมคือ การมีช่องที่มากเกินไป ทำให้แต่ละช่องสร้างฐานคนดูได้ยาก ไม่คุ้มที่จะผลิตรายการคุณภาพสูงๆ เมื่อรายการมีคุณภาพไม่พอ ก็ไม่ติดตลาด กลายเป็นปัญหาที่วกกลับมาเป็นงูกินหาง
คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ น่าจะเป็นเจ้าของดาวเทียมที่มีคนมาเช่าช่องสัญญาณมากขึ้น และพวกสโมสรฟุตบอลที่มีช่องทีวีมาแย่งกันประมูลสิทธิ์เพื่อนำมาใช้เป็นตัวดึงดูดความสนใจจากลูกค้า
จาน PSI : (215 ช่อง)
ช่องจานแดง (ดูฟรี 60 ช่อง) : http://www.truevisionstv.com/package.aspx?id=13
ช่องจานเหลือง (ดูฟรี 50 ช่อง) : http://www.dtvthai.com/chanel.php
กล่อง Z (5 ช่อง) : http://www.gmmz.tv/
กล่อง RS Sun box (5 ช่อง) : http://www.rssunbox.com/real/satellite.php?p=4
Thank you very much 🙂
ขอบคุณครับ เห็นภาพรวมของทีวีดาวเทียมเลย
ขอบคุณครับพี่โจ๊ก เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นเลยครับ^_^
ได้ความรู้มากมายขอบคุณมากคะ
มีโอกาส ที่ RS True GMM จะแข่งกันดุเดือด เรื่องค่าบริการ /เดือน ด้วยรึป่าวครับพี่? นอกจากแข่งคอนเท้นท์ โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องดูแบบลุ้นสดๆ เพราะคอนเท้นท์ทางด้านบันเทิง หาดูตามเน็ทได้อยู่แล้ว …. ยิ่งตอนนี้พรีเมียร์ลีกตกไปอยู่กับ CTH ของคุณวิชัย ด้วยแล้ว ยิ่งฝุ่นตลบกันเข้าไปใหญ่
แต่ถ้าแข่งกันตัดราคาจริง น่าจะไม่ดีต่อทั้ง RS True Gmm ?
ผมว่ามันจะยุ่งอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าทุกบ้านต้องสมัครสมาชิกทุกกล่อง เพื่อดูฟุตบอลทุกสโมสร อาจจะต้องเสียเดือนละ 4000 เลยก็ได้ ซึ่งคงมีครัวเรือนน้อยมากที่ทำได้ ครัวเรือนก็ต้องเลือกสมัครแค่อันที่อยากดูจริงๆ เท่านั้น เพราะช่องที่เหลือส่วนใหญ่มันก็เหมือนๆ กัน แต่ถ้าอย่างนี้กล่องเล็กๆ ก็อยู่ไม่ได้ ก็ต้องดิ้นหาวิธีทำรายได้ เผลอๆ สุดท้ายแล้ว ได้ดูเหมือนกันหมดทุกระบบอีกตามเคย
I think except for EPL, pay TV for sport program will be too difficult to be profitable in Thailand na krub. Also if the speed of broadband internet is improved, we can watch live online match free via PC.
เท่าที่อ่านดูเหมือนกับว่าจริงๆแล้ว ไม่ค่อยมีใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เท่าไหร่นะครับ แต่ราคาหุ้นตอบสนองเรื่องนี้ไปมากเกินจริงๆหรือเปล่าครับ
ประโยชน์จริงๆ คงจะพอมีอยู่บ้างในระยะสั้น โดยเฉพาะรายที่เพิ่งกระโดดเข้ามาใหม่ (ไม่เคยมีช่องของตัวเองมาก่อน) เพราะจะเป็นช่องทางใหม่ในการเพิ่มรายได้ แต่สุดท้ายแล้วรายได้นั้นของใครจะนำมาซึ่งกำไรหรือว่าขาดทุนนั้น ต้องรอผลลัพธ์ในระยะยาว
อย่าง GRAMMY ปีที่แล้ว แค่บอกว่าจะทำช่องทีวี ราคาหุ้นก็ปรับตัวรับข่าวไปเยอะมากเป็นเท่าๆ เลย แต่พอปลายปีพบว่า ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ราคาก็ปรับตัวกลับลงมาเหมือนเดิม
ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า ตลาดหุ้นในระยะสั้น แค่ทำตัวให้เป็นข่าว ราคาหุ้นก็ขึ้นแล้ว ส่วนสุดท้ายแล้วข่าวนั้นจะส่งผลบวกหรือลบต่อธุรกิจ ไม่มีใครสนใจเท่าไร เมื่อถึงเวลานั้น ทุกคนก็หันไปสนใจข่าวต่อไปเรียบร้อยแล้ว โอละพ่อ!
งบ GRAMMY ออกแล้ว รายได้ +25% แต่ขาดทุนหนัก 347 ล้านบาท
ช่องทีวีใหม่เป็นช่องทางเพิ่มรายได้ของเจ้าใหม่ๆ ได้แน่ๆ แต่สุดท้ายแล้วจะกำไรหรือว่าขาดทุนก็ได้
🙂
อ่านดูแล้ว แบบนี้ดูเหมือนกับว่าบริษัทที่ทำ content น่าจะได้ประโยชน์กว่าบริษัทที่ทำพวกฟอร์แมตหรือป่าวครับ
เนื่องจากไม่ต้องลงทุนเยอะและสามารถกระจายไปยังช่องทางอื่นๆได้มากกว่ารวมทั้งทีวีดิจิตอลด้วย
ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ
ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่เจ้าของคอนเทนต์ต้องมีความยั้บยั้งขั่งใจมากพอที่จะไม่อยากเข้าไปประมูลเพื่ออยากเป็นเจ้าของช่องด้วย ไม่ต้องลงทุนสูงๆ
เนชั่น จ่อออกหุ้นกู้ 2 พันล้าน
http://www.manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000026759
AC Nielson บอกว่า ช่องดาวเทียมที่มีเรตติ้งสูงสุดคือ ช่อง 8 ของ RS (ไม่รู้เหมือนกันว่าสำรวจมาดีแค่ไหน)
ใครชอบดูช่องนี้บ้าง มองออกไม่ครับว่า ทำไมช่องนี้ถึงประสบความสำเร็จ แชร์กันได้ครับ
คอนเซปต์ของช่อง8ในความเห็นของผมนะครับ คือ ทำทุกอย่างให้ดราม่า+น้ำเน่าให้มากที่สุด ตอบโจทย์คนชั้นกลางถึงล่าง
จุดแข็งของช่อง8
1) rs มีศิลปินที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว พวกนี้หน้าตาดีแสดงเก่งมากกว่าร้องเพลงเพราะ พอมาทำช่อง8ก็เหมือนมีวัตถุดิบชั้นดีจำนวนมาก ถ้าเทียบกับแกรมมี่ส่วนมากศิลปินร้องเพลงเพราะ ขณะที่workยังมีจำนวนศิลปินน้อยกว่า
2) ละครช่อง8มีคุณบอย ถกลเกียรติ มาช่วยดูด้วยครับ ทีนี้ก็เหมือนมีละครเอ็กแซกท์มาลงช่อง
3) rs เก่งกับการใช้สื่ออยู่แล้วครับ ไปเอาพิ้งกี้มาแสดงทองประกายแสดงอย่างนี้ ไม่มีอะไรก็เอาใบเตยมาถูปลัดขิกลงจออย่างนี้ นี่ล่าสุดกึเอาตั้ก บงกชมาถ่ายละครตอนเป็นข่าวเรื่องหมั้น พอท้องก็ถอนตัวไปเป็นข่าวอีก สรุปว่าละครทุกเรื่องมีกระแสตั้งแต่ยังไม่ฉายตลอด น่าจะทำให้เรตติ้งดีในตอนหลัง (เหมือนหนัง พจน์ อานนท์ ที่ต้องมีดราม่าก่อนฉายทุกเรื่อง)
4) รายการบันเทิงไหนที่ดูพอมีเรตติ้งอาร์เอสcopyมาทำได้ดีเลย เช่น คันปากของช่อง7 แฉแต่เช้าของแกรมมี่ทางวิทยุ rsก็จัดรายการ”ปากโป้ง”ตามเลย ตอนนี้กระแสดีมาก
5) การมีพจน์ อานนท์ ทำให้ได้ประโยชน์จากเครือข่ายของพจน์ไปด้วย
ถ้ามีตรงไหนขาดตกบกพร่องไป คอมเม่นได้เลยนะครับ
แก้ข้อ2)หน่อยครับอยู่บริษัทพิมพ์ผิดๆถูกๆ กลับบ้านมาอ่านแล้วรู้สึกความหมายเพี้ยนไปเลย
คุณบอยไม่ได้มาช่วยสร้างละครนะครับ ที่ว่ามาช่วยดูคือมาเอาดาราจากช่อง8อย่างพิ้งกี้ไปลงละครของเอ็กแซ็ก ทีนี้พอพิงกี้กลับมาเล่นละครช่อง8ก็เหมือนมี”ดารา”เอ็กแซ็กมาลงช่อง
ก็คือคนที่มีคอนเทนต์เอง หรือมีเน็ตเวิร์คของคอนเทนต์ที่ติดตลาดอยู่ในมืออยู่แล้วได้เปรียบ
ใช่ครับ แต่ต้องรู้จักใช้ความได้เปรียบเหล่านั้นด้วยนะครับ อย่างแกรมมี่มีอะไรดีๆในมือเยอะเลย แต่ทำจนมั่วไปหมด
อยากให้พี่สุมาอี้เจาะลึกเกี่ยวกับ internet data center และ cloud computing ด้วยครับว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร ทิศทางของอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทยเป็นอย่างไร และการมาของ 3G และ tv digital จะส่งผลอย่างไรบ้าง ขอบคุณครับ