เราสามารถใช้ Google Trends ตรวจจับปริมาณการสืบค้นคำว่าอะไรก็ได้ของผู้คนบนอินเตอร์เน็ต
เมื่อลองตรวจสอบปริมาณการค้นคำว่า “ราคาทอง” พบว่าเป็นดังนี้
จะเห็นได้ว่าจำนวนคนที่ค้นคำว่า “ราคาทอง” นั้นพุ่งขึ้นมาตลอดสามปีหลัง และดูเหมือนจะพุ่งเร็วเป็นพิเศษทุกครั้งที่ราคาทองผันผวน และปี 2012 นั้น เป็นปีที่เพิ่มขึ้นมากอย่างน่าตกใจ ก่อนที่จะลดลงในช่วงปลายปี เนื่องจากราคาทองคำค่อยๆ ซึมลงอย่างเนิบๆ และเมื่อเร็วๆ นี้ มันก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อราคาทองหลุดแนวรับสำคัญ
ว่ากันว่า การปรับตัวขึ้นของราคาสินทรัพย์นั้น จะเริ่มต้นจากการที่สินทรัพย์นั้นอยู่ในมือของนักลงทุนรายใหญ่เป็นส่วนใหญ่ แล้วค่อยๆ ผ่องถ่ายไปยังนักลงทุนรายย่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ขาขึ้นจะจบลงเมื่อกระบวนการนี้สิ้นสุดลงแล้ว นั่นคือสินทรัพย์ส่วนใหญ่อยู่ในมือของรายย่อยแล้ว
บางที Google Trends อาจใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการวัดปรากฎการณ์อันนี้ก็ได้ เพราะนักลงทุนรายใหญ่ย่อมมีแค่ไม่กี่รายทำให้สร้างปริมาณการสืบค้นได้ไม่มาก เมื่อไรก็ตามที่ปริมาณการสืบค้นเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด อาจหมายถึง การที่สินทรัพย์นั้นอยู่ในมือของชาวบ้านทั่วไปเป็นส่วนใหญ่แล้วก็ได้
รบกวนพี่โจ๊กแนะนำ Leading Indicators in Stock Market ตัวอื่นให้หน่อยครับ
leading indicator ที่ใช้นำตลาดได้จริงๆ มีน้อยมากครับ เพราะราคาหุ้นเคลื่อนไหวได้รวดเร็วที่สุด ทันทีที่เรารู้อะไรมาจากที่ไหน เราก็เอาข้อมูลตรงนั้นมา trade ได้ทันที ในขณะที่ตัวเลขต่างๆ กว่าจะเก็บข้อมูล ตีพิมพ์ จัดแถลงข่าว ก็ช้ามากแล้ว
leading indicator ที่นำตลาดได้จริงๆ อาจจะต้องเป็น “ตลาด” เหมือนกัน เช่น ค่าเงิน หรือ ตลาดอนุพันธ์ ครับ
แต่ในบรรดาตัวเลขทางเศรษฐกิจ ผมชอบ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม มากที่สุด เพราะมีการ update ทุกเดือน ถือว่าค่อนข้างเร็ว ส่วนตัวเลขการจ้างงานก็อัพเดททุกเดือนเหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือว่า เป็นตัวเลขที่เชื่อถือได้น้อย
แนวคิดน่าสนใจมากครับ