โอกาสที่หุ้นที่เราถือจะตกหนักๆ นั้น อาการ panic ของคนยังไม่สำคัญมากเท่ากับการที่คนจำนวนมากที่ถือหุ้นตัวนั้นอยู่ใช้มาร์จ้ินอยู่ เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตลาดถึงระดับหนึ่ง อาจมีคนส่วนหนึ่งถูกบังคับขาย แม้ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่ก็ต้องขายเพราะความจำเป็น ทำให้หุ้นตัวนั้นตกแบบรุนแรงได้ ถือเป็น blackswan อย่างหนึ่ง การสำรวจรายชื่อหุ้น 50 ตัวแรกที่มีคนใช้มาร์จิ้นซื้อมากที่สุดเอาไว้ด้วย น่าจะเป็นการดี
เข้าไปที่ http://www.set.or.th/th/market/market_statistics.html แล้วเลื่อนลงมาที่ สรุปรายงานหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นสูงสุด 50 อันดับแรก จากนั้นคลิกที่ไอคอนรูปสเปรดชีสของเดือนล่าสุดที่มี เพื่อดาวน์โหลดสเปรดชีส
ใช้ microsoft excel เป็นไฟล์นั้นขึ้นมา ตัวเลขเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เห็นอยู่นั้นอาจจะทำให้เราได้ภาพที่ยังคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะที่จริงแล้ว สิ่งที่เราสนใจมากกว่าคือ สัดส่วนของหุ้นที่ถูกถือด้วยมาร์จิ้นต่อหุ้นที่ float อยู่ในตลาดทั้งหมด ไม่ใช่ต่อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เพราะหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดเท่านั้นที่น่าจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นมากกว่า ดังนั้นให้คุณลองสร้างคอลัมน์ใหม่ขึ้นเองโดยเอาแถว D ตั้งหารด้วยแถว E ดังภาพ (คลิกที่ภาพเพื่อดูรูปใหญ่)
ตัวเลขที่ได้นี่แหละที่เราสนใจ ถ้ายิ่งมากก็ยิ่งดูอันตราย อย่างในตัวอย่างนี้ NWR ดูน่ากลัวมากแล้ว เพราะมีคนใช้มาร์จิ้นซื้อกันมากถึง 43% ของหุ้นทั้งหมดที่เทรดกันอยู่ในตลาด
หาข้อมูลได้ง่ายมากเลย ขอบคุณครับ
เพิ่งรู้ว่าหุ้นพื้นฐานดีบางตัวคนก็ใช้ margin กันจนน่ากลัว
ใน link ที่พี่ให้มาอ่ะครับผมเปิดดูแล้วมันมี Sheet ข้างล่าง 2 อันไม่ทราบว่าอีกอันหนึ่งบอกอะไรเราเหรอครับ ขบคุณครับ
ดูแล้วเห็นว่าเป็นข้อมูลเดียวกัน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าต่างกันยังไง
sheet rank-count น่าจะเรียงข้อมูลตาม “จำนวนหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้นของลูกค้า (หุ้น)”
ส่วนอีก sheet น่าจะเรียงตาม % ครับ
ขอบคุณครับ
อีกหน่อยเวลามีคนมาถามว่า ตลาดหุ้นฟองสบู่ไปรึเปล่า อะไรทำนองนี้ ผมว่าจะเอาตัวเลขเหล่านี้มาช่วยพิจารณาประกอบน่าจะดี เช่น อาจจะดูว่าโดยเฉลี่ย หุ้นที่ถือด้วยมาร์จิ้นโดยเฉลี่ยสูงหรือต่ำจากปีในอดีตสักแค่ไหน
ตลาดจัดอันดับตามจำนวนหุ้น หุ้นราคาแพงๆก็ไม่ติดซิ
ตลาดน่าจะจัดอันดับตามมูลค่า
แต่แบบนี้มันบอกได้เลยไงคับว่าระดับหุ้นตัวนั้นมันอันตรายแค่ไหน
เมื่อเทียบเปอเซ็นมาจิ้นต่อฟีโฟลท
บางตัวอาจคิดเป็นมูลค่าเยอะ
แต่เมื่อเทียบเปอเซ็นมาจิ้นต่อฟีโฟลทแล้วมันมีค่าต่ำ
บางตัวปริมาณสัดส่วนของหุ้นที่ใช้มาร์จิ้นในเดือนมกราคมกระโดดขึ้นมาเลยจากเดือนธันวาปีที่แล้ว! (DEMCO 19–>31%, SABINA 32–>58%)
ขอบคุณครับ
บางโบรค ปรับเพดาน การปล่อยมาร์จิ้น เนื่องจากใช้กันจนเต็ม
ไม่แน่ใจว่า เป็น signal หรือเปล่านะคับ
ถ้าดู D/E ของโบรก ส่วนใหญ่ก็สูง แต่ยังไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับพวก lehman brother, jp morgan ก่อนเกิดวิกฤตซับไพร์ม
D/E ของ โบรก ก็อาจเป็นสิ่งที่หนึ่งเราจับตาดูประกอบไปด้วยได้
ผมพบสถิติที่แปลกอย่างหนึ่งนะครับ
ท่ามกลางการคาดการณ์กันว่าตอนนี้มีคนเล่นมาร์จิ้นมาก แต่สำหรับสัดส่วนหุ้นมาร์จิ้นต่อ free float ของหุ้น 50 ตัวที่ใช้มาร์จิ้นสูงสุด ในเวลานี้ (เดือน กพ) กลับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ในเดือนเดียวกันของปี
กพ 52 32%
กพ 53 28%
กพ 54 22%
กพ 55 23%
กพ 56 19%
น้อยเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว
แสดงว่าที่หุ้นปรับตัวลงช่วงนี้ ไม่ใช่เพราะมาร์จิน อย่างที่เข้าใจกันสิครับ จากข้อมูลนี้ …. ^^
RS กับ PS ก็สูงจนน่าตกใจ …. RS อยู่ที่ 61% , PS อยูู่ที่ 39 % ถ้าเกิดแรงเทขายหนักๆ เจอ Blackswan ได้เหมือนกัน
ได้ยินจรัมพรให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้คนใช้เงินสดซื้อกันเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยลองทำตัวเลขดู ก็ดูสอดคล้องเหมือนกัน
Pingback: 1001ii: สัดส่วนหุ้นถือด้วยมาร์จิ้นต่อ free float ในเวลานี้ค่อนข้างต่ำนะ O-o http://t.co/Ko3hwUlgKC | My Twitter Archive
เป็นเพราะฐานของ free float ใหญ่ขึ้นรึเปล่าครับ
อาจเป็นไปได้ แต่หาตัวเลขนี้ไม่ได้