Skip to content

273: จ้าว (มือ) โลก

ถ้านิยามของ เจ้ามือหุ้น หมายถึง คนที่มีเงินมากพอที่จะส่งอิทธิพลต่อราคาหุ้นในตลาดได้ รวมทั้งมีเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อช่วยสร้างราคาด้วยการออกข่าวต่างๆ ได้แล้ว ในเวทีตลาดเงินและตลาดทุนของโลก เฟด คือ ผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามนิยามนี้ทุกประการ และถือเป็นเจ้ามือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

ในเวทีตลาดเงินตลาดทุนระดับโลก เรามักคิดถึง Hedge Funds ว่าเป็นพวกเจ้ามือที่ปั่นตลาดหุ้น เป็นฝ่ายผู้ร้ายที่ ชอบ short หุ้นของนักลงทุนรายย่อย ฯลฯ

แต่ที่จริง กลุ่มทุนที่มีเงินทุนมากที่สุดในตลาดทุนโลกนั้น ไม่ใช่พวก Hedge Funds แต่เป็นพวก Sovereign Funds ต่างๆ (total size $5 trillions) หรือก็คือ กองทุนที่มาจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัฐบาลประเทศต่างๆ

กลุ่มทุนที่ใหญ่รองลงมาอีกก็คือพวก Private Equity (total size $2.6 trillions) ทั้งหลาย ส่วนพวก Hedge Funds นั้น มีเงินตามมาเป็นแค่อันดับสาม (total size $ 1.8 trillions) เท่านั้น

ในแง่ของการส่งอิทธิพลต่อ Demand และ Supply ในตลาดนั้น รัฐบาลของประเทศมหาอำนาจก็มีอิทธิพลสูงมากเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ประเทศจีนนั้นมีการนำเข้าทองแดงเท่ากับ 70% ของทั้งโลก ดังนั้น แค่การออกนโยบายเพื่อส่งเสริมหรือชะลอการนำเข้าหรือส่งออกหรือเก็บสะสมวัตถุดิบ หรือออกคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐฯ และ State-owned Enterprises ต่างๆ ลงทุนก่อสร้าง ซึ่งเป็นการใช้วัตถุดิบอย่างเช่นทองแดงมากขึ้น จีนประเทศเดียวก็สามารถควบคุมหรือส่งอิทธิพลต่อราคาทองแดงในตลาดโลกได้แบบสบายๆ

ในตลาดน้ำมัน ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปคมีการใช้กำลังการผลิตเต็มตลอดเวลา คงเหลือแต่ภายในกลุ่มโอเปคเองเท่านั้นที่มักรักษากำลังการผลิตสำรองให้เหลืออยู่เสมอ โดยประเทศที่มีกำลังการผลิตสำรองเกือบทั้งหมดของกลุ่มโอเปคก็คือ ซาอุดิอารเบีย การนำกำลังการผลิตส่วนเกินมาใช้ของประเทศนี้ประเทศเดียว สามารถส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกได้อย่างมหาศาล นโยบายของรัฐบาลซาอุดิอารเบียจึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดราคาน้ำมันของโลกได้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจเป็นไปตาม Demand Supply ในระดับหนึงเท่านั้น แต่เมื่อไรที่หลุดกรอบที่ซาอุดิอารเบียต้องการ ซาอุดิอารเบียจะเข้ามาคุมราคาตลาดด้วยการเพิ่มหรือลดกำลังการผลิตส่วนเกิน เพื้อให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศตัวเองมากที่สุดทันที

แต่เจ้ามือของโลกที่ทรงพลังมากที่สุดเลยก็น่าจะเป็น เฟด หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งสามารถพิมพ์เงินได้เอง และยังกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเงินดอลล่าร์ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของโลกได้ด้วย ตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา เฟดเองที่เป็นคนทำให้ตลาดหุ้นเกิดภาวะฟองสบู่อย่างต่อเนื่องโดยตั้งใจ เพราะเศรษฐกิจสหรัฐเป็นเศรษฐกิจของการบริโภค ถ้าราคาสินทรัพย์ต่างๆ สูงขึ้น ความมั่งคั่งของประชาชนจะมากขึ้น ทำให้เกิดกำลังซื้อ เฟด เลือกที่จะให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ มากกว่าเรื่องของเสถียรภาพราคาในเวลานี้ เฟดจึงต้องการให้ตลาดหุ้นสหรัฐดี

เป็นเรื่องตลกอยู่เหมือนกันที่ทุกวันนี้เฟดกลับเป็นคนสร้างฟองสบู่เอง ทั้งที่หน้าที่ของธนาคารกลางคือ การรักษาเสถียรภาพ และการสร้างฟองสบู่ของเฟดก็อยู่ในระดับที่ใหญ่กว่าการสร้างฟองสบู่โดยเจ้ามือหุ้นเอกชนอื่นๆ มากนัก แบบเทียบกันไม่ได้ เพราะเฟดมีศักยภาพที่จะปั่นราคาหุ้นได้ทั้งโลก ไม่ใช่แค่ตัวใดตัวหนึ่ง

บางทีก็ไม่ดูยุติธรรมเหมือนกันที่จะโทษ hedge funds ทุกครั้งที่เกิดวิกฤต ในเมื่อ regulator เองก็แทรกแซงตลาด และยังส่งอิทธิพลมากกว่า hedge funds เสียอีก แถมยังมีข้อได้เปรียบกว่าด้วย เพราะเวลาที่แทรกแซงตลาดนั้น เฟดไม่ต้องแจ้งตลาด แต่สามารถซ่อนธุรกรรมต่างๆ ได้ด้วย ด้วยเหตุผลที่เป็น Policy Makers จึงมิได้ถูกบังคับให้ต้องเปิดเผยตามกฎ กลต. เหมือนอย่างพวกเจ้ามือเอกชน หรือถ้าจะปั่นราคาหุ้นด้วยการออกข่าวนั้นยิ่งทำได้ง่ายใหญ่ เพราะพูดอะไรไป ทุกคนต้องฟังหมด

ตลาดหุ้นทุกวันนี้ การวิเคราะห์เรื่องดีมานด์ซัพพลายหรือภาวะเศรษฐกิจที่เป็นไปตามหลัก Demand/Supply จริงๆ ตามกลไกตลาดนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผลค่อนข้างจำกัด เพราะตลาดทุกวันนี้ไม่ได้เป็นไปตามกลไกตลาดอย่างเดียว แต่ถูกควบคุมให้เป็นไปในทางที่ Policymaker ทั้งหลายต้องการด้วย และ Policymakers ทั้งหลายเหล่านี้ก็มักมีพลังมากพอที่จะบิดเบือนตลาดให้ผิดไปจากความเป็นจริงติดต่อกันได้เป็นเวลานานมาก เช่น การตรีงค่าเงินนั้นธนาคารกลโางสามารถฝืนตลาดได้นาน 6-7 ปีก็ได้ ถ้าจะทำ

ฉะนั้นแล้ว ทุกวันนี้ นักลงทุนจะคิดหรือมองอะไรด้วยหลัก Supply Demand ล้วนๆ ไม่ได้ แต่ยังต้องรับรู้ตลอดเวลาด้วยว่า ธนาคารกลางหรือรัฐบาลของประเทศต่างๆ นั้น มีนโยบายอย่างไร ต้องการให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆ เป็นอย่างไร มันคือสมการสองชั้น หรือในอีกแง่หนึ่งคือเป็น Game Theory นั่นเอง

6 thoughts on “273: จ้าว (มือ) โลก”

  1. อุบ๊ะ นี้มันพล็อตหนังฮอลิวูดเลยครับ

    คนคุมกฎเป็นผู้ร้ายซะเอง, คนที่ดูเหมือนเป็นผู้ร้าย จริงๆแล้วพยายามสู้กับคนคุมกฎ เพื่อช่วยโลก, ส่วนเราๆก็ได้แต่ร้องกรี๊ดๆ -“-

  2. ขอบคุณคร้าบ ท่านแม่ทัพ …เป็นสมการสองชั้น ที่มีตัวแปรมากกว่า 2 ตัว ถอดสมการไม่ได้เรยย

  3. สวัสดีครับพี่โจ๊ก…
    ถ้ายังจำผมได้ ครั้งหนึ่งผมเคยถามคำถามโง่ๆกับพี่ที่ว่า
    ความตั้งใจแรกของการมีตลาดหลักทรัพย์ คือ อะไร และทุกวันนี้เมื่อไทยยังคงเป็นไปตามความตั้งใจนั้นหรือไม่…?
    เรื่องจ้าว (มือ) โลก ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าทำให้ตลาดไม่เป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็น แต่เป็นไปในทิศทางตามที่จ้าวมือต้องการ…^^
    ขอเรียนถามต่อว่าแล้วยังมีปัจจัยอื่นอีกไหมครับที่เกิดจากความตั้งใจ ที่สามารถ หรือมีผลกระทบทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงได้ครับ…
    ขอบคุณครับผม…^^

  4. ทุนนิยมเวลานี้มีปัญหาที่เห็นได้ชัดเจนคือการโกง เช่น กรณีของธนาคาร Barclay ที่ประกาศอัตราดอกเบี้ย LIBOR แบบหลอกๆ หรือ กรณีของ CITI และ Goldman Sach ที่แนะนำลูกค้าอย่างหนึ่ง แล้วตัวเองก็ไปเทรดตรงกันข้าม

    ทุกระบบสามารถมีปัญหาได้ เมื่อมีปัญหาก็ต้องหาทางแก้ไขครับ แต่ไม่คิดว่าจะต้องล้มระบบทุนนิยมทั้งหมด สุดท้ายแล้วโลกเราคงต้องเป็นทุนนิยมนั่นแหละ แต่มีการเปลี่ยนแปลงในบางส่วน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *