บ้านเรา หุ้นกลุ่มพาณิชย์ ในเวลานี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็น Superstock แทบทุกคนก็น่าจะเห็นด้วยกันหมดแล้วว่าเป็นธุรกิจที่ค่อนข้าง
แข็งแกร่ง แต่ในเวลาเดียวกัน Valuation ของหุ้นกลุ่มนี้ก็สูงมากตามความนิยมของตลาดไปด้วย ยังไงหุ้นกลุ่มนี้คงต้องอยู่ใน Watch List ของเราอยู่แล้ว เพราะสอบผ่านเรื่องพื้นฐานแน่ๆ แต่โอกาสที่จะได้ซื้อในยุคนี้คงมีน้อย (ผมเดาว่า ในตอนเริ่มต้น DG นั้น เราอาจจะต้องเริ่มต้นด้วยหุ้นระดับ B หรือ B+ ไปก่อน ส่วนหุ้น A หรือ A+ อาจจะยังไม่ใช่จังหวะของเรา เอาไว้ให้มีโอกาสที่พวกหุ้นระดับ A หล่นลงมาเป็นบางตัวให้ซื้อ หรือตลาดหุ้นตกลงมาแบบรุนแรงมาก ก็ค่อยหาโอกาสขยับปรับพอร์ตของเราให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นอีกที)
พาณิชย์ : BIGC, CPALL, ROBINS, GLOBAL, HMPRO, BJC, OFM
เหตุผลคงไม่ต้องอธิบายเยอะล่ะมั่ง ส่วนใหญ่คงเห็นด้วยกันอยู่แล้ว
นอกจากกลุ่มพาณิชย์แล้ว กลุ่มโรงพยาบาลก็คือว่าเป็น super stock ของบ้านเราเหมือนกัน แต่ผมจะชอบโรงพยาบาลที่มีความเป็นสากล และมีนโยบายเติบโตด้วย
โรงพยาบาล : BGH, BH
บ้านเราถือว่าเป็นประเทศท่องเที่ยว หุ้นโรงแรมจึงดูว่าน่าสนใจ เพราะเราน่าจะทำได้เก่งกว่าประเทศอื่น และคนไทยก็น่าจะเก่งเรื่องบริการกว่าคนชาติอื่นด้วย แต่ในแง่ของพื้นฐานธุรกิจแล้ว โรงแรมเป็นแค่ธุรกิจระดับ B เท่านั้น ต่อให้เป็นโรงแรมหรูก็ตาม เพราะธุรกิจนี้เข้ามาค่อนข้างง่าย ลองนึกดูสิครับ ปีๆ หนึ่งมีโรงแรมเกิดใหม่ตั้งกี่แห่ง เทียบกับโรงพยาบาล ที่เกิดใหม่ยาก ได้แต่ซื้อของเก่ามาควบรวมวนไปวนมา และข้อเสียอีกอย่างของโรงแรมคือ ค่อนข้างอ่อนไหวต่อสถานการณ์การเมือง โรคระบาด ภัยธรรมชาติ และโลกเราสมัยนี้ก็มีข่าวพวกนี้เยอะเสียด้วย
โรงแรม : MINT, CENTEL, ERW, DTC
ขนส่ง : AOT, AAV, BTS, SST
กลุ่มสื่อก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจในบ้านเรา แต่ก็ต้อง selective หน่อย เพราะว่าธุรกิจสื่อนั่นมียุคทองแล้วก็ดับ ดับแล้วก็รุ่งได้บ่อยๆ (hit-driven business) และสื่อที่ในเวลานี้กำลังเป็น sunset business ก็มีมาก เพราะฉะนั้น บริษัทสื่อที่เราจะลงทุนต้องเป็นบริษัทที่มีประวัติของการรับมือกับสื่อดิจิตอลได้เก่งด้วย
ช่วงนี้อาจจะเป็นยุคทองของ BEC นะครับ แต่ผมมองว่า อนาคตของ BEC กลับดูไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าเมื่อเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอลแล้วจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าคงไม่กำไรดีเท่าเดิม เพราะจำนวนช่องมันเยอะมาก ซึ่งเราก็เห็น BEC เองรุกเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เยอะมาก เพื่อเตรียมตัวรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต
MCOT ก็เผชิญความไม่แน่นอนคล้ายกับ BEC เหมือนกัน ส่วนธุรกิจวิทยุก็ดูเป็น sunset ดูแล้วมองอนาคตยาก ขอผ่านไปก่อน
ทั้ง BEC และ MCOT สามารถกลับมาเป็นหุ้นที่น่าสนใจได้ในอนาคต แต่ตอนนี้รอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อนครับ
WORK เป็นตัวที่ผมสนใจ เพราะค่อนข้าง “คม” ในการทำธุรกิจและในเวลาเดียวกัน ก็มีความคิดสร้างสรรค์
RS เป็นอีกตัวหนึ่งที่ปรับตัวเก่งครับ
GRAMMY, SE-ED ผมมองว่า ติดกับดักความสำเร็จของตัวเองในอดีต ทำให้ปรับตัวไม่ได้ หรือปรับตัวแล้วแต่วิธีการก็ยังดูไม่เข้าท่าเท่าไร
NMG, MATI, POST อยู่ในธุรกิจ sunset ครับ ลงทุนแล้วเสียวเปล่าๆ
VGI ก็ “อาจจะ” ดีก็ได้ครับ ยังไม่แน่ใจว่าบริษัทนี้บริหารงานดีแค่ไหน แต่ลักษณะโมเดลของธุรกิจสามารถเป็นหุ้นสำหรับการลงทุนได้
MAJOR ดูเหมือนผูกขาด แต่จริงๆ แล้วก็เป็นการผูกขาดที่ขึ้นราคาไม่ได้เยอะ เพราะเวลาขึ้นราคา คนก็อาจจะดูหนังน้อยลง ในขณะที่ต้องลงทุน CAPEX ใหม่ตลอดเวลา ไม่งั้นโรงหนังดูเก่า แถม MAJOR เองก็ซื้อธุรกิจอื่นๆ ที่แย่ๆ มาเยอะ หวังว่าจะได้ประโยชน์จาก Lifestyle Business ครบวงจร แต่ก็พบว่าไม่ง่ายขนาดนั้น เลยต้องแบกธุรกิจขาดทุนไว้เยอะเหมือนกัน เงินจม เลยยังไม่เข้าตาครับ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะชอบ WORK, RS ที่สุดในกลุ่ม แต่โดยธรรมชาติของธุรกิจนี้ ที่เป็น hit-driven ความไม่แน่นอนสูง ความต่อเนื่องมีน้อย จึงคิดว่าไม่เหมาะกับ DG เท่าไรนัก เลยไม่เลือกอยู่ดีครับ
ขอใส่ VGI ไว้แค่ตัวเดียวก็แล้วกัน แต่ใส่ไว้เฉยๆ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ซื้อ
สื่อ : VGI
คำเตือน: บทความนี้พิจารณาเฉพาะพื้นฐานธุรกิจ โดยไม่สนใจมูลค่าหุ้น สุดท้ายจึงอาจเป็นหุ้นที่ไม่น่าลงทุนเลยก็ได้ เพราะกิจการที่ดีแต่ราคาหุ้นแพงเกินไปนั้น ไม่ใช่การลงทุนที่ดีครับ
เอ ขนส่งไม่ดู THAI กับ NOK บ้างหรอครับ
THAI นี่ไม่ไหวครับ ส่วน NOK ยังใหม่เกินไป
Why SST ครับ? ธุรกิจคลังสินค้าและคลังเอกสารไม่น่าจะโตเท่าไหร่นะครับ ธรุกิจน้ำมันพืชก็ Commodity มาก แถม EOS สู้ TVO ไม่ได้แน่ๆ ที่มีลุ้นคืออาจจะขายที่ดินที่เป็นโรงงานน้ำมันพืชออกไป ส่วนธุรกิจอาหารอย่างเช่น Dunkin donut น้ำตาลกับแป้งเยอะ อนาคตอาจจะไม่ดีหรือเปล่าครับเพราะคนจะใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แถมผมว่าสู้ Mister donut ไม่ได้ เพราะทำเลดีดีในห้างเค้าเอาไปกินหมดเพราะเป็นของเครือเซนทรัล ที่ดูดีที่สุดน่าจะเป็น aubonpain อย่างเดียวหรือเปล่าครับ หรือพี่โจ๊กมองว่า SST น่าจะเอาคลังเอกสารหรือคลังสินค้าไปตั้งกองทุนอสังหาแล้วเอาเงินไปลุยธุรกิจอาหารต่อ แต่ราคาที่ไปซื้อ บ. มัดแมน มาก็ไม่ถูกเลยนะครับ
รบกวนสอบถามอีกเพื่อเป็นความรู้ ไม่ทราบว่าหุ้นที่จะเป็น A หรือ A+ ในนิยามของพี่โจ๊ก คือต้องเป็นธุรกิจที่มี BTE สูง และก็มี Demand trend ที่ดีด้วยหรือเปล่าครับ คือถ้าผ่านเกนฑ์ 2 ข้อนี้ถึงจะเป็นหุ้น A หรือ A+ หรือถ้าใน 5 Forces อันไหนสำคัญที่สุดครับ คือถ้ามองในมุมมองของผมตาม List รายการหุ้นด้านบน หุ้นที่เป็น A+ มีแค่ CPALL ตัวเดียวเพราะ 5 Forces ดีทุกด้านและโตได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ส่วน BGH, BH เป็น A เพราะถึงแม้จะมี 5 Force ดีครบทุกด้าน แต่ก็เป็นธุรกิจที่ต้องมี Capex เยอะตลอดเวลา ส่วน HMPRO ก็เป็นแค่ A เพราะถ้า ศก. ไม่ดีอาจจะมีผลทำให้ยอดขายลดลงได้ ไม่ทราบว่าผมใช้เกนฑ์แบบนี้ถูกต้องหรือเปล่าครับ
SST ผมเข้าใจว่าเค้าพยายามจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นค้าปลีกมากขึ้น ธุรกิจเดิมจะค่อยๆ น้อยลงไป ตอนนี้ทุกอย่างอย่างจะยังไม่ค่อยเวิร์ก เพราะยังขาดทุนอยู่ แต่คิดว่าแนวทางนี้น่าจะทำให้ economic ของบริษัทดีขึ้นในระยะยาว เลยใส่ลิสต์ไว้ด้วยครับ
เรื่องนิยามของเกรดก็แล้วแต่มาตรฐานของแต่ละคน แต่นิยามตามที่คุณ ler ว่ามาใกล้เคียงกับของผมมาก
AAV หล่ะครับ ราคามีโอกาสไปไกลกว่านี้มั๊ยครับ ค่าความนิยมในงบ 7 พันกว่าล้านเหมาะสมรึเปล่าครับ
AAV ก็เป็นบริษัทที่แสวงหาการเติบโตดีครับ แต่ไม่ค่อยแน่ใจในความสามารถในการทำกำไรของ low cost airline เท่าไร
CHG ผมไม่ได้ติดตามข้อมูลเท่าไร แต่ดูเหมือนจะมีความเป็น local มากๆ อยากได้รพ.ที่มีความเป็นสากลด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอย้ำว่า การเลือกหุ้นของผมเป็นแค่มุมมองส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับผมเลย ทุกคนจะเลือกหุ้นผิดบ้างถูกบ้างอยู่แล้ว สุดท้ายแล้ว ถ้าเราไม่ได้เลือกหุ้นผิดเยอะจนเกินไป (เกินครึ่ง) และอยู่กับตัวที่เราคิดถูกให้ได้นานๆ และไม่ซื้อถัวตัวที่แย่ๆ ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตก็จะดีได้โดยไม่ยากเย็นครับ
ฺCHG โรงบาลเข้าใหม่พอไหวรึเปล่าครับ
ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจะลองเอาวิธี valuation ที่คุณโจ๊กเขียนไว้ มาลองไล่ดูทีละตัวที่ผมเคยอ่านและศึกษามาบ้าง เอามาให้ช่วยดูว่่คิดแบบนี้พอไหวมั๊ยนะครับ ว่าแต่ว่าเราจะโพสรูปยังไงครับผม โพสไม่เป็น
โพสต์รูปต้องไปฝากรูปไว้ที่เว็บอื่น เช่น picasa แล้วลิงค์เข้ามาครับ![]()
ขนส่ง ผมมองถึง Bangkok Air ที่จะเข้าตลาดเร็วๆนี้
ลักษณะธุรกิจไม่ใช่แค่สายการบิน แต่เป็นบริษัทที่ทำ catering ให้สายการบินอื่นๆที่สุวรรณภูมิด้วย และยังมีธุรกิจที่เอื้อหนุนสายการบินอีกหลายบริษัท
ที่สำคัญถือหุ้นใหญ่ใน BGH และ SPF อีกด้วย
คุณโจ๊กว่าตัวนี้พอจะมีโอกาสเข้า list ในอนาคตได้ไม๊ ถ้าเข้าตลาดแล้ว
เท่าที่ทราบ Bangkok Air ไม่ใช่ low cost และค่อนข้างมีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่เน้นมาร์จิ้น เป็นต้นว่า ไม่ไปแย่งบินในเส้นทางหลักๆ ที่แข่งขันสูงๆ แต่เน้นเส้นทางที่มีโอกาสผูกขาดได้
น่าสนใจครับ แต่ถึงเวลานั้นก็คงต้องมาดูรายละเอียดกันอีกที
bch ไม่เข้ารอบเหรอครับ ผมว่าเป็นธุรกิจ ที่กำลังเติบโตได้ดี เจาะกลุ่มลูกค้าเกรด Bและประกันสังคมชัดเจน เพียงแต่ตอนนี้มาเพิ่มจับกลุ่มบน เพื่อน share ด้วยการเปิด wmc ผมมีข้อสงสัยอีกอย่างว่า ทำไม รพ ต่าง ๆไม่ออกกองทุนอสังหา เพื่อสร้าง growth เหมือน cpn ครับคุณโจ๊ก
ในกลุ่ม commerce ธุรกิจความสวยความงามอย่าง BEAUTY หรือ KAMART มีดีพอจะอยู่ใน Watch List บ้างมั๊ยครับ
ส่วนตัวยังไม่ค่อยแน่ใจกับความยั่งยืนของร้านพวกนี้เท่าไรครับ
ในกลุ่มสื่อไม่ทราบว่า amarin นี้จะอยู่ในข่ายด้วยหรือป่าว เนื่องจากอยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนผ่าน ตอนนี้มีช่องดาวเทียมเป็นของตัวเองและมีการเพิ่มการจัดงานแฟร์เป็นปีละ 2 ครั้ง พอจะอยู่ใน watch list ได้มั้ยครับ ขอความเห็นเพิ่มเติมด้วย
ที่จริง amarin ก็พอได้ครับ มีหัวใหญ่ๆ อย่างบ้านและสวนเป็น cash cow ในขณะเดียวกัน ก็พยายามปรับตัวสู่สื่อแบบใหม่มากขึ้น
กลุ่ม commerce ไม่รวม SINGER ด้วยหร๋อครับ หรือพี่โจ๊กมองว่า เป็นพวก leasing มากกว่าครับ
SINGER หลายปีมานี้ดีขึ้นเพราะเหมือนกับบริษัทที่เคยมีปัญหามานานลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่ทำให้เกิดการกลับตัวทางธุรกิจ แต่ถ้าถามว่าโดยธุรกิจมันดีแค่ไหนโดยเนื้อแท้ตามธรรมชาติของมัน ผมค่อนข้างเฉยๆ (ไม่บวก ไม่ลบ)
ล่าสุด MC เข้ามาอยู่ใน commerce ด้วย สนใจเพิ่มใน watch list มั้ยครับ
ตอนนี้คิดว่ายังก่อนครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันแนวคิดเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มนี้ครับ อ่านแล้วสบายใจ นิด ๆ
กลุ่มโรงพยาบาลมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรมไหมครับ…เพราะเห็นโรงพยาบาลเล็กๆ ก็มีรายได้เติบโตได้ดีเหมือนกัน
คิดว่าไม่จำเป็นครับ เพราะทำเลช่วยทำให้แต่ละ รพ.มี ฐานลูกค้าของตัวเอง ในระดับหนึ่ง
อยากทราบความเห็นของท่านแม่ทัพ กับธุรกิจเกมส์ออนไลน์ ได้มั้ยครับ
ผมว่าในปท.อิ่มตัวแล้วนะ คือ ไม่ได้ลดลง แต่ว่าไม่เพิ่ม (คหสต) เพราะการใช้เวลาของคนมันไปเพิ่มที่ social network มากกว่า ทำให้เกมออนไลน์มันกลายเป็น niche ไป
ขอบคุณครับ
ไม่ทราบคุณนรินทร์เคยศึกษา VIBHA หรือเปล่าครับ ดูแล้วมีเครือข่ายเยอะเหมือนกัน มีการถือหุ้นในโรงพยาบาลที่มีผลประกอบการดีหลายแห่ง อย่างเชียงใหม่ราม รามคำแหง อยากฟังความเห็นคุณนรินทร์เกี่ยวกับโรงพยาบาลวิภาวดี ขอบคุณครับ
โรงพยาบาลทุกตัวธุรกิจน่าจะดีเป็นส่วนใหญ่เลย ที่เหลือก็คือ ราคาหุ้นกับอัตราเติบโตที่เหมาะสมมากน้อยแค่ไหน
VIBHA มีความพยายามที่จะขยายตัวก็ถือว่าน่าจะมีโอกาสเติบโตได้เยอะกว่าโรงพยาบาลที่ไม่มีแผนขยายตัว ถ้าหากขยายตัวแล้วยังทำกำไรไม่ได้ ถ้าหากสาขาเก่าๆ ยังมีกำไรอยู่ ก็คงไม่หนักหนาอะไร อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถเทียบโรงพยาบาลระดับสากลได้ ต้องให้ราคาที่ต่ำกว่า
ขอบคุณครับ
นอกจาก BGH กับ BH แล้ว พี่นรินทร์คิดว่าโรงพยาบาลขนาดเล็ก น่าจะอยู่ในเกรดไหนครับ (A หรือ B)
ธุรกิจขายเครื่องสำอางค์ที่เปิด shop เป็น kiosk เล็กๆตามห้าง เช่น KAMART กับ BEAUTY มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตระดับ 2 digit แบบต่อเนื่องไปอีกนานไหมคับ
เคยวิเคราะห์ ระหว่างสองผู้เล่น BEAUTY และ KAMART ไหมคับ ส่วนตัวคิดว่า beauty มีความสม่ำเสมอของการเติบโตมากแต่ แต่หลังจาก kamart พยายามผ่าตัดตัวเองโดยเอาธุรกิจNGVออกไป และขอเอาสินค้าตัวเอาไปวางใน shelf ของเซเว่น ก็น่าสนใจเหมือนกันคับ
กลุ่มนี้ผมยอมแพ้ เพราะยากเหมือนกันที่จะบอกว่าธุรกิจเขาดีรึเปล่า ถ้าไม่ได้เป็นคนที่ซื้อของพวกนี้อยู่ เวลาผมเดินเข้าไปดูสองร้านนี้ ผมก็รู้สึกว่ามันเหมือนกัน ไม่สามารถตอบได้เลยว่า เพราะอะไร BEAUTY ถึงไปได้ดีกว่า KAMART มาก คิดว่าคงต้องเป็นลูกค้าของสองร้านนี้จริงๆ ถึงจะบอกได้
เดาว่า สินค้าที่หมุนอยู่ในร้านสำคัญมาก ถ้าเข้าใจลูกค้ามากกว่า หาสินค้าที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายมาลงได้มากกว่า และมีการหมุนสินค้าตัวใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มีอะไรใหม่ๆ มาขายอยู่เรื่อยๆ น่าจะทำให้ธุรกิจไปได้ดี รวมไปถึงการที่ BEAUTY ส่งเสริมการขายผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์กได้เก่งกว่าด้วย
สังเกตไหมครับ อะไรจะรุ่ง อะไรจะร่วง ขึ้นกับสิ่งแวดล้อมในยุคสมัยนั้นๆ เช่น การเปลี่ยนของเทคโนโลยี เครื่องพิมพ์ดีดเคยรุ่ง ต่อมาก็สูญพันธุ์ เพราะ มีคอมฯ นิตยสาร ตอนนี้เริ่มทยอยสูญพันธุ์เพราะ คนอ่านออนไล ร้านโชว์ห่วย เริ่มสูญพัน เพราะ บรรดา 7/11 โลตัส บิ๊กซี มาเปิดในชุมชน อะไรจะรุ่ง จะร่วง จำเป็นต้องวิเคราะสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงให้ดี เช่น ปี 2561 เราคิดว่า ขนส่งสินค้าบูมเพราะ ขายสินค้าออนไล เติบโตสูง แต่ถ้าต่อมามีคนคิดเครื่อง วาร์ปทะลุมิติได้ ธุรกิจขนส่งโดยรถ ย่อมสูญพันธุ์อย่างแน่นอน หรือ ถ้า ทุกบ้านมี หุ่นยนต์ ด้านการแพทย์ คอยจัดการทั้งป้องกัน และรักษาโรคได้ที่บ้าน ก็ไม่มีใครใช้บริการ รพ หรือ ถ้า AI ทางแพทย์ มีเยอะแต่ห้ามคนครอบครอง เว้นแต่ รพ อันนี้ หุ้น รพ ก็เวิก เพราะ ดึงคนมาจ่ายเงินให้ รพ ได้