Skip to content

278: DG + 7thLTG

ทั้ง DG และ 7thLTG มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน เราสามารถใช้ทั้งสองอย่างผสมผสานกันในการลงทุนของเราได้ด้วย

ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของตลาดหุ้นคือ เวลาที่ตลาดหุ้นแพงหรือถูกนั้น บ่อยครั้งไม่ได้เกิดขึ้นสลับกันทุกเดือนสองเดือน แต่มันมักจะแพงติดต่อกันอยู่นานหลายปี เช่น 3-5 ปี แล้วกลับมาถูกเรื้อรังอยู่อีกหลายปีเช่นกัน มีคำพูดบอกว่า บางปีนััน ซื้อหุ้นอะไรก็ได้กำไรหมด บางปีนั้นต่อให้ซื้อหุ้นดีแค่ไหน สุดท้ายก็ขาดทุน

ธรรมชาติแบบนี้ของตลาดหุ้นคือความยากลำบากของการเป็นนักลงทุน มักคือหลุมพลางชัั้นยอดที่ทำให้นักลงทุนต้องล้มเหลว เพราะโดยธรรมชาติแล้ว เรามักรอนานๆ ไม่ได้ ตอนแรกเราอาจบอกว่า ตลาดแพง เพราะดูจากมูลค่าที่เหมาะสมของตลาด ทำให้เราเลือกที่จะรอ แต่พอรอเป็นปีแล้ว ตลาดแพงก็ยังแพงอยู่อย่างนั้น เราก็จะเริ่มค่อยๆ บอกตัวเองว่า อึม บางทีมันอาจจะไม่แพงนะ ซื้อได้ นั่นก็เพราะ การอยู่เฉยๆ เป็นเรื่องยากมากๆ สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องซื้อหุ้นไปในที่สุด

ซึ่งบ่อยครั้งการทำแบบนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นตัดสินใจที่ถูกต้องในตอนแรก เพราะซื้อแล้วหุ้นก็ยังขึ้นได้อีก เนื่องจากตลาดหุ้นยังไม่จบรอบใหญ่ของมันง่ายๆ จนกระทั้ง เรากลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง เมื่อมี market correction รอบใหญ่เกิดขึ้น แล้วก็ต้องเสียใจว่า รู้งี้ไม่น่าซื้อตั้งแต่แรก เพราะอยู่เฉยๆ กลับจะได้มากกว่า เพราะไม่เจ็บตัวเลย เป็นต้น

วิธีแก้ไขอาการแบบนี้ คือ เมื่อไรก็ตามที่เราพิจารณาแล้วเห็นว่า ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะแพงอยู่แทนที่เราจะอยู่เฉยๆ โดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทนได้ยากมากๆ เราอาจลงทุนด้วยวิธี 7thLTG ไปก่อน เพราะเป็นการทยอยซื้อทีละน้อย เฉลี่ยต้นทุนออกไปยาวๆ ทำให้เรายังได้ลงทุนให้พอหายอยากอยู่บ้าง แต่ในเวลาเดียวกันก็ไม่ได้ลงสุดตัว กระสุนส่วนใหญ่ยังมีเหลืออยู่ เพื่อรอโอกาสทีจะเกิด market correction ครั้งใหญ่ขึ้น

แต่เมื่อไรก็ตามที่เราพิจารณาแล้วเห็นว่า ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะหมี หรือราคาหุ้นในตลาดส่วนใหญ่ไม่ได้แพง เป็นภาวะที่ลงทุนได้ เราก็ค่อยกลับมาอยู่ในโหมดของ DG แทน คือ เป็นการสร้างพอร์ตเพื่อการลงทุนเป็นหลัก จนกระทั้งเมื่อไรก็ตามที่เราเห็นว่า ตลาดหุ้นกลายเป็นฟองสบู่ใหม่ เราก็หยุดคิดเรื่องการลงทุนไว้ก่อน หมายความว่า หุ้นที่ถืออยู่แล้ว ซึ่งมีต้นทุนต่ำๆ อยู่นั้น ก็ถือต่อไป แต่ไม่ซื้อหุ้นใหม่ในลักษณะที่เป็นการลงทุนเพิ่มอีก กลับมาเหลือแค่การซื้อหุ้นแบบ 7thLTG อย่างเดียว พูดง่ายๆ ก็คือ ใช้ 7thLTG ไปตลอด บวกกับ DG เฉพาะในปีที่ตลาดหุ้นยังไม่แพงเท่านั้น

ส่วนเกณฑ์ในการพิจารณาว่าตลาดหุ้นอยู่ในโหมดไหน อาจใช้วิธีตามบทความที่ได้เคยเขียนถึงไว้แล้วเป็นเกณฑ์ก็ได้

https://www.dekisugi.net/archives/28081

แบบนี้เราก็จะได้วิธีการลงทุนที่มีความปลอดภัยสูง และช่วยป้องกันตัวเราเองไม่ได้ถูกสะกดจิตให้ต้องลงทุนตลอดเวลา เพราะอดทนรอคอยอะไรนานๆ ไม่ได้นั่นเองครับ

 

7 thoughts on “278: DG + 7thLTG”

  1. 7THLTG ตลอดเวลาของตลาด … + DG ในช่วงเวลาที่ เราประเมินแล้วว่าราคาที่เราซื้อเหมาะสม / น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่าการรอซื้อของแบบตอนถูกมากๆ อย่างตอนวิกฤติซับพราหม์ปี 2007 นะครับ …. บางครั้งผมก็สงสัย ว่าการรอซื้อของถูกมากๆ (รอวิกฤติ ที่อาจจะต้องรอนานเป็น 10 ปี หรือมากกว่านั้น) โดยไม่ทำไรเลย ผลตอบแทนจะคุ้มกับปีที่รอรึเปล่า ? เช่น ค่าเสียโอกาสตลอดหลายปีที่ไม่ได้ซื้อ?
    พี่โจ๊กมีความเห็นว่ายังไงบ้างครับ? / ขอบคุณครับ ^^

    1. ก็เพราะแบบนั้น การใช้ทั้ง 7LTG กับ DG ถึงช่วยเราได้ เพราะถ้าหุ้นแพงเป็นสิบปีเราก็ยังไม่เสียโอกาสลงทุน เพราะว่าเราลงทุน 7LTG ตลอดเวลาไปด้วยอยู่แล้ว ไม่ว่าตลาดหุ้นจะแพงหรือถูก

  2. เห็นด้วยครับ โดยถ้าเราใช้ Technical มาช่วยด้วย จะทำให้จังหวะการซื้อ และการขาย ดีขึ้นครับ

    ยังเก็บความรู้อยู่ ต้องขยันอีกมากครับสำหรับผม

    แต่อย่างหนึ่งที่ผมรู้แล้วจาการลงทุนมา 1 ปี คือ ผมไม่สามารถรวยเร็วได้โดยไม่เสี่ยงมาก ผมเลือที่จะรวยช้า แต่รวยนานๆตลอดไปดีกว่าครับ

    มีความสุขกว่าเยอะ

  3. ลงทุนแบบ 7 thLtg มาครบหนึ่งปีเหมือนกันค่ะ ทำให้รู้ว่าเราไม่สามารถรวยเร็วได้โดยไม่เสี่ยงมาก จึงเลือกวิธีรวยช้าและขอให้รวยนานๆ เหมาะกับคนทำงานประจำ ความรู้ยังต้องศึกษาอยู่เรื่อยๆ ก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาก แบ่งเงินไปลงทุนทางตรงบ้าง ก็โอเคพอร์ตตอนนี้ดีน่าพอใจค่ะ มีเงินสดเข้ามาเพิ่มการลงทุนในหุ้นได้อีก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *