บางจากเริ่มต้นจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน
โรงกลั่นน้ำมันของบางจากแต่เดิมอาจจะมีจุดเด่นอยู่บ้างตรงเรื่องของ ทำเลใกล้เมืองทำให้มีต้นทุน outbound logistic ต่ำ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นจุดเด่นที่สำคัญมากนักของธุรกิจโรงกลั่น จุดด้อยที่สำคัญของโรงกลั่นบางจากในยุคแรกคือ การที่โรงกลั่นบางจากไม่ใช่โรงกลั่นแบบ complex refinery ทำให้ไม่สามารถกลั่นน้ำมันคุณภาพสูงๆ ได้ ทำให้ได้ค่าการกลั่นต่ำกว่าคนอื่น
และหลังจากที่หุ้นบางจากเข้าตลาดหุ้นมานั้น ธุรกิจโรงกลั่นของโลกก็อยู่ในภาวะขาลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางจากขาดทุนอย่างมาก ถึงขนาดที่รัฐบาลจะต้องออกตราสารออกมาประกันราคาหุ้นว่าจะรับซื้อคืนในอนาคตที่ราคาแน่นอน
ต่อมาเมื่อถึงยุคน้ำมันแพง โรงกลั่นทุกแห่งเริ่มมีกำไรดีขึ้น และปตท.มีเริ่มนโยบาย consolidate ธุรกิจพลังงานในประเทศเพื่อความมั่นคง ทำให้เกิดโรงกลั่นทุกโรงในประเทศไทยถือหุ้นโดยปตท.รวมทั้งบางจากด้วย (แม้ว่า บางจาก จะไม่ใช่โรงกลั่นที่โดดเด่นเลยในบรรดาโรงกลั่นทั้งหมดของปตท.) โรงกลั่นทุกโรงจึงมีความมั่นคงมากขึ้นในแง่มีลูกค้าแน่นอน เพราะมีปตท.เป็นลูกค้าประจำ ช่วยให้สามารถรักษากำลังการผลิตให้อยู่ในระดับสูงได้โดยไม่เสี่ยง ส่งผลให้โรงกลั่นในประเทศไทยทุกโรงมีต้นทุนเฉลี่ยที่ดีขึ้นเป็นลำดับ
เมื่อฐานะการเงินดีขึ้นก็ช่วยให้ บางจากสามารถ upgrade โรงกลั่น โดยการเติมตัว cracker เข้าไป เพื่อทำให้โรงกลั่นเดิมกลายเป็นโรงกลั่นแบบ complex refinery ได้ บางจากจึงกลั่นน้ำมันคุณภาพดีได้มากขึ้น ทำให้ได้ราคาขายที่ดีกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของธุรกิจโรงกลั่นคือ การสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่เพื่อขยายธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในยุคที่คนตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม ดังนั้นหลังจาก upgrade โรงกลั่นไปแล้ว ช่องทางในการเพิ่มกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นจึงเหลือน้อยลง บางจากมีธุรกิจปั้มน้ำมันอีกอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นธุรกิจที่กำไรน้อยมาก เพราะเวลามีแรงกดดันเรื่องราคาน้ำม้น ส่วนที่จะหดก่อนเพื่อนเลยคือ ค่าการตลาดของปั้มน้ำมัน แถมปั้มน้ำมันบางจากก็ไม่ใช่ปั้มชั้นนำของประเทศด้วย
ด้วยเหตุนี้ บางจากจึงเริ่มหันเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทางเลือกอย่างจริงจัง เพื่อสร้างการเติบโตต่อไป ซึ่งจะว่าไปแล้วถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดภายใต้ทางเลือกทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว เพราะการสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่นั้น แม้ว่าจะไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้เลย แต่ก็คงไม่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ต้องใช้เวลานานหลายปี
บางจากเริ่มต้นธุรกิจพลังงานทางเลือกตั้งแต่การเป็นปั้มที่เน้นขาย แก๊สโซฮอลล์ แต่ส่วนที่รุกธุรกิจพลังงานทางเลือกอย่างจริงจังเลย คือการเข้าไปประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ข้อดีของโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์คือ การไฟฟ้าจะรับซื้อไฟฟ้าทั้งหมด ในราคาที่กำหนดไว้แน่นอน ทำให้เป็นธุรกิจที่มีผลตอบแทนแน่นอน แต่ข้อเสียคือ ต้องลงทุนครั้งแรกด้วยเงินเยอะมาก บางจากตั้งเป้าหมายว่า จะมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจพลังงานทางเลือกให้ได้มากถึง 50% ของรายได้รวมในอนาคต เรียกได้ว่า หันมาเติบโตด้วยธุรกิจพลังงานทางเลือกเป็นหลัก
โอกาสในการเติบโตของกำไรอีกอย่างหนึ่งของบางจากในเวลานี้คือ การเปลี่ยนร้านสะดวกซื้อในปั้มบางจากจากเดิมที่ทำเอง ให้กลายเป็นร้านของบิ๊กซีให้หมด ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว เพราะธุรกิจนี้ให้ทำเองก็คงทำได้ไม่ดี สู้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับคนที่เขาแข่งกว่าไม่ได้อยู่แล้ว ก็เชื่อว่า วิธีนี้จะช่วยทำให้ธุรกิจ non-oil ของบางจากมีกำไรที่ดีขึ้นด้วย และในเวลาเดียวกันก็ช่วยทำให้ปั้มบางจากมีคนเข้าไปใช้บริการให้มากขึ้น
เป็นบริษัทที่โอเคในระดับหนึ่ง ให้ B ครับ
[คำเตือน: การเขียนถึงบริษัทใดๆ มิได้แปลว่า ผู้เขียนเห็นว่าบริษัทนั้นน่าลงทุนเสมอ ผู้เขียนต้องการนำเสนอทั้งด้านบวกและลบของแต่ละธุรกิจ ซึ่งบริษัทนั้นอาจจะน่าลงทุนหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่มุมมองของแต่ละบุคคล]
BCP ถ้าเทียบความน่าสนใจกับ PTT เป็นไงบ้างครับ
ขอบคุณครับ
ขอสอบถามประเด็นที่ บิ๊กซีมาเปิดร้านในบางจาก มีการแบ่งรายได้กันอย่างไรครับ หรือว่า
บางจากเก็บแต่ค่าเช่าอย่างเดียว แล้วปัํมที่มี บิ๊กซี ไปเปิดแล้วมีผลทำให้ยอดขาย non oil
และยอดขายน้ำมัน เติบโตอย่างมีนัยยะเลยหรือป่าวครับ
จากที่ฟัง oppday ผู้บริหารเค้าบอกแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากรายได้นะ ส่วนปั้มที่เปลี่ยนจากร้านใบจากมาเป็นมินิบิ๊กซีแล้วเค้าบอกมามีคนเข้ามาใช้บริการในปั้มเพิ่มขึ้น 6-7 % มั้งครับ จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน ถ้าผิดพลาดต้องขออภัยด้วยครับ
ขอบคุณครับ
mini bigc ยังห่างไกล lotus express อีกเยอะ
lotus express ยังห่างไกล 7-11 อีกเยอะ
น่าจะคนละ strategy กันคับ
mini bigc ,lotus express แม้จะปรับมาเป็น
convenient +discount ให้เข้าถึงง่ายขึ้น
แต่7-11 หันไปเน้น ทางlife style มากกว่า จะแข่งทาง discount
ระยะยาวกว่านี้ น่าจะเห็นภาพชัดขึ้น ว่าางกัน