ช่วงต้นปีมีข่าวคนโดนแฮ็กเหรียญออกไปจากกระเป๋าเยอะมาก เรียกได้ว่ามีข่าวรายวัน และแทบทุกข่าว ก็เกิดขึ้นบนกระเป๋า Metamask โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน Windows Desktop
นั่นทำให้ผมรู้สึกหลอนมาก จนถึงขนาดตัดสินใจย้ายเหรียญทั้งหมดออกจากกระเป๋า Metamask เปลี่ยนไปใช้กระเป๋ายี่ห้ออื่นแทน
ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ชอบ Metamask อยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่ามันออกแบบได้ไม่ดี ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถลบหรือซ่อน Wallet ที่เราสร้างเพิ่มขึ้นมาแล้วไม่ค่อยได้ใช้ มีฟังก์ชั่นหลายอย่างที่ใช้งานยาก การทำให้กระเป๋ารู้จักเหรียญใหม่ๆ เป็นต้น ปัญหาบางอย่างมีคนบ่นเยอะมาก และน่าจะแก้ได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่เห็นทีมงานคิดที่จะแก้มันสักที พอยิ่งมีข่าว Hack เต็มไปหมด ก็ยิ่งตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะย้ายบ้าน
แต่พอเปลี่ยนไปใช้กระเป๋าอื่นได้ไม่นาน ก็พบว่ามีปัญหาอีก เพราะ DeFi ส่วนใหญ่มักจะรองรับกระเป๋าแค่ไม่กี่ยี่ห้อ สุดท้ายแล้วจะต้องมีหลายกระเป๋า เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทุก DeFi ซึ่งเป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก อาจจะมีบางยี่ห้อที่ใช้ได้กับ DeFi ส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่มียี่ห้อไหนที่จะใช้งานได้ทุก DeFi จริงๆ เหมือนอย่าง Metamask เลย
ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน ผมก็ต้องหันกลับไปใช้ Metamask เหมือนเดิมอีกโดยปริยาย
เรื่องนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า Wallet ในโลก Decentralized เป็นธุรกิจที่มี Network Effect สูงมาก อำนาจของมันไม่ได้อยู่ที่การมี user จำนวนมากๆ แต่ว่าเกิดจากการที่ DeFi ส่วนใหญ่คงไม่สามารถเขียนโค้ดให้รองรับกระเป๋าได้ทุกยี่ห้อ เลยจำเป็นต้องสนับสนุนแต่ยี่ห้อที่มีคนใช้มากๆ แค่ไม่กี่ยี่ห้อ ดังนั้นยี่ห้อที่มีคนใช้เยอะจนเกิด critical mass แล้ว ก็จะได้เปรียบมาก เพราะทุก DeFi เลือกที่จะรองรับ และเมื่อทุก DeFi รองรับ คนใช้ก็ยิ่งอยากใช้ กลายเป็น positive feedback loop ที่ทำให้คู่แข่งเจาะเข้ามาไม่ได้ แม้ว่าคู่แข่งจะมีฟังก์ชั่นที่ดีกว่าขนาดไหน หรือแม้แต่ปลอดภัยมากกว่าขนาดไหนก็ตาม หลายปีที่ผ่านมามีหลายยี่ห้อที่ประกาศตัวเป็น Metamask Killer และยี่ห้อเหล่านั้นก็มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าจริงๆ แต่สุดท้ายแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แวว ว่ายี่ห้อจะเจาะ Metamask ได้เลย
ธุรกิจในโลกคริปโตที่มี Barrier to Entry สูงๆ จริงๆ แล้ว มีอยู่ไม่มากนัก การแข่งขันในโลกคริปโตก็รุนแรงมาก ถ้าหากจะให้นึกถึงธุรกิจที่มี BTE ผมคิดว่า Wallet นี่แหละเป็นหนึ่งในนั้น และ Metamask ก็ถือได้ว่าบรรลุ critical mass ในตลาดนี้ไปแล้ว ทุกวันนี้ Metamask มีรายได้มากมายจากการใส่ฟังก์ชั่น Aggragated DEX เข้าไปในตัว คนที่ขี้เกียจ shop around ก็ swap เหรียญกับ Metamask โดยตรง ทำให้ Metamask ได้กินค่าฟีอย่างมหาศาลแบบง่ายๆ จากการที่มันอยู่ตรงหน้าของทุกคน เคยมีข่าวลือว่า Metamask กำลังจะออกเหรียญของตัวเอง ถ้าจริงก็คงเป็นเหรียญที่มีมูลค่ามหาศาล
ก่อนหน้านี้ผมมีซื้อเหรียญของ Wallets หลายๆ เจ้าเก็บไว้เหมือนกัน เพราะเห็นว่ามีเทคโนโลยีที่ดีกว่า Metamask อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า Wallets ใหม่ๆ พวกนั้นจะมีโอกาสเจาะเข้ามาได้สักแค่ไหน บางทีของที่ดีที่สุด ก็อาจไม่ใช่ของที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจเสมอไป