เหรียญใหญ่ในช่วงนี้ดูไม่ดีนัก เพราะเป็นเหรียญสามัญประจำบ้านที่ใครๆ ก็ถือ ถ้าหากเกิดการขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในปี 2022 เหรียญเหล่านี้ก็อาจเป็นตกเป็นเป้าของการถูกเทขาย ยังไม่นับเรื่องความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับ Regulation ต่างๆ ที่จะกดดันเหรียญที่มีทุกบ้านเหล่านี้อยู่ในเวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บิตคอยน์
Ethereum เองก็มีปัญหาเรื่องความล่าช้าของโครงการ กว่า The Merge จะมาจริงๆ ก็คงหลังมิถุนายน 2022 เลย ยิ่ง Ethereum 2.0 เสร็จช้าเท่าไหร่ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้พวก Ethereum killers เติบโต และแย่งชิง mind share ได้มากเท่านั้น ช่วงที่ผ่านมาจึงเห็นเหรียญ L2/EVM หลายตัววิ่งขึ้นสวนทางตลาด เงินทุนจำนวนมากก็ไหลเข้าเหรียญเหล่านี้ เพราะมันคือ windows of opportunity ที่เชนเหล่านี้จะต้องรีบพัฒนาตัวเอง ขึ้นมาให้มีทุกอย่างครบ ก่อนที่ Ethereum 2.0 จะเสร็จสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น SOL, MATIC, AVAX, FTM, NEAR เป็นต้น
BNB เองก็เจอมรสุมจาก Regulation เยอะมาก แถมตัว Binance Smart Chain เองก็ช้า และล่มบ่อย และท่อของ Binance ก็ปิดบ่อยจนเทรดเดอร์รำคาญ ดูเหมือนระบบจะเล็กเกินไปแล้ว และต้องการการอัพเกรดครั้งใหญ่ แต่ป่านนี้ก็ยังไม่เห็นมีความเคลื่อนไหวอะไรออกมา ทำให้มันดูไม่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับ L2 ทั้งหลายที่มีอะไรใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ปี 2022 จึงอาจเป็นปีของพวก L2 เงินทุนมากมายที่ไหลเข้ามาสนับสนุนเชนเหล่านี้ยังทำให้การปล่อยของได้ไม่ยากนัก แถมตอนนี้ NFT กำลังโต ซึ่งถ้า NFT จะโตต่อไปได้ จำเป็นต้องจับตลาดแมส (เดิมมีแต่พวกวาฬเล่นกัน) ค่าแก็สที่สูงเกินไปของ Ethereum ไม่สามารถดึงดูดแมสได้ จึงกลายมาเป็นโอกาสของ L2 ทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง MATIC ซึ่งทั้ง Opensea, Decentraland, Sandbox พร้อมใจกันกระโดดเข้าไป เป็นสัญญาณที่แสดงว่า L2 จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเติบโตต่อไปของ NFT
NFT เองเป็นตลาดที่น่าสนใจ อนาคตยังอีกไกลมาก อาจจะมากกว่าคริปโตด้วย การประยุกต์ NFT ที่เป็นไปได้ แต่ยังไม่ได้ทำนั้น ยังมีอยู่อีกเยอะมาก แถม NFT ยังไม่เข้าข่ายเงิน ทำให้ไม่โดนเพ่งเล็งจาก Regulators มากเท่ากับเหรียญ ช่วงที่ผ่านมา NFT เป็นของเล่นของคนรวยเป็นหลัก แต่ต่อไปนี้น่าจะเริ่มมีราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้มากขึ้น ทำให้ตลาดนี้ยังขยายตัวได้อีกมาก และอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยดันให้เหรียญโตตาม
NFT กลุ่ม Art Collections เริ่มสร้าง use case และ community ให้เห็น ซึ่งจะช่วยส่งให้กลุ่มนี้ไปต่อได้ ยิ่งมีแบรนด์ใหญ่ๆ กระโดดมาเล่นด้วย อีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพคือ Land NFTs ซึ่งโตตาม Metaverse แต่สิ่งที่อยากเห็นคือการนำ NFT มาใช้ผูกกับสิ่งที่อยู่ในโลกจริง ไม่รู้ว่าจะได้เห็นในปีนี้รึเปล่า
Metaverse เป็นอีกกลุ่มที่ยังน่าสนใจอยู่ กระแสอาจแผ่วลงได้บ้างในปี 2022 เพราะส่วนที่ Hyped อาจจะเริ่มหายไป แต่ Projects ที่ทำได้จริงก็ยังไปต่อได้ ดังนั้นในปีนี้ ต้องเป็นตัวจริงเท่านั้นที่จะน่าสนใจ ไม่ใช่พวก me-too
อันที่จริงกลุ่มเกม โดยเฉพาะ Play2Earn เป็นกลุ่มที่คาบเกี่ยวกับ Metaverse กลุ่มนี้มีปัญหาในตัวของมันเองอยู่ เพราะต้องพึ่งพาผู้เล่นหน้าใหม่ให้เข้ามาเพิ่มไปเรื่อยๆ ไม่งั้นเหรียญจะราคาร่วง กลุ่มนี้จึงเริ่มมีปัญหาเรื่องความยั่งยืน ถ้าจะไปต่อได้ อาจจะต้องผันตัวมาเป็น Metaverse หรือไม่ก็ต้องกลับไปเป็นเกมอย่างแท้จริง คือเกมที่เล่นแล้วสนุกจริงๆ ไม่ใช่ทุกคนเข้ามาแค่ต้องการหารายได้ ถือว่าเป็นกลุ่มที่ผมให้ความสนใจน้อยมากในปีนี้
DeFi ก็เป็นอีกกลุ่มที่น่าเป็นห่วง ช่วงที่ผ่านมานวัตกรรมต่างๆ ได้ถูก copy กันไปกันมาจนไม่มีใครสร้างความแตกต่างได้เลย DEX กลายเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดูน่าเบื่อ จากจุดนี้ไป DeFi ไหนที่ยังทำแต่สิ่งเดิมๆ อยู่ จะค่อยๆ ถดถอยลงไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่คิดจะเก็บเหรียญ DeFi อยู่แล้ว เลยไม่มีผลอะไร มีแค่นวัตกรรมเดียวใน DeFi ที่พอมองเห็นว่าอาจจะยังมีอนาคตได้อยู่คือ DeFi 2.0 และสิ่งที่ยังสนใจเกี่ยวกับ DeFi ก็คือ พวก Protocol แปลกๆ ใน Terra แต่ก็ตั้งใจว่าจะลองเป็นผู้ใช้งาน มากกว่าที่จะคิดจะเก็บสะสมเหรียญของโปรโตคอลเหล่านี้
Web3 เป็น Buzzword ตัวล่าสุดที่มาปลุกโลกคริปโต แต่ยังมองไม่เห็นความชัดเจนว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหนกันแน่ และใครบ้างที่จะได้รับประโยชน์ หรือว่ามันจะเป็นเพียงแค่ hype ก็ไม่รู้ เป็นสิ่งที่ยังต่อจับตาดูกันต่อไป
ป.ล. ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน เป็นแค่บันทึกที่เขียนให้ตัวเองดูว่าตอนต้นปีคิดยังไงบ้าง แล้วเดี๋ยวปลายปีจะเอามาเทียบดูอีกทีว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง
แนะนำอ่านเพิ่มเติม
Pingback: Price Prediction เป็นสมการสองชั้น – Dekisugi.net
ตลาดคริปโตนี่โดยภาพรวม มีโอกาสที่จะเป็นฟองสบู่แบบ หุ้นดอทคอม ในยุค 2000 มั้ยครับพี่? … เหรียญเล็กๆตายหมด เหลือผู้ชนะไม่กี่ราย