Skip to content

ทุน

86: 0332: ที่มาของการเติบโต

ในการค้นหาหุ้นเติบโตนั้น สิ่งที่เราควรสนใจยิ่งกว่าระดับของการเติบโต คือ ” สาเหตุเบื้องหลัง” ที่ทำให้ธุรกิจนั้นเติบโตว่าคืออะไร การที่ธุรกิจเติบโตได้สูงมากในปีปัจจุบันนั้น ไม่อาจการันตีได้เลยว่า การเติบโตในช่วงถัดไปจะต้องเป็นไปในทำนองเดียวกันด้วย เพราะสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตของแต่ละบริษัทนั้นเป็นไปได้ร้อยแปด บางอย่างดำรงอยู่ได้นาน แต่บางอย่างก็ฉาบฉวย บริษัทที่โตสูงมากปีเดียวแล้วปีถัดมากลายเป็นหนังคนละม้วนมีให้เห็นเป็นประจำในตลาดหุ้น การเข้าใจว่าบริษัทเติบโตเพราะอะไรจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า เพราะมันคือสิ่งที่จะตอบคำถามเราทั้งหมดเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นเติบโต อันได้แก่ การเติบโตที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นต่อไปได้หรือไม่? เมื่อลงทุนไปแล้วจะลงทุนต่อได้นานแค่ไหน? เมื่อไรควรจะหยุดลงทุนได้แล้ว เพราะสาเหตุที่ทำให้เติบโตนั้นได้หายไปแล้ว เป็นต้น Read More »86: 0332: ที่มาของการเติบโต

84: 0329: หุ้นพื้นฐาน?

ที่จริงผมไม่ค่อยอยากแตะเรื่องนี้เท่าไร แต่ไม่ทราบว่าทำไมช่วงนี้ถึงได้มีนักลงทุนมาบ่นกับผมเรื่องขาดทุนหุ้นเป็นจำนวนมากจนผิดปกติ เลยอยากฝากมุมมองบางอย่างไว้ เผื่อว่าบางมุมอาจจะเป็นประโยชน์กับท่านนักลงทุนบ้างนะครับ แต่ไหนแต่ไรมาเป็นที่รู้กันดีว่าตลาดหุ้นไทยมีขาใหญ่ที่เป็นขบวนการปั่นหุ้นสิงสถิตย์อยู่ คนกลุ่มนี้มีข้อได้เปรียบนักลงทุนทุกรูปแบบ ตั้งแต่สามารถบอกให้สื่อช่วยเขียนข่าวตามใจได้ มีช่องทางประจำสำหรับการปล่อยข่าวลือในห้องค้า และที่เด็ดสุดคือมีการจับมือกับผู้บริหารของหุ้นที่จะปั่นด้วย คือต่อให้เทรดหุ้นผิดพลาดเองก็ยังบอกให้บริษัทช่วยออกข่าว ออกวอแรนต์ เพิ่มทุน หรือตัดขาดทุนรายการพิเศษ เพื่อให้ตัวเองพลิกกลับมากำไรได้อีก นักลงทุนกลุ่มนี้จึงเล่มเกมที่ตัวเองมีข้อได้เปรียบนักลงทุนคนอื่นอย่างมากมาย  แต่ที่จริงผมกลับไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องนี้เท่าไร เพราะสมัยนี้ หุ้นที่ขบวนการพวกนี้ปั่นอยู่มักเป็นที่รู้และพูดถึงกันทั่วไปในตลาดหุ้น ถ้านักลงทุนอยากรู้ว่ามีตัวไหนบ้างก็มักหาคำตอบได้โดยง่าย รายย่อยที่เกรงกลัวภัยพวกนี้มักจะไม่เข้าไปยุ่งกับหุ้นพวกนี้กันอยู่แล้ว ส่วนรายย่อยอีกจำพวกหนึ่ง ที่หากได้ยินว่าขาใหญ่จะปั่นตัวไหนก็จะรีบเข้าไปเล่นด้วยทันที (ยิ่งมีเจ้า ข้ายิ่งชอบ) กลุ่มนี้ผมก็ไม่ห่วงเช่นกัน เพราะพวกนี้มักจะเข้าไปโดยรู้อยู่แล้วว่ามีอันตราย จึงมีการระวังตัวแจ พวกนี้ถ้าเจ็บตัวมา ผมไม่ค่อยรู้สึกว่าน่าสงสารมากเท่าไร เหมือนเวลาดูมวย เราไม่ได้สงสารนักมวยบนเวทีเวลาที่เขาโดนต่อยเพราะเรารู้ว่าเขาเลือกอาชีพของเขาเองและเขารู้ดีก่อนเลือกว่าการเป็นนักมวยจะต้องเจ็บตัว แต่ยุคหลังๆ นี้ คนที่ขาดทุนมากๆ กลับไม่ใช่แบบที่ว่ามา แต่กลับเป็นคนที่ขาดทุนจากหุ้นที่เขาซื้อเพราะคิดว่าเป็นหุ้นพื้นฐาน คนขาดทุนหุ้นในลักษณะนี้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นแบบที่ผมรู้สึกสลดใจมากกว่าแบบดั่งเดิมมาก เพราะเป็นการขาดทุนที่มาจากความเข้าใจผิด ความหลงผิด หรือความไม่รู้ เป็นการขาดทุนที่มีต้นเหตุมาจากความศรัทธามากกว่าความโลภ คนที่มาปรับทุกข์กับผมคนหนึ่งบอกว่า เขาเพิ่งจะสิ้นเนื้อประดาตัวไปกับหุ้นตัวเดียวที่คิดว่าซื้อได้เต็มที่เพราะว่าเป็นหุ้นพื้นฐาน ปกติแล้ว คนที่ซื้อหุ้นที่คิดว่าเป็นหุ้นปั่น มักจะซื้อแบบยั้งๆ เพราะตระหนักดีว่า มีอันตรายอะไรอยู่ แต่คนที่ซื้อหุ้นเพราะคิดว่าเป็นหุ้นพื้นฐานนั้น… Read More »84: 0329: หุ้นพื้นฐาน?

83: 0327: Growth Investing Defined

มีหลายท่านสังเกตออกว่า ผมมักเน้นลงทุนในหุ้นเติบโตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ค่อนข้างจะตรง ผมก็เลยอยากถือโอกาสคุยเรื่อง Growth Investing สักหน่อยนะครับ ทุกวันนี้สไตล์การลงทุนหลายแนวถูกนำชื่อไปใช้อ้างชื่อกันมาก ทำให้ความหมายของมันค่อยๆ เปลี่ยนไปจนในที่สุดก็ไม่เหลือใครที่มีบารมีมากพอที่จะผูกขาดนิยามของแนวการลงทุนเหล่านั้นได้อีกต่อไป Growth Investing ก็เช่นกัน เวลาจะใช้คำนี้จึงต้องขยายความให้ชัดหน่อยว่าหมายถึงอย่างไรกันแน่ มิฉะนั้นจะเกิดการเข้าใจผิดกันได้ง่าย นิยามของ Growth Investing ที่ผมไม่ชอบมากที่สุดตั้งแต่เคยได้ยินมาคือนิยามที่บอกว่า Growth Investing คือการลงทุนในหุ้นที่มีค่าพีอีเรโชสูง นิยามนี้แบ่งหุ้นออกเป็นสองจำพวกชัดเจนคือ Growth Stock vs. Value Stock โดยใช้ค่าพีอีเรโชเป็นตัวแบ่ง หุ้นเติบโตคือหุ้นที่มีพีอีสูง หุ้นคุณค่าคือหุ้นที่มีพีอีต่ำ   นิยามนี้เป็นนิยามที่ทำให้ความหมายของคำว่าการลงทุนผิดเพี้ยน เพราะพีอีเป็นอัตราส่วนทางการเงินที่มีราคาตลาดของหุ้นมาเกี่ยวข้อง (P) แต่ราคาหุ้นนั้นเป็นเรื่องของตลาดหลักทรัพย์ ไม่เกี่ยวกับตัวกิจการเลย พีอีเรโชจึงไม่ได้บ่งบอกถึง “การเติบโต” (หรือแม้แต่คุณค่า) ของบริษัทเลยแม้แต่น้อย หุ้นตัวหนึ่งจะเป็นหุ้นเติบโตหรือไม่นั้นจะต้องดูจากตัวธุรกิจได้แก่การเติบโตของธุรกิจเป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับค่าพีอี  หุ้นที่มีค่าพีอีเรโชต่ำๆ ก็เป็นหุ้นเติบโตได้หากกำไรของธุรกิจนั้นเติบโตสูง ผมเองเน้นลงทุนในหุ้นเติบโตเป็นหลัก แต่ผมไม่ได้ชอบหุ้นพีอีสูงแต่อย่างใด… Read More »83: 0327: Growth Investing Defined

82: 0323: ผลตอบแทนที่คาดหวัง

การที่คุณตัดสินใจก้าวเข้ามาในตลาดทุน คุณหวังจะได้ผลตอบแทนเท่าไรต่อปี? ถ้าหากคุณเพียงแค่อยากให้เงินออมของคุณ ได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากในยุคปัจจุบันที่แสนจะต่ำเตี้ยเท่านั้น ผลตอบแทนทื่คุณคาดหวังก็อาจอยู่ในระดับแค่ 5% ผลตอบแทนในระดับนี้ถ้าคุณถือหุ้นแช่ไว้รอรับเงินปันผลสัก 3% ต่อปี และหุ้นในพอร์ตของคุณก็มีกำไรเติบโตโดยเฉลี่ยพอๆ กับเงินเฟ้ออีก 2% ต่อปี (กิจการไม่จำเป็นต้องมีการเติบโตที่แท้จริงเลยก็ยังได้) คุณก็บรรลุเป้าหมายนี้ได้แล้ว (อย่างไรก็ตาม การเข้ามาในตลาดหุ้นแล้วหวังผลตอบแทนแค่ 5% ต่อปีนั้น ดูจะไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงของตลาดหุ้นเท่าไร การถือหุ้นแทนฝากเงินนั้นมีความเสี่ยงที่จะสูญเงินต้นเพิ่มขึ้นมาก ผลตอบแทนในระยะยาวของการถือหุ้นจึงควรได้ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี) ถ้าคุณเข้ามาเพื่อใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือในการ ออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ ถ้าหากคุณสามารถทำผลตอบแทนในตลาดหุ้นให้ได้เฉลี่ยปีละ 10% คุณก็บรรลุเป้าหมายนี้ได้แล้ว เพราะสมมติว่าคุณออมเงินปีละ 100, 000 บาทตั้งแต่อายุ 25 ปีและวางแผนจะเกษียณเมื่ออายุครบ 60 ปี (มีเวลาสร้างผลตอบแทน 35 ปี) ถ้าคุณทำผลตอบแทนในตลาดหุ้นได้เฉลี่ย 10% ต่อปีจริงๆ เมื่อครบกำหนด… Read More »82: 0323: ผลตอบแทนที่คาดหวัง

81: 0319: ซื้อหุ้นถูกตัว

คุณคิดว่าในการลงทุนนั้น การซื้อหุ้นให้ได้ถูกตัว มีความสำคัญมากแค่ไหน? เมื่อก่อน ตอนเริ่มต้นลงทุนใหม่ๆ ผมเชื่อว่า มันเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ตอนนั้นผมคิดว่า หุ้นก็คล้ายๆ กับหวย คือ ถ้าคุณซื้อหวยถูกเบอร์ ยังไงคุณก็ได้ ถ้าผิด ยังไงคุณก็เสีย ดิ้นไม่ได้ พอคิดแบบนี้ การลงทุนของเราจะมุ่งไปที่การหาหุ้นเด็ด แล้วทุ่มกับมัน สมัยนั้นผมเชื่อว่า วิธีเดียวที่จะได้ผลตอบแทนสูงๆ คือ จะต้องทุ่มสุดตัวกับหุ้นเด็ดแค่ไม่กี่ตัว พอหุ้นเหล่านั้นวิ่งได้ตามที่เราคาดไว้ ก็ขายออกมา เอาเงินทั้งหมดไปทุ่มสุดตัวกับหุ้นเด็ดตัวใหม่ แล้วทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้ได้หลายๆ รอบต่อปี   แต่เมื่อได้อยู่ในตลาดนานขึ้น ผมกลับเห็นว่าตลาดหุ้นนั้นมีแต่ความไม่แน่นอน ต่อให้เรามองได้เก่งแค่ไหน ก็ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้แต่ส่งผลกระทบได้รุนแรง การที่จะต้องเลือกหุ้นให้ได้ถูกตัวเกือบทุกครั้งนั้นจึงกลับเป็นเป้าหมายที่ปฏิบัติจริงได้ยาก ดังนั้น วิธีลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างที่เคยคิดไว้นั้น กลับเป็นวิธีการที่มีหายนะซ่อนอยู่ การที่เราอยู่ในตลาดต่อไปเรื่อยๆ ก็เหมือนการเต้นรำกลางห่ากระสุน ต่อให้เก่งขนาดไหน สักวันหนึ่ง เราก็ต้องเคยซวยโดนกระสุนแน่ๆ ถ้าหากต้องทุ่มสุดตัวกับหุ้นเด็ดทุกตัวไปเรื่อยๆ ย่อมต้องมีวันที่เสียหายหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้แต่บัฟเฟตเองก็ยังเลือกลงทุนในหุ้นอย่าง AIG  มาแล้ว วิธีการที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ไร้ซึ่งความยั่งยืน ไม่ใช่วิธีที่ดีอย่างที่เราคิด เรามักรู้สึกว่า มีบางคนที่สามารถเลือกหุ้นได้ถูกต้องเกือบตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้ว… Read More »81: 0319: ซื้อหุ้นถูกตัว