ป้าละเอียดอาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านทาวน์เฮ้าส์ขนาดเล็กหลังหนึ่งแถวรังสิต เธอเลิกกับสามีเก่าของเธอนานแล้ว ป้าละเอียดไม่มีอาชีพอื่นใดนอกจากเป็นคนเดินโพยหวยใต้ดินให้กับคนทั่วทั้งหมู่บ้าน แม้เธอจะอยู่คนเดียวแต่เธอก็ไม่เหงาเพราะเธอเป็นคนกว้างขวาง เธอรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งเวลาที่มีใครถามถึงเรื่องราวของบ้านหลังไหนก็ตามที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้เพราะเธอจะสามารถสาธยายได้หมดว่าบ้านไหนทำอะไร ผัวเมียคู่ไหนทะเลาะกัน เรื่องชาวบ้านคืองานของเธอ
อย่างไรก็ดี ยังมีบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้ที่ทำลายความมั่นใจของป้าละเอียดอยู่ตลอดเวลา เจ้าของบ้านหลังนี้ดูเป็นคนลึกลับ เธอยอมรับว่าเธอรู้อะไรเกี่ยวกับชายผู้นี้น้อยมาก เวลาถามอะไรชายผู้นี้จะตอบอย่างสั้นที่สุดแต่สุภาพ ครั้งหนึ่งเธอเคยถามโพ่งๆ ไปว่าเขาทำอาชีพอะไร ชายผู้นั้นก็เพียงแต่ยิ้มๆ แล้วตอบว่า “ผมขายประกันชนิดหนึ่งครับคุณป้า” แล้วก็รีบเดินจากไป เธอรู้สึกเสียหน้ามากเวลาที่ใครที่ร้านเสริมสวยถามเธอเกี่ยวกับเรื่องราวของชายผู้นี้แต่เธอตอบไม่ได้ เธอต้องรู้ให้ได้ว่าชายผู้นี้มีอาชีพอะไรกันแน่
เธอสังเกตว่าในแต่ละวันชายผู้นี้แทบไม่ได้ออกจากบ้านเลย เธอรับไม่ได้ที่ต้องรู้ว่า นอกจากอาชีพเก็บหวยที่เธอทำแล้วในระแวกนี้ยังมีอาชีพอย่างอื่นที่ไม่ต้องออกไปทำงานทุกวันด้วยหรือ ที่น่าสงสัยกว่านั้นทุกๆ สองสามเดือน ชายผู้นี้มักจะหายตัวไปหนึ่งถึงสองสัปดาห์โดยเอา backpack ใบใหญ่ไปด้วยเสมอ ทุกครั้งที่ชายผู้นี้กลับมา ป้าละเอียดจะแอบสังเกตเห็น tag ที่ติดมากับ backpack ซึ่งบ่งบอกถึงจุดหมายปลายทางที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางทีก็ยุโรป อัฟริกา หรือไม่ออสเตรเลีย ดูเหมือนจะไม่เคยซ้ำ เธอสงสัยเหลือเกินว่าชายผู้นี้เอาเงินมากมายมาจากไหนถึงได้มีปัญญาไปท่องเที่ยวทั่วโลกได้ปีละหลายครั้ง เมื่อถาม ชายผู้นี้ก็เพียงแต่ตอบว่า “ทั้งชีวิตของผมก็มีความสุขแค่การได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ น่ะครับคุณป้า” ที่สำคัญ ทำไมมีเงินมากขนาดนี้แต่กลับมาใช้ชีวิตแบบสมถะอยู่ในบ้านทาวน์เฮ้าส์ราคาถูกทั้งที่น่าจะสามารถบ้านอยู่บ้านเดี่ยวหลังโตได้
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงชอบแอบดูตู้ไปรษณีย์ของชายผู้นี้อยู่เสมอ แต่ละเดือน เธอจะพบแต่เพียงบิลค่าน้ำค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และก็จดหมายอะไรก็ไม่รู้ที่หน้าตาคล้ายๆ กันแต่มีอยู่สองแบบเป็นจำนวนมากที่ส่งมาจากบริษัทหลักซกหลักทรัพย์อะไรนี่แหละ ไม่มีบิลค่ามือถือหรือจดหมายอะไรอย่างอื่นที่แสดงถึงความฟุ่ยเฟือยเลย ข้อมูลเพียงเท่านี้ยังไม่พอที่จะทำให้เธอล่วงรู้ได้ว่าชายผู้นี้มีอาชีพอะไรกันแน่ ความสงสัยนี้ช่างกดดันป้าละเอียดเหลือเกิน
ช่วยป้าละเอียดคิดหน่อยสิครับว่า ชายผู้นี้มีอาชีพอะไรกันแน่ ก่อนที่ป้าละเอียดจะอกแตกตายด้วยความสงสัย
เล่นหุ้นออนไลน์
ยังไม่ถูกครับ ชายผู้นี้บอกคุณป้าว่าเขามีอาชีพขายประกันชนิดหนึ่ง
มันคืออะไรครับ
ซื้อ-ขายในตลาดล่วงหน้า
ยังไม่ถูก เฉียดไปครับ
ซื้อขาย Stock Option？
คุณนรินทร์ครับ ผมพอดีได้อ่าน เศรษฐศาสตร์ในกรุงเทพมหานครและเอาตัวรอดด้วยทฤษฎีเกม ของคุณนรินทร์แล้วรู้สึกนิยมมากครับ
คืออย่างนี้ครับ ตอนนี้ผมทำรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับหนังสือชื่อรายการ Bookaholic อยู่ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เพื่อเศรษฐกิจอละการลงทุน Money Channel ของตลาดหลักทรัพย์ มีความรู้สึกอยากเรียนเชิญคุณนรินทร์ไปพูดคุยและแนะนำหนังสือในรายการเป็นอย่างมากเลย
ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ผมอยากเรียนเชิญคุณนรินทร์มาแนะนำหนังสือและแบ่งปันความรู้ให้กับนักลงทุนและประชาชนที่สนใจท่านอื่น ๆ ในรายการนะครับ
ติดต่อผมได้ที่อีเมลนี้นะครับ [email protected] ครับ
ขอบคุณมากเลยครับ (หากไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ ลองเมลมา หรือทิ้งเบอร์มาในเมล สอบถามรายละเอียดกันก่อนได้ครับ)
อ้อ ร่วมตอบคำถามครับ ถ้าขายประกัน น่าจะเป็นการขายหรือ Short Options
ไม่ว่าจะเป็น Short Call หรือว่า Short Put
ที่เป็นรูปแบบหนึ่งของประกัน ก็เพราะว่าคนที่ขายออปชั่น จะเหมือนคนขายประกัน ตรงที่เป็นการขายสิทธิในการเรียกร้องใช้สิทธิซื้อหรือขาย ให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นการขายการประกัน “ราคาซื้อหรือขาย” ที่ผู้ซื้อตกลงทำสัญญากันแต่แรก
ซึ่งชายหนุ่มลึกลับนี้ ก็ได้ค่าพรีเมี่ยมเหมือนกับที่บริษัทประกันได้จากลูกค้า รวมทั้งหากคู่สัญญาต้องการใช้สิทธิ (เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไข) ชายลึกลับก็ไม่สามารถบิดพริ้วได้ แต่หากคู่สัญญาไม่ใช้สิทธิ ชายลึกลับก็จะได้ค่าพรีเมียมไปสมทบทุนเที่ยวรอบโลกฟรี ๆ
ไม่รู้ถูกรึเปล่านะครับ
ถูกเป๊ะเลยครับคุณ chalermporn เก่งมากครับ ชายผู้นี้มีอาชีพ short options จริงๆ ครับ (ผมจะนำมาขยายความในการเขียนบล๊อกครั้งต่อไป)
🙂
เห็นว่าจะเขียนเรื่อง Options
ผมเคยไปสัมมนาหลักสูตรการลงทุนใน Index Options ของ TSI ฟังแล้วก็ยังงง งง อยู่หลายเรื่อง
คือคิดตามไม่ทันว่างั้นแหละ
เขายกตัวอย่างเรื่องOptins ในชีวิตประจำวันว่า สลากกินแบ่ง ประกันรถยนต์ พวกนี้มันก็เป็น Options อย่างหนึ่ง ผมก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเป็น Options ยังไง
ถ้าพี่สมอ. จะพูดถึงเรื่องสลากกินแบ่ง ประกัน ด้วยก็น่าจะดีนะครับ
ร่วมด้วยช่วยกันอธิบายครับ ใครแม่นกว่าช่วยแก้ให้ผมด้วยนะ
คอนเซปต์ของออปชั่น คือสัญญาระหว่างคนซื้อกับคนขาย แต่จะเป็นสัญญาที่มีข้อตกลงพ่วงมาด้วย นั่นก็คือคนซื้อ (ที่เราเรียกว่าผู้ทำ long) จะซื้อ “สิทธิ” มาจากผู้ขาย (หรือผู้ทำ short) ซึ่งสิทธิที่ซื้อมานี้ ก็คือสิทธิในการเรียกใช้ข้อกำหนด ตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา หากผู้ซื้อต้องการใช้ และภายใต้ข้อกำหนด (ในตลาด TFEX จะเป็นสิทธิในการซื้อหรือสิทธิในการขาย SET50 Index ตามราคาที่กำหนดไว้) ซึ่งการซื้อสิทธินี้ คนที่ long ก็ต้องจ่ายค่าซื้อเป็นค่าพรีเมี่ยมให้กับคน short เพื่อชดเชยความเสี่ยงในการขายสิทธิให้กับผู้ขาย
และเจ้าสิทธิที่ว่านี้จะมีประโยชน์อย่างไร จะมีประโยชน์ก็ตรงที่ผู้ซื้อสิทธิสามารถเลือกได้ว่าจะใช้สิทธิรึเปล่า ซึ่งตามธรรมชาติของคน ก็จะใช้สิทธิเมื่อเราได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้น หากเราซื้อ options แล้วอนาคตเราได้กำไร เราก็ใช้สิทธิ แต่หากขาดทุน เราก็ไม่ใช้สิทธิแล้วยอมขาดทุนค่าพรีเมียมไป แต่ในกรณีของผู้ขายสิทธิ ไม่มีสิทธิเลือกนะครับ ถ้าผู้ซื้อสิทธิไปอยากใช้สิทธิ ก็ต้องให้เค้าใช้อย่างไม่บิดพริ้ว
ทีนี้ มันเหมือนกับสลากกินแบ่งหรือประกันอย่างไร คล้ายกันมากครับ ตรงที่เราเป็นการทำสัญญาแบบมีการซื้อสิทธิพ่วงไปด้วยเช่นกัน โดยผู้ซื้อหวย จะเป็นผู้จ่ายค่าซื้อสัญญาหรือค่าพรีเมี่ยม เป็นค่าหวยราคา 80 บาทนั้นไป (และผู้ทำประกันก็จะจ่ายเบี้ยประกันเป็นค่าพรีเมี่ยมเช่นกัน) โดยสิทธิที่ว่านั้น ก็คือสิทธิที่เราสามารถเรียกเงินรางวัลได้ เมื่อเราถูกรางวัลไงครับ เพราะสินค้าอ้างอิงในกรณีนี้คือ “เลขที่ออกกกก” (ในกรณีของการทำประกัน ก็เป็นการเรียกร้องสินไหมกรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต) ซึ่งเงินรางวัลที่เราได้นั้น เราก็มีสิทธิเลือกว่าจะเอาไปขึ้นรางวัลหรือไม่ก็ได้ แต่ตามธรรมชาติของมนุษย์ก้อคงต้องขึ้นอยู่แล้วใช่ไหมครับ ถ้ามันถูกรางวัล (ในกรณีประกันชีวิต หรือประกันภัยรถยนต์ก้อเหมือนกัน) ซึ่งผู้ขายสิทธิ ก็คือรัฐบาลและบริษัทประกัน ก็ไม่มีสิทธิบิดพริ้ว ถ้าเราถูกรางวัลแล้วเอาไปขึ้นเงิน
คอนเซปต์มันจึงเหมือนกันครับ
อยากทำอาชีพอิสระแบบนี้บ้างจังครับ….
อ้าว เข้ามาไม่ทัน … เห็นคำตอบซะแล้ว
เดิมตั้งใจว่า คำตอบของผมถูกแน่นอน
คนอะไร มีเงินใช้ เที่ยวได้เที่ยวดี มีรถสวยๆ รับหญิง
แบบนี้มีอย่างเดียวล่ะครับ
… พระเอกหนังไทย ~~~ ฟันธง!!
)
เมื่อเช้ามีตัวแทนขายประกันที่ผมเป็นลูกค้าอยู่โทรมาหาผมเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดของบริษัท เธอบอกว่าถ้าผมซื้อกรมธรรม์ตัวนี้ ทางบริษัทจะนำไปเงินไปลงทุนในหุ้นบลูชิพ มีการคำนวณปันผลให้ทุกไตรมาส โดยนำ SET50 Index ในวันที่จะคำนวณมาเปรียบเทียบกับ SET50 Index ในวันเริ่มต้นกรมธรรม์ ถ้าดัชนีวันนี้ต่ำกว่าวันฐาน จะให้ผลตอบแทนเป็น 0% (ไม่ติดลบ) แต่ถ้าดัชนีวันนี้สูงกว่าวันฐาน ผลตอบแทนก็จะได้ตามการเพิ่มขึ้นของดัชนี โดยที่บริษัทจะจ่ายปันผลจริงประมาณ 60% – 70% ของผลตอบแทน
แบบนี้น่าจะเป็น Option ที่ประกันขาลงเอาไว้ใช่มั้ยครับ
ใช่ครับ เขาซื้อหลักทรัพย์และอ๊อปชั่นเอาไว้ครับ
พวกโบรกก็มีขายโปรดักส์พวกนี้ครับ แต่เป็นตั๋วเงินระยะสั้น 3 เดือนรู้ดำรู้แดงไปเลย เรียกว่าพวก structured notes
สลากกินแบ่งกับประกันภัยแท้จริงแล้วเป็นเรื่องเดียวกันครับ เพียงแต่สิ่งที่ใช้ลั่นไกว่าใครจะได้เงินรางวัลไปไม่เหมือนกันเท่านั้น สลากกินแบ่งใช้การหมุนวงล้อ ส่วนประกันภัยใช้ความซวย
อึมที่จริงสลากกินแบ่งกับประกันภัยไม่เหมือนอ๊อปชั่นเท่าไรนัก แค่คล้ายๆ นะครับ
ผมมีตัวอย่างในชีวิตจริงนอกตลาดอยู่อันหนึ่งที่เหมือน อ๊อปชั่น อย่างยิ่ง…
สมัยชาติชาย ที่ดินบูมมาก ส่วนใหญ่จะซื้อและขายเปลี่ยนมือกันอย่างรวดเร็ว ความต้องการจริงไม่มี สมมติว่าที่ดินแปลงนึงเจ้าของเก่าจะขาย 10 ล้าน ถ้าคุณจะเก็งกำไร คุณอาจไม่มีเงิน 10 ล้าน คุณจะใช้วิธีวางเงินมัดจำแค่ 1 ล้านแล้วตกลงกับเจ้าของที่ดินว่า จะเอาอีก 9 ล้านที่เหลือมาให้ภายใน 10 เดือน จากนั้นคุณก็ไปวิ่งหาลูกค้า…
สมมติว่าภายใน 2 เดือนต่อมาคุณหาลูกค้าที่สนใจซื้อต่อจากคุณได้ที่ราคา 11 ล้าน คุณก็ตกลงขายเลย เอาเงิน 9 ล้านจ่ายเจ้าของที่แล้วเอาเงิน 2 ล้านเก็บเข้ากระเป๋า เท่ากับว่าคุณกำไร 100% ในเวลาแค่ 2 เดือน เพราะคุณลงทุนแค่เงินมัดจำ 1 ล้านแต่ได้กำไร 1 ล้าน
แต่ถ้าผ่านไป 10 เดือนแล้ว คุณยังหาคนซื้อไม่ได้ เจ้าของที่จะยึดเงินมัดจำของคุณ 1 ล้านไปฟรีๆ
เงินมัดจำ 1 ล้านนั้นก็คือ options premium ที่คุณจ่ายเพื่อสิทธิในการซื้อที่ดินในราคา 10 ล้าน หมดอายุภายใน 10 เดือน
เหมือน options อย่างกับแพะกับแกะเลยครับ เป็น solution สำหรับนักเก็งกำไรที่ขายเก่งแต่ทุนไม่หนาครับ
เห็นด้วยกับคุณ aut โดยเฉพาะพระเอกนางเอกละครตอนหัวค่ำ คุณสมบัติพิเศษของเขาและเธอคือ ไม่ต้องทำงานก็มีกิน
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงชาวญี่ปุ่นคนนึงที่ภูเก็ตครับ ไม่มีใครทราบว่าแกทำงานอะไร เมียแกยังไม่รู้เลย
กิจวัตรประจำของแกจะเป็นเดินออกกำลังกายช่วงเย็นๆ นานๆทีจะเดินทางเข้าเมืองโดยอาศัยรถสองแถว
ตอนกลางคืนแกจะนั่งอยู่หน้าจอคอมครับ
ปล.รวยมากแต่อยู่แบบประหยัดสุดๆ
เมืองไทยเราไม่ค่อยมีคนเล่าเรื่อง Future, Options และ Swap ให้อ่านง่าย ๆ เท่าไหร่เลยครับ มีแต่อ่านแล้วงง งงแล้วก็พยายามอ่าน อ่านแล้วก็งงอีก แล้วก็เลย… ไปอ่านการ์ตูนดีกว่า 😛
งง เหมือนกัน..เมื่อไหรจะมีหนังสือให้อ่าน
ขอบคุณสำหรับบทความครับ น่าสนใจมากเลยครับ