โมเดลตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยในช่วง 6-7 ปีหลัง มีรูปแบบหลายอย่างที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จนทำให้ผมเกิดภาพในใจเกี่ยวกับกลไกของมัน

ผมว่าตลาดหุ้นไทยในยุคนี้ เป็นตลาดหุ้นที่ต้องการจ ะวิ่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา หมายความว่า แค่ให้มันได้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องมีข่าวดี มันก็ขึ้นไปเรื่อยๆ ได้แล้ว

แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้น มันเป็นตลาดที่มีปัจจัยเสี่ยงมากระทบอยู่ตลอดเวลา ทั้งโรคซาร์ หวัดนก น้ำท่วม ปัญหาภาคใต้ ปิดสนามบิน เผาห้าง ปิดกรุงเทพ วิกฤตยุโรป แผ่นดินไหวญี่ปุ่น วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ และหลายปัจจัยก็ดูค่อนข้างรุนแรง ทำให้มันต้องถอยกลับลงมาตั้งต้นใหม่อยู่เรื่อยๆ และเราก็ตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว

สาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยต้องการจะขึ้นอยู่ตลอดเวลาคือ สภาพคล่องในระบบที่ค่อนข้างล้น เงินฝากล้นแบงก์ รวมทั้งมีเงินที่ไหลมาจากประเทศพัฒนาแล้ว ที่จ้องมาหาผลตอบแทนที่สูงกว่า และสาเหตุที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่ค่อนข้างมั่นคง อัตราว่างงานที่ต่ำมาก อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ และเงินทุนสำรองที่สูง ทำให้ดูน่าลงทุน ด้วยสองปัจจัยหลักนี้ ตลาดหุ้นไทยก็พร้อมจะปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ ได้แล้ว

แต่เพราะเราอยู่ในโลกยุคที่มีปัจจัยเสี่ยงรอบด้านด้วย ทั้งการเมือง ภัยธรรมชาติ โรคระบาด การก่อการร้าย และวิกฤตเศรษฐกิจที่ปะทุมาจากประเทศอื่นๆ ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้พร้อมจะเกิดอยู่เรื่อยๆ คาดการณ์ล่วงหน้าได้ยาก และต่างคนต่างเกิดไม่ค่อยเกี่ยวข้องกัน บางทีก็สลับกันเกิดบ้าง บางทีก็ซวยเกิดขึ้นพร้อมๆ กับแบบซ้ำเติมก็มี จึงทำให้พอตลาดหุ้นไทยขึ้นไปเรื่อยๆ ได้สักพัก ก็มีอันต้องถอยกลับลงมาอีก แต่พอทุกอย่างนิ่งใหม่ ตลาดหุ้นไทยก็พร้อมจะกลับมาวิ่งต่อทุกที ขนาดเหตุการณ์ที่รุนแรงมากๆ อย่าง วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ที่ทำให้ดัชนีหุ้นหล่นจาก 900 จุด เหลือแค่ 300 กว่าจุด ราวกับว่าโลกจะวินาศแล้ว มักกลับสามารถกลับมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ราวกับที่จริงแล้วประเทศไทยไม่ได้ถูกทำให้เสียหายใดๆ จากปัจจัยลบเหล่านี้เลย

ถ้าเรามองเห็นความเป็นจริงอันนี้ ทุกครั้งที่มีเหตุที่มากระทบตลาดหุ้นไทยอย่างรุนแรง จนทำให้เราเกิดความรู้สึกว่าทุกอย่างคงจะหมดสิ้นในหนนี้แล้วแน่ๆ ถ้าเรามองเห็นแล้วว่า สุดท้ายแล้วประเทศไทยก็ยังคงเป็นประเทศที่ การว่างงานต่ำ เงินเฟ้อต่ำ เงินสำรองสูง เงินฝากล้นแบงก์ อยู่ ไม่ว่าปัจจัยเสี่ยงนั้นจะดูเลวร้ายมากขนาดไหน หุ้นอาจลงลึกได้มาก และจะจบช้าหรือจบเร็วเราก็ไม่มีทางรู้ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อมันจบ และขอให้มีช่วงเวลาที่ไทยได้อยู่นิ่งๆ สักพัก เช่น อย่างน้อย 6 เดือน ทุกอย่างก็พร้อมจะกลับมาเหมือนเดิมได้ง่ายๆ ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย