อนาคตของ ADVANC

วิธีเข้าใจธุรกิจของ ADVANC ให้ง่ายขึ้น ลองคิดถึงตอนที่ยังไม่มีการประมูล 4G ก่อน บริษัทนี้มีรายรับปีละประมาณ 1.5 แสนล้านบาท แต่มีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจทุกอย่างรวมกันราว 8 หมื่นล้าน (ไม่นับค่าเสื่อม) ทำให้เป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรเงินสดได้ปีละ 7 หมื่นล้านบาท

กำไรเงินสด7หมื่นล้านบาทนี้ บริษัทจะต้อง นำส่วนหนึ่งมาลงทุนพัฒนาเครือข่ายปีละ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อบำรุงรักษาเครือข่ายให้ใช้งานได้เป็นปกติ และเพิ่มขีดความสามารถเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน เหลือเงินสดอีก 5 หมื่นล้าน เอาไปจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท ทำให้เหลือเงินอีกประมาณหมื่นกว่าล้านบาท เป็นเงินสดส่วนเกิน เป็นเช่นนี้มาหลายปี

หลายปีที่ผ่านมา บริษัทนี้กำไรดีมากแต่มีปัญหาเรื่องรายได้ไม่เติบโต เพราะตลาดมือถือของไทยอิ่มตัวแล้ว (จำนวนหมายเลขมีมากกว่าจำนวนประชากรเสียอีก) แถมรายได้ส่วน Voice นับว่าก็มีแต่จะน้อยลง เนื่องจากลูกค้าหันมาคุยกันด้วย LINE, FB แทน ที่ผ่านมาบริษัทสามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงในส่วนนี้ได้จากการที่ผู้บริโภคมีการใช้ Data มากขึ้น ทำให้รวมๆ แล้ว รายรับของบริษัทก็ยังเติบโตแต่เป็นอัตราต่ำๆ เป็นเลขตัวเดียว จะมองว่าเป็นธุรกิจ Cash Cow ก็ได้ เพราะกำไรเยอะมาก แต่ไม่เพิ่ม ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่หากเป็นแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆ ธุรกิจก็อาจสาละวันเตี้ยลง เพราะ Voice มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่ Data นั้นเริ่มใกล้ขีดจำกัดในการเติบโตแล้ว เพราะ 3G ของ ADVANC มีแบนด์วิทด์ที่ค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย

ดังนั้น 4G จึงเป็นโอกาสที่จะแก้ไขปัญหานี้ เพราะ 4G จะเพิ่มศักยภาพด้าน Data แบบก้าวกระโดด ช่วยให้รายได้ของ Data สามารถโตต่อไปอีก เพื่อมาชดเชย Voice ได้ และถ้าโชคดีคนใช้ Data มากขึ้นมากๆ อาจหมายถึงการกลับมาเป็นธุรกิจที่เติบโตได้เลย 

อันที่จริง การอัพเกรดเป็น 4G ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงบริษัทที่มีกำไรเงินสดมากๆ อย่าง AIS แถมการที่ยังมีหนี้อยู่น้อย ทำให้สามารถกู้มาลงทุน 4G ทั้งหมดเลย ไม่ต้องรบกวนกระแสเงินสดปกติ ก็ยังไหว เพราะค่าใบอนุญาตระดับ 7 หมื่นล้านนั้น ไม่ได้เกินวงเงินกู้ หรือทำให้ D/E สูงเกินเลย การอัพเกรดอุปกรณ์ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก เพราะปกติก็มีงบต้องอัพเกรดอุปกรณ์อยู่แล้ว แถมคลื่นใหม่ยังมีค่าแบ่งรายได้ต่ำกว่าเดิม ไปๆ มาๆ ค่าใช้จ่ายอาจจะลดลงได้ด้วยซ้ำ และถ้าดอกเบี้ยจ่ายจะเพิ่มขึ้น ก็อยู่ในระดับหลายพันล้านเท่านั้น เทียบกับบริษัทกำไรปีละหลายหมื่นล้าน ก็ไม่ได้หนักเท่าไร บริษัทอาจต้องมีค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณาเพิ่มขึ้นเพื่อสร้าง 4G awareness แต่ก็จะเยอะในช่วงแรกๆ เท่านั้น หลังจากนั้นกำไรน่าจะกลับมาดูเป็นปกติได้ไม่ยาก

แต่ที่ทำให้ดูเป็นปัญหามากกว่านั้นในช่วงแรก คือบริษัทดันมีลูกค้าเก่าจำนวนมากที่ติดอยู่ในคลื่นเก่า ซึ่งบริษัทไม่สามารถประมูลคลื่นเก่ากลับมาได้ ทำให้จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการจูงใจให้ลูกค้าเก่าจำนวนมากย้ายมาใช้คลื่นใหม่ ซึ่งก็คือการ subsidy มือถือเครื่องใหม่ให้ลูกค้ากลุ่มนี้ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในช่วงเปลี่ยนผ่านไม่น้อย แถมจูงใจแล้ว ลูกค้าส่วนหนึ่งก็ยังไม่ย้ายมาอยู่ดี ทำให้สุดท้ายแล้วก็ต้องไปเช่าใช้คลื่นจากรายอื่นเพื่อให้บริการลูกค้าส่วนที่ไม่ย้าย หรือไม่ก็ต้องประมูลคลื่นเก่ามาอีกชุดหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าวิธีไหนก็ต้องเสียเงินทั้งนั้น ครั้นจะลอยแพลูกค้ากลุ่มนี้ไปเลยก็ไม่ได้อีก เพราะจะโดนคู่แข่งนำมาโจมตีในแง่จริยธรรมอีก ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ น่าจะทำให้กำไรในช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะต้องลดลงบ้างอยู่แล้วย่ิงลดลงไปมากกว่าที่ควรจะเป็นไม่น้อยอยู่เหมือนกัน  

หากพ้นจากช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปได้แล้ว อัตราการเติบโตของบริษัทในระยะยาวจะดีขึ้นแค่ไหน  น่าจะขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะใช้ Data มากขึ้นแค่ไหนเมื่อมี 4G เป็นสำคัญ (ส่วนรายได้ Voice ยังไงก็ลดลง)  เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันแทบจะตายตัวอยู่แล้ว รายได้เพิ่มได้แค่ไหนก็คือกำไรที่เพิ่มขึ้น และรายได้ Data ที่เพิ่มขึ้นนี้ต้องมาจากรายได้ต่อหัว (ARPU) ที่เพิ่มขึ้นด้วย เพราะการเพิ่มรายได้ด้วยการเพิ่มลูกค้านั้นคงทำได้ยาก เพราะตลาดอิ่มตัว แค่รักษาจำนวนลูกค้าไม่ให้ลดลงเพราะคู่แข่งมาแย่งก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ดังนั้นอนาคตของ ADVANC น่าจะขึ้นอยู่กับว่าบริษัทจะเพิ่ม ARPU ได้มากและเร็วแค่ไหน เป็นสำคัญ (Key Value Driver) ตัวเลขไตรมาสล่าสุดบอกว่า ARPU ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ลดลง เพราะบริษัทออกแพจเกจใหม่เพื่อจูงใจให้ลูกค้าใช้ Data เยอะขึ้น (จาก 1.6G กลายเป็น 2G yoy) เพราะ Data ถูกลง และหวังว่าจะทำให้ลูกค้าติดการใช้ Data เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ ARPU กลับมาเพิ่มขึ้นในที่สุด ก็ต้องรอดูต่อไปว่าจะได้ผลอย่างไร

(AIS ยังมีโอกาสโตอีกอย่างหนึ่งคือ ธุรกิจ AIS fibre แต่ว่ายอดขายยังอยู่ระดับหลายพันล้านเท่านั้น เทียบกับรายได้รวมเป็นแสนล้าน จึงยังแทบไม่มีผลอะไรในอีก 2-3 ปีข้างหน้า)

 

12 Replies to “อนาคตของ ADVANC”

  1. แล้วถ้า ADVANC ได้คลื่น 900 ที่ JAS ทิ้งไปด้วยอีกใบ จะทำให้มีภาระทางการเงินที่หนักเกินไปไหมครับ

    1. ตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าห่วงอยู่ ไม่เข้าใจว่าเอไอเอสจำเป็นต้องมีคลื่นนี้มากขนาดนั้นเลยหรือตอนแรกก็บอกว่าราคานี้แพงไป

  2. ผมเห็นคนรอบตัวมีแต่เปลี่ยนแพคเกจให้ถูกลง แต่ได้เน็ตมากขึ้นนะครับ

    1. การฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจะเรียกให้มากไว้ก่อนแค่ไหนก็ได้ครับ ส่วนศาลจะให้เท่าไรหรือว่าไม่ให้นั้นแล้วแต่ข้อเท็จจริงและตัวบทกฎหมายครับ

    1. จะอ่านบทความ ” อนาคตของ advanc ” ต้องทำอย่างไรครับ เพิ่งสั่.ซื้อหนังสือ โรงเรียนการลงทุน1+2 ทาง paypal ไป ถ้าการที่จะอ่านบทความนี้ได้ต้อง log in โดยการกรอก user name + pass word แล้วล่ะก้อ กรุณส่ง username+passwordมาที่ [email protected] ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

  3. คุณนรินทร์ครับ ระบบมันยังต้องการ pass word ด้วย ไม่งั้นผมเข้าไปอ่านไม่ได้ครับ รบกวนขอ pass word ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

  4. พอ Advance ไปรับคลื่น 900 ที่ 7.5 หมื่นล้านนี่
    ไม่น่าจะถึงขั้นต้องเพิ่มทุนใช่ไหมครับ

    1. คิดว่าไม่ครับ แต่มีโอกาสกระทบเงินปันผล

  5. ผม log in ได้ แต่อ่านบทความไม่ได้ ไม่แน่ใจต้องทำ อะไรเพิ่มเติมรึเปล่าครับ

Comments are closed.