10 ปีที่แล้ว ผมประดิษฐ์แนวการลงทุนอย่างหนึ่งขึ้นมา เรียกชื่อมันว่า 7LTG
10 ปีผ่านไป ผมพบว่ามันเป็นแนวการลงทุนที่ดีทีเดียว แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้เหมาะกับนักลงทุนทุกรูปแบบ และมันก็ยังมีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่ง
ที่ว่าไม่เหมาะกับนักลงทุนบางกรณีนั้น ก็คือ 7LTG เหมาะมากกับคนที่มีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ (steam of income) เช่น มีเงินเดือนประจำ แล้วอยากออมเงิน แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีเงินก้อนอยู่แล้วตั้งแต่เริ่มแรก เพราะ 7LTG ใช้วิธี Dollar Cost Averaging (DCA) กว่าเงินก้อนใหญ่ๆ จะแบ่งทยอยลงจนหมด คงใช้เวลานานมากๆ
และนั่นก็เป็นจุดอ่อนหนึ่งของ 7LTG ด้วย เพราะว่ามันคือการลงทุนแบบ DCA ซึ่งอาจจะมีข้อดีตรงที่ช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อแพงได้ แต่ตามทฤษฎีการเงิน ตลาดหุ้นมันจะเป็นขาขึ้นในระยะยาวๆ การทยอยลงเงินทีละนิด ย่อมทำให้เสียโอกาสของเงินมากกว่าการลงเงินทั้งหมดตั้งแต่ Day 1
ถ้าอย่างนั้น เราจะมีวิธีไหนมั้ยที่จะเติมเต็ม 7LTG หรือมีทางออกให้กับคนที่มีเงินก้อน และในเวลาเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องเสียโอกาสของเงินที่จะอยู่ในตลาดหุ้นเพื่อทำงานเราได้นานๆ
วิธีหนึ่งที่คิดออกคือแนวการลงทุนแบบ Magic Formula หรือแนวที่คล้ายๆ กัน แนวทางแบบนี้เป็นการลงเงินทั้งหมดตั้งแต่วันแรกเลย แล้วทุกปีก็ค่อยปรับพอร์ตหนึ่งครั้งตามสูตร เช่น ถ้าใช้หุ้นพีอีต่ำ พอผ่านไปหนึ่งปี หุ้นในพอร์ตที่พีอีสูงแล้วก็เอาออก เปลี่ยนไปซื้อตัวที่พีอียังต่ำอยู่ วิธีนี้ดีมาก เพราะเงินได้ทำงานทั้งก้อนตั้งแต่ Day 1 ในเวลาเดียวกันก็มีการสลับเอาหุ้นตัวใหม่ๆ ที่ยังถูกอยู่ เข้ามาในพอร์ตเป็นระยะๆ ช่วยเร่งผลตอบแทนได้ด้วย
ดังนั้นถ้าใครมีเงินเดือนเข้ามาเป็นระยะๆ ก็ควรลงทุนแบบ 7LTG ไป แต่ถ้าใครมีเงินก้อนตั้งแต่วันแรกเลย ก็อาจหันไปลงทุนแบบ Magic Formula แทน เลือกเอาตามเงื่อนไขของแต่ละบุคคลไป
อย่างไรก็แล้วแต่ หลังๆ มีหลายคนบอกว่า (หาๆ อ่านดูตามบล็อกต่างๆ) ยิ่งนานวันพวก Magic Formula ยิ่งจะเริ่มไม่ได้ผล ซึ่งน่าจะเป็นเพราะพอคนรู้จักวิธีพวกนี้มากๆ ก็เริ่มนำมาใช้ทำให้เกิดการ arbitrage จนผลตอบแทนส่วนเกินของสูตรพวกนี้เริ่มหายไป ดังนั้นใครจะใช้ Magic Formula ก็อาจจะต้องเลือกสูตรที่ใหม่ๆ หน่อย และควรทำ backtest ด้วย สูตรเก่าๆ ที่ทุกคนรู้กันหมดแล้วอาจไม่ได้ผลอีกต่อไป ทั้งนี้ยังไม่นับปัญหาเรื่องหุ้นบางตัวไม่มีสภาพคล่องด้วย
นั่นก็เลยเป็นที่มาของปัญหาที่ผมขบคิดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาว่าเราจะออกแบบแนวการลงทุนแบบไหนขึ้นมาสักแบบได้ไหม ที่เหมาะสำหรับคนที่มีเงินก้อน และช่วยอุดช่องว่างของการลงทุนแบบ 7LTG ได้ แนวการลงทุนแบบนั้นควรมีปรัชญาหรือกฎของการลงทุนอะไรยังไงบ้าง และนี่คือเหตุผลหลักที่อยากกลับมาเขียนบล็อกการลงทุนอีกครั้ง
น่าจะคล้ายๆ JITTA เลยมั้ยครับ
ครับ Jitta ก็เป็นเหมือน magic formula เพียงแต่เกณฑ์ในการคัดกรองหุ้นที่จะซื้อต่างกัน สูตรใครสูตรมัน
รอครับ