Skip to content

Blog

495: อนาคตของบล็อกนี้

พอไม่ได้ทำ 7LTG ต่อแล้ว ก็ต้องมีนั่งคิดว่าจะทำยังไงกับบล็อกนี้ดี ถ้าจะปิดไปเลย ก็เสียดายบทความเก่าๆ ที่ยังมีคนเข้ามาอ่านอยู่ ครั้นจะเขียนต่อ ก็ยอมรับว่า ไม่รู้จะเขียนอะไร เพราะไม่ต้องตามข่าวแล้ว หนังสือแนวการลงทุนก็ไม่ได้อ่านแล้ว ถ้าเขียนไป ก็คงเป็นบทความที่ดูจืดๆ ไม่มี inner พอดีว่าผมแชร์แนวคิดเรื่องหุ้น Tech ทางยูทิวบ์อยู่แล้ว ถ้าจะเขียนเกี่ยวกับหุ้น Tech ในนี้ก็คงซ้ำซ้อนอีก สุดท้ายก็เลยได้ข้อสรุปว่าจะเก็บบล็อกนี้ไว้เขียนบันทึกส่วนตัวเกี่ยวกับการลงทุนในคริปโตก็แล้วกัน เพราะเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้มีช่องทางระบายออก แต่คงเป็นแค่ไดอารี่ส่วนตัวกากๆ ของเม่าตัวหนึ่งเท่านั้น เพราะเราเป็นมือใหม่ในวงการนี้จริงๆ (วงการนี้คนเก่งๆ เยอะมาก) และแน่นอน บทความเก่าๆ ในบล็อกนี้ก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่มันจะถูกดันลงไปข้างล่างมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้คนยังคง Search หาเจอได้จากกูเกิลเหมือนเดิม ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอเวลาสักพักในการย้าย… Read More »495: อนาคตของบล็อกนี้

494: งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา

หลังจากชั่งใจอยู่นาน ในที่สุดวันนี้เราก็โทรไปบอกโบรกเกอร์ให้หยุดซื้อหุ้นตามโปรแกรมออมหุ้น (7TLG) ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ใจหายเหมือนกันที่อยู่ดีๆ ก็เลิกทำอะไรที่ทำติดต่อกันมา 12 ปี ส่วนหุ้นที่ยังค้างอยู่ในพอร์ตตอนนี้ ก็คิดว่าจะค่อยๆ ขายออกไปจนหมด เร็วๆ นี้ เช่นกัน เร็วกว่าที่ได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ที่จะค่อยๆ ออกปีละตัว สรุปผลงานของ 12 ปีที่ผ่านมา (1) เงินปันผลสะสม                    433,715.84 บาท (2) กำไรจากการขายหุ้นไปก่อนหน้านี้  366,521.35 บาท (3) กำไรจากการขายหุ้นหากขายหุ้นที่เหลืออยู่วันนี้ 646,490.44… Read More »494: งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา

485: บทสรุปของการลงทุน

หลังจากอยู่ในตลาดหุ้นมาตั้งแต่ปี 2003 ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลากหลายรูปแบบ วิกฤตก็หลายหน ความคิดของผมเกี่ยวกับการลงทุนก็มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ สุดท้ายแล้ว ถ้าจะให้ผมแนะนำหรือมองว่าคนเราควรลงทุนในหุ้นอย่างไร ผมคงสรุปออกมาเหลือแค่นี้ จงคัดเลือกหุ้นที่คิดว่าดีที่สุดในตลาดหุ้นไว้ 5-10 ตัว เก็บไว้ใน wish list ของเราเสมอ คำว่าหุ้นที่ดีที่สุดหมายถึง ธุรกิจที่มีความแข็งแรง และยังมีโอกาสเติบโตได้อีก อย่ายึดติดกับหุ้นราคาถูก หรือความสำเร็จในอดีตของบริษัทมากเกินไป ที่สำคัญก็คือ จงคัดเลือกด้วยตัวเอง อย่าเลือกตามกูรูหุ้นหรือผู้เชี่ยวชาญ เพราะจะติดกับของการแห่ตามกัน การเลือกหุ้นเก่งไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญสำหรับการลงทุนเป็นพอร์ตโฟลิโอ เมื่อมี wish list ในใจเรียบร้อยแล้ว เวลาจะซื้อ มีวิธีให้เลือกอยู่ 3 แบบ ดังนี้ วิธีที่ 1 คือ DCA หุ้นใน wish… Read More »485: บทสรุปของการลงทุน

484: สิ่งที่นักลงทุนระยะยาวต้องเตือนตัวเองบ่อยๆ

การวิเคราะห์แนวปัจจัยพื้นฐาน ต้องใช้เวลานานมาก กว่าสิ่งที่เรามองไว้จะสะท้อนออกมาให้เห็นในผลประกอบการ ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดหวังผลลัพธ์ในรูปแบบของราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ ได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลที่ซื้อหุ้นแนวพื้นฐานแล้วหวังว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นทันทีในวันต่อมา ตรงกันข้าม ซื้อหุ้นแนวพื้นฐานแล้วโอกาสที่หุ้นจะขึ้นเลยมีน้อยมาก บ่อยครั้งซื้อแล้วหุ้นลงด้วยซ้ำ จงเตือนตัวเองบ่อยๆ ว่า ผลตอบแทน 1 วัน กับผลตอบแทนในอีก 1 ปี ไม่มีความสัมพันธ์กัน เช่น หุ้นที่ซื้อแล้วพรุ่งนี้เขียว อีก 1 ปีอาจจะติดลบก็ได้ และหุ้นที่ซื้อแล้วพรุ่งนี้แดง อีกหนึ่งปีก็อาจจะเขียวหนักๆ เลยก็ได้ ดังนั้น เมื่อซื้อหุ้นระยะยาวอะไรก็ตาม ทางที่ดี ควรจะปิดหน้าจอ เลิกสนใจไปเลย และอย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาให้มาก เอาไว้สัก 6 เดือน หรือหนึ่งปี ค่อยมาเปิดดู เพราะการซื้อไปแล้วก็มานั่งตามดูราคามันทุกวัน เราจะอดใจไม่ได้ที่จะตัดสินผลงานจากผลตอบแทนระยะสั้น ถ้าเขียวเลย… Read More »484: สิ่งที่นักลงทุนระยะยาวต้องเตือนตัวเองบ่อยๆ

483: ผลพลอยได้ของการมีนโยบายไม่ขายหุ้น

การที่เราตั้งใจว่า ถ้าซื้อหุ้นอะไรก็จะถือไปตลอด ไม่มีนโยบายขาย นอกจากจะทำให้เราคิดรอบคอบมากขึ้นก่อนซื้อแล้ว ยังมีประโยชน์สำคัญอีกข้อหนึ่งที่คุณอาจคิดไม่ถึง นั่นคือ มันช่วยทำให้เรามีโอกาสได้กำไรหุ้นแบบหลายเด้งด้วย เพราะการจะทำแบบนั้นได้นอกจากจะต้องเจอหุ้นหลายเด้งแล้ว คนที่เจอยังต้องกล้าถือไปเรื่อยๆ แม้ว่าราคาจะพุ่งขึ้นมาเป็นเท่าตัวด้วย เพราะถ้าเจอหุ้นตัวดังกล่าว แต่พอมันขึ้นมาแค่ 20-30% ก็อดใจไม่ไหว ขายทิ้ง แบบนี้ก็จะพลาดอยู่ดี ซึ่งการที่หุ้นขึ้นไป 30% แล้ว เรายังไม่ขาย เป็นอะไรที่ทำใจได้ยากมาก ถ้าใครเล่นหุ้นมานานก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี กลัวว่าหุ้นจะตกกลับลงไปใหม่ แล้วกำไรจะหายไปหมด จึงต้องรีบขาย สุดท้ายแล้ว มันก็ขึ้นต่อไปอีก 100% ขายหมูอีกตามเคย คนที่จะอยู่จนกำไรเป็นเด้งๆ ได้ ถ้าไม่ใช่คนบ้า ก็ต้องมีความมั่นใจในหุ้นตัวนั้นมากเป็นพิเศษ ระดับที่เชื่อเป็นลัทธิ ว่าธุรกิจนั้นวิเศษเลอเลิศ​ ซึ่งบ่อยครั้งก็เหมือนคนบ้าจริงๆ นั่นแหละ บางคนบ้าแล้วก็ผิดหวังก็มี ไม่ใช่บ้าแล้วจะรวยได้ทุกคน แต่อีกวิธีหนึ่งที่เราจะอยู่รอดไม่ขายจนได้กำไรหลายเด้ง… Read More »483: ผลพลอยได้ของการมีนโยบายไม่ขายหุ้น

482: อุปสรรคการลงทุนมันลึกซึ้งกว่าที่คิด

มีพี่นักลงทุนคนหนึ่งเคยพูดตอนที่ตลาดหุ้นมันวิ่งๆ และทุกคนก็เฮโลกันเข้าไปว่า คอยดูเถอะ วันหนึ่งเวลาที่หุ้นตกมากๆ แล้วจะรู้ว่า หุ้นที่ทุกคนเคยบอกว่าพื้นฐานดีอย่างนั้นอย่างนี้ จะไม่มีใครเอาเลย ยิ่งถูกยิ่งไม่มีใครอยากได้ ทั้งที่มันเคยเป็นหุ้นไร้เทียมทานมาก่อน แล้วจะรู้ว่าพื้นฐานที่ว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้เป็นแค่ภาพลวงตา ถ้าคนจะไม่เอาหุ้นสักอย่าง หุ้นอะไรก็ไม่เหลือ ตอนแรกที่ผมได้ยินคำพูดแบบนั้น ผมก็เหมือนกับทุกคน คือรู้สึกว่า พี่เขามองโลกในแง่ร้ายจัง ทำไมไม่คิดบวก คนคิดบวกประสบความสำเร็จเสมอ ไลฟ์โคชสอนไว้ แต่พอได้อยู่ในตลาดมานานพอ ได้เห็นเหตุการณ์ที่ว่าแบบนั้น ซ้ำๆ กันหลายๆ รอบ ถึงได้เห็นว่า พี่เขาพูดด้วยประสบการณ์ที่เห็นตลาดหุ้นมายาวนานกว่าเรามากจริงๆ บางทีคนที่ขยันหาหุ้นทุกวัน ติดต่อกันสี่ห้าปี และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่พอวันนั้นมาถึง ตลาดหุ้นพังทลาย กำไรที่หามาได้ทั้งหมด ก็หายไปในปีเดียว กลายเป็นขาดทุนเสียด้วยซ้ำ ในขณะที่บางคนอาจจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย สี่ห้าปี แต่พอตลาดหุ้นพังทลายก็เข้ามาซื้อแค่ครั้งเดียว แล้วก็อยู่เฉยๆ ไปอีกสี่ห้าปี… Read More »482: อุปสรรคการลงทุนมันลึกซึ้งกว่าที่คิด

481: PE ตลาด 15x magic number?

มีแนวคิดหนึ่งบอกว่า ค่าเฉลี่ยพีอีระยะยาวของตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก อยู่ที่ประมาณ 15 เท่า ทั้งสิ้น ที่สำคัญ ไม่เกี่ยวกับว่าตลาดนั้นจะเติบโตมากแค่ไหนด้วย เป็นไปได้ว่า 15 เท่า หรือเทียบได้กับ earnings yield 6.7% เป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับความเสี่ยงของตราสารทุน ถ้าเราจะเอาแนวคิดนี้มาใช้เป็นตัวชี้วัดความถูกแพงของหุ้น เช่น ถ้าพีอีตลาดสูงกว่า 15 ก็คือ หุ้นโดยรวมยังแพงเกินไป นักลงทุนระยะยาวควรอยู่เฉยๆ แต่เมื่อไรก็ตามที่พีอีต่ำกว่า 15 ถือว่าตลาดหุ้นน่าซื้อ นักลงทุนระยะยาวควรลงทุนให้เต็มพอร์ตไปเลย แบบนี้จะดีมั้ย โดยส่วนตัว ผมชอบเกณฑ์อันนี้อยู่พอสมควรเลย ข้อดีมากๆ คือ แทนที่เราจะคอยมาเก็งว่าตลาดหุ้นจะลงไปต่ำสุดแค่ไหน เราใช้เกณฑ์นี้ไปเลย ถ้าพีอีตลาดต่ำกว่า 15 ก็ลงทุน ไม่ต้องไปรอ วิธีนี้ช่วยสร้างวินัยในการลงทุนได้ดีเลย แต่วิธีนี้ก็มีข้อที่ควรพิจารณาหลายอย่าง… Read More »481: PE ตลาด 15x magic number?