Skip to content

Blog

480: อะไรที่ดูง่ายนั้นยากที่สุด

เคยเห็นคนเล่นหมากรุกตามสวนสาธารณะมั้ยครับ ที่เขาเล่นค้างไว้ในกระดาน แล้วให้คนมามุงดูว่าอยากเล่นต่อกับเขามั้ย ใครแพ้เสียเงิน ซึ่งถ้าใครเล่นหมากรุกเป็น ดูแล้วจะเหมือนกับหมากเล่นค้างไว้ในแบบที่เราได้เปรียบมากๆ ยังไงก็ชนะ แต่พอตกลงเล่นกับเขาแล้ว ก็พบว่ามันยากกว่าที่คิดมาก สุดท้ายแล้วแพ้เขาทุกคน เคยไปงานวัดมั้ยครับ ในงานวัดจะเต็มไปด้วยเกมที่ดูง่ายๆ เช่น ใช้กระชอนกระดาษตักปลา หรือสาวน้อยตกน้ำ หรือยิงปืนใส่ตุ๊กตา แต่สุดท้ายแล้ว ร้านจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำทุกคืน อาชีพหากินแบบนี้จะทำเงินไม่ได้เลย ถ้าหากเกมเหล่านี้ไม่ดูง่ายๆ ในสายตาของลูกค้า ยิ่งดูง่ายเท่าไร ก็ยิ่งทำเงินมากเท่านั้น เพราะความง่ายเป็นสิ่งที่ล่อให้คนยอมเล่นด้วย ถ้าดูธรรมดา หรือดูยาก คงไม่มีใครอยากเล่น เพราะจะเล่นเกมที่ดูเสียเปรียบเพื่อให้ตัวเองแพ้ทำไม เราเล่นเพราะเราคิดว่าเราจะชนะได้ง่ายๆ ตลาดหุ้นก็เหมือนกัน ตลาดหุ้นเป็นเกมที่ดูง่ายๆ แค่กดซื้อ กดขาย ก็ทำเงินได้แล้ว ไม่ต้องไปเป็นลูกจ้าง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตาเหลือก หรือไปเป็นเจ้าของธุรกิจ ปวดหัวกับคนงาน เสี่ยงกับสต็อกสินค้า… Read More »480: อะไรที่ดูง่ายนั้นยากที่สุด

479: คอนทราเรียนตัวจริง vs ตัวปลอม

ชอบพูดกันมากกว่า การลงทุนต้องเป็น contrarian ถึงจะสำเร็จ โลภเมื่อคนอื่นกลัว กลัวเมื่อคนอื่นโลภ ซื้อเมื่อคนอื่นขาย ขายเมื่อคนอื่นซื้อ ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิด แต่ว่าการเป็น contrarian จริงๆ นั้น มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คนทั่วไปคิด ประการแรก ตลาดไม่ได้ผิดเสมอไป ถ้าหากตลาดผิดเสมอ การลงทุนให้รวยต้องเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ แค่ทำให้ตรงกันข้ามกับตลาด เราก็จะรวยแล้ว แต่ถ้าใครเล่นหุ้นมาสักระยะจะรู้ว่าการทำเงินในตลาดหุ้นมันไม่ได้ง่ายมากขนาดนั้น บางครั้งตลาดก็ถูก เราเองต่างหากที่ตกข่าว ปัญหาอีกอย่างของการเป็น contrarian ก็คือ นักลงทุนมักลุกขึ้นมาเป็น contrarian พร้อมๆ กัน เช่น เวลาหุ้นเริ่มตกใหม่ๆ ทุกคนจะออกมาบอกว่า ยิ่งตกยิ่งซื้อ อยากเป็น contrarian พร้อมๆ กัน ซึ่งพอหุ้นตกต่อไปอีกเยอะๆ ตอนนี้… Read More »479: คอนทราเรียนตัวจริง vs ตัวปลอม

478: ราคาเข้าซื้อหุ้นที่เหมาะสม

สำหรับคนเล่นหุ้นทั่วๆ ไป อันที่จริง การซื้อหุ้นในมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมอาจไม่ใช่เรื่องที่มีประโยชน์เลยด้วยซ้ำ เพราะคนเล่นหุ้นทั่วไป ต่อให้เป็นคนที่คิดว่าตัวเองลงทุนแนววีไอ หรือแนวปัจจัยพื้นฐานก็ตาม อาจถือหุ้นครั้งละไม่นานนัก เช่น 3 เดือน หนึ่งปี หรืออย่างมากก็สามปี เป็นต้น ในช่วงเวลาที่สั้นขนาดนั้น ราคาหุ้นมักยังไม่ได้วิ่งตามผลกำไร แต่ขึ้นลงตามภาวะตลาดเสียมากกว่า เรียกได้ว่า ภาวะตลาดแทบจะกลบผลของปัจจัยพื้นฐานหุ้นไปเลย เราจึงแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการที่พยายามซื้อหุ้นในราคาไม่เกินพื้นฐาน เสียเวลาเปล่า การถือหุ้นไม่ยาวพอที่จะใช้ประโยชน์จากปัจจัยพื้นฐาน ก็เหมือนใช้เครื่องมือไม่ตรงกับงาน บางทีการเป็นนักเก็งกำไรไปเลย กลับจะดีกว่า นักเก็งกำไรสนใจแค่มองให้ออกว่า หุ้นกำลังเป็นขาขึ้นหรือขาลง โดยไม่ต้องสนใจว่าถูกหรือแพง ถ้ายังเป็นขาขึ้นก็คือซื้อได้ ขาลงต้องขายทิ้ง กลับกลายเป็นวิธีการที่สมเหตุสมผลกับระยะเวลาลงทุนที่ไม่ยาวมากกว่าการมองปัจจัยพื้นฐาน แต่ถ้าใครคิดจะเป็นนักลงทุนระยะยาวจริงๆ เช่น ซื้อหุ้นคิดจะถือตลอดไป ไม่มีแผนที่จะขายเลย (ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ) แบบนี้พื้นฐานเป็นเรื่องสำคัญมาก ราคาที่เข้าซื้อเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะถ้ามันต่ำพอเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ต่อให้ระยะสั้นราคาจะผันผวนขนาดไหน… Read More »478: ราคาเข้าซื้อหุ้นที่เหมาะสม

477: อย่ากลัวที่จะลงทุนด้วยวิธีที่แปลก

คนเรามีแนวโน้มที่จะลงทุนเหมือนคนอื่น ซื้อหุ้นตามคนส่วนใหญ่ ซื้อหรือขายในช่วงเวลาเดียวกันกับคนส่วนใหญ่ เหตุผลลึกๆ คือความสบายใจ ตลาดหุ้นไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีใครรู้อนาคต แต่ถ้าเวลาเราพลาดแล้วเราพลาดเหมือนคนอื่น มีคนพลาดเป็นเพื่อนเราเยอะๆ บางคนเป็นมหาเศรษฐี บางคนเป็นกูรูหุ้น เรายังไม่รู้สึกโทษตัวเองมากเท่ากับเวลาที่เราพลาดคนเดียว แต่โดยสถิติ นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นขาดทุน ดังนั้นการทำตามคนส่วนใหญ่ จึงเป็นสูตรสำเร็จที่จะพาเราไปสู่ความล้มเหลว การลงทุนด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนชาวบ้าน สามารถพาเราไปสู่ความสำเร็จที่ exceptional และถ้านั่นคือสิ่งที่เราต้องการ ก็จงอย่ากลัวที่จะลงทุนด้วยวิธีที่แปลก เพราะนั่นต่างหากคือหนทางสู่เป้าหมาย จริงอยู่ที่การลงทุนด้วยวิธีการแปลกๆ อาจพาเราไปสู่ด้านที่สุดโต่งได้ทั้งสองแบบ คือไม่ดีเลิศไปเลยก็แย่มากไปเลย แต่มันก็ไม่มีเหตุอะไรเหมือนกันที่จะลงทุนเองแล้วลงทุนตามคนส่วนใหญ่ เพราะนั้นทำให้เราได้อย่างมากก็คือเท่ากับตลาด ซึ่งเราสามารถทำแบบนั้นได้ง่ายๆ ด้วยการซื้อกองทุนดัชนี ไม่ต้องมาเหนื่อยหาหุ้น ทำการบ้านหามรุ่งหามค่ำ ด้วยการลงทุนแบบ active เลย ดังนั้น ถ้าจะเลือกหุ้นเอง ลงทุนเอง การมีเป้าหมายที่จะเอาชนะตลาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และนั่นทำไม่ได้ด้วยการลงทุนเหมือนคนส่วนใหญ่  

476: สิ่งที่ยากที่สุดของการลงทุน

เรามักคิดว่า สิ่งที่ยากที่สุดของการลงทุน คือการเลือกหุ้นให้ถูกตัว ทำให้เรากลายเป็นแมงเม่าที่คอยวิ่งตามผู้วิเศษที่จะบอกหุ้นให้เราได้ แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่ยากที่สุดของการลงทุนคือ การอยู่เฉยๆ เพื่อปล่อยให้เงินได้มีเวลาทำงานให้เรามากพอที่จะแสดงศักยภาพที่แท้จริงของมันออกมา เราอาจคิดว่าเราเป็นคนที่ตัดสินหุ้นจากปัจจัยพื้นฐานมากกว่าราคา แต่เมื่อไรก็ตามที่เราได้ซื้อหุ้นนั้นไปแล้ว และได้เห็นราคาหุ้นของมันขึ้นๆ ลงๆ ความผันผวนของราคาจะเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราสงสัยเกี่ยวกับพื้นฐาน หุ้นที่เราเคยคิดว่าพื้นฐานดี ถ้าซื้อไปแล้ว ราคาลงทันที 5% เราก็อาจจะยังไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้ามันลงต่อไปอีก กลายเป็น 10% และกลายเป็น 20% ตอนนี้เราจะเริ่มสงสัยแล้วว่า พื้นฐานมันไม่ดีรึเปล่า ไม่ช้าไม่นาน ถ้าทุกอย่างยังไม่ดีขึ้น เราจะเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับพื้นฐานหุ้นตัวนั้นไปเลย เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่เวลานี้เราจะหาเหตุผลเชิงพื้นฐานมาสนับสนุนความเชื่อของเราว่าหุ้นไม่ดี และคิดไปเองว่า เรามองพื้นฐาน แต่ที่จริงต้นตอของความคิดทั้งหมดมาจากราคาหุ้นที่ร่วงลง ในทางตรงกันข้ามก็เช่นกัน หุ้นที่ราคาวิ่งขึ้นทุกวัน เราจะค่อยๆ เชื่อไปเองว่าหุ้นนั้นพื้นฐานดี สีเขียวทำให้เรามีความสุข ใครมาทำให้เรามีความสุข เราย่อมมองเขาในแง่ดี… Read More »476: สิ่งที่ยากที่สุดของการลงทุน

475: บันทึกไว้ในช่วงที่เกิดไวรัสโคโรน่า

ช่วงนี้ผมใช้วิธีเขียนบล็อกล่วงหน้าไว้เยอะๆ แล้วค่อยทยอยปล่อยออกมา ไม่นึกว่าจะต้องมาเขียนหัวข้อฉุกเฉิกในช่วงนี้ มันมาถึงเร็วกว่าที่คิด โรคระบาดใหญ่ เป็นปัจจัยที่ไม่ได้อยู่ในความคิดของผมเลยก่อนหน้านี้ หรือถ้าจะเคยมีก็อาจเป็นช่วงหลังจากโรคซาร์สใหม่ๆ ซึ่งความกลัวแบบนั้นก็อาจจะอยู่กับเราไปสามสี่ปี แต่พอหลังจากนั้น ไม่เกิดขึ้น เราก็จะเลิกสนใจไปเอง คนเราก็เป็นแบบนี้นะครับ หรือต่อให้ยังคงระวังเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มกันรึเปล่า อาจทำให้เรากล้าๆ กลัวๆ อยู่เป็นสิบปี คิดแล้วไม่คุ้ม ความเสี่ยงแบบนี้ยังมีอีกหลายอย่าง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด  ถ้าต้องระวังหมดทุกเรื่องก็คงไม่ไหว บางอันเกิดนิดเดียวแล้วจบ รีบขายหนีก็เสียโอกาส แต่บางอันก็อาจบานปลายระดับสูงสุด สรุปแล้วมันคือความเสี่ยงที่นักลงทุนในตลาดหุ้นต้องแบกรับไปนั่นแหละ ป้องกันล่วงหน้าได้ยาก เมื่อเร็วๆ นี้ดูเหมือนจะเริ่มมีสัญญาณในเชิงบวก เพราะจีนควบคุมไวรัสได้แล้ว และราคาน้ำมันก็ตกลงมาต่ำกว่ายุคซัพไพรม์แล้ว แต่ยุโรปก็เพิ่งเริ่มต้น และดูเหมือนชาวตะวันตกจะยังมองไม่เห็นความน่ากลัวของมัน แบบเดียวกับที่เราก็เป็นในช่วงแรกๆ กว่าข่าวร้ายสุดๆ ของเรื่องนี้จะออกมา คือ ไวรัสกระจายเต็มสหรัฐฯ ตลาดหุ้นก็อาจจะยังตกต่อได้อีกนาน ทรัมป์เองก็ต้องพยายามพยุงตลาดหุ้นไว้ให้ผ่านเลือกตั้งปลายปีนี้ไปก่อนค่อยพัง… Read More »475: บันทึกไว้ในช่วงที่เกิดไวรัสโคโรน่า

474: มีหุ้นในพอร์ตระยะยาวกี่ตัวดี

ถือหุ้นน้อยตัวเกินไปก็เสี่ยง ถือหุ้นมากตัวเกินไปก็ตามข้อมูลได้ไม่ลึก รวมทั้งยังเป็นเบี้ยหัวแตก ไม่คุ้มค่าและเวลาที่ใช้ศึกษาข้อมูลรายตัว สุดท้ายแล้วก็ต้องตรงกลางว่าจะมีหุ้นกี่ตัวถึงจะเหมาะ เวลาจะซื้อหุ้นสักตัว ต้องทำใจว่าเราอาจจะขาดทุนได้มากถึง 50% เพราะหุ้นเป็นหลักทรัพย์ที่เสี่ยงมาก ดังนั้นถ้าเรามีหุ้นห้าตัวในพอร์ต (ตัวละ 20%ของพอร์ต) แล้วเราเจ๊งกับหุ้นตัวหนึ่งไป 50% เท่ากับว่าพอร์ตของเราจะขาดทุนจากหุ้นตัวเดียวไป 10% แต่ถ้าพอร์ตเรามีหุ้นสิบตัว (ตัวละ 10% ของพอร์ต) แล้วเราเจ๊งกับหุ้นหนึ่งตัวไป 50% เท่ากับว่าพอร์ตเราจะลดลงจากหุ้นตัวนั้นเท่ากับ 5% ทุกคนก็ต้องชั่งใจเอาเองว่า เราสามารถเสียหายไปกับหุ้นหนึ่งตัวได้มากที่สุดแค่ไหน ถ้าคิดว่าไม่เกิน 5% ของพอร์ต ก็ควรมีหุ้น 10 ตัว แต่ถ้า 10% ก็ควรมีหุ้น 5 ตัว ต้องถามใจตัวเองดู สำหรับพอร์ตระยะยาวซื้อสะสม ยังมีอีกประเด็นที่ต้องคิด… Read More »474: มีหุ้นในพอร์ตระยะยาวกี่ตัวดี