การค้นพบที่สำคัญที่สุดในช่วงที่ผ่านมา

ถ้าถามว่าในช่วงที่ผ่านมา การค้นพบที่ใหญ่ที่สุดของผมเกี่ยวกับการลงทุน คืออะไร คำตอบก็คือ การยอมรับว่า เราไม่ได้เก่งอย่างที่คิด

แทบทุกคนที่เล่นหุ้นจะมีความเชื่อลึกๆ ว่าตัวเองน่าจะชนะตลาดได้ เพราะถ้าไม่เชื่อแบบนั้น ก็คงหันไปซื้อกองทุนดัชนี การที่ยังเปิดพอร์ตซื้อหุ้นเป็นตัวๆ อยู่แสดงว่า ต้องมีความเชื่ออันนี้

แต่ความเป็นจริงก็คือว่า คนที่เล่นหุ้นเก่งกว่าตลาดมีน้อยมาก มีคนไม่ถึง 10% ที่สามารถเอาชนะดัชนี S&P 500 ในระยะยาวได้ (เช่น ห้าปีขึ้นไป)​ คนที่ชนะได้ยาวเกิน 10 ปีนี่แทบไม่มีเลย มันยากมากขนาดนั้น แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ หรือรู้แต่ก็เลือกที่จะคิดว่าตัวเองเป็นคนหนึ่งในร้อยนั้น หุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทุกวันนี้แต่ละตัวมีนักวิเคราะห์คอยติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ 50-100 คน ยังไม่นับมือสมัครเล่นอื่นๆ อีกเป็นร้อยเป็นพันที่เกาะติดหุ้นเหล่านั้นตลอดเวลา มันจึงยากมากที่เราจะรู้อะไรที่ตลาดยังไม่รู้

เมื่อคนเรามีความมั่นใจในตัวเองที่มากเกินความสามารถจริง เราก็จะมีแนวโน้มที่จะซื้อๆ ขายๆ เพื่อเอาชนะตลาด เรามักคิดว่าตัวเองรู้ว่าราคาหุ้นกำลังจะลง ก็เลยรีบขายหนีก่อน หรือรู้ว่าหุ้นตัวไหนกำลังจะวิ่งชนะตลาด ก็รีบเข้าไปซื้อ แต่พอพบว่า หุ้นที่ขายกลับวิ่งต่อ หรือหุ้นที่ซื้อกลับร่วงลง เราจะไม่คิดว่า นี่ไง เราผิดพลาดอีกแล้ว เราไม่ได้เก่งกว่าตลาด แต่เราเลือกที่จะ ignore ความผิดพลาดของเราเอง แล้วก็พยายามเอาชนะตลาดต่อไปด้วยการซื้อๆ ขายๆ เพื่อทำกำไรพิเศษเพิ่ม

เพียงแค่ยอมรับความจริงว่า เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น เราก็จะไม่ซื้อๆ ขายๆ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แค่นี้ผลตอบแทนเราก็จะดีขึ้นทันที เพราะ unforced errors ต่างๆ ที่เคยทำเป็นประจำหายไปเกือบหมด ผลตอบแทนพอร์ตของเราจะดีขึ้นได้ด้วยเหตุผลง่ายๆ แค่นี้เลย ถ้าเรายังหวังจะชนะตลาดอยู่ ก็หวังแค่เราจะชนะได้สัก 1-2% ต่อปี ในระยะยาวก็พอแล้ว และการซื้อขายของเราก็ควรเป็นไปเพื่อเป้าหมายแค่นั้นก็พอ

เลิกคิดว่าเราต้องชนะตลาดให้ได้ปีละ 10%, 20%, 50% หรือว่า 100% ซึ่งหลายๆ คนคิดแบบนั้นโดยอ้างว่า พอร์ตยังเล็กอยู่ จำเป็นต้องรีบรวย เพราะคนที่ทำแบบนั้นได้ในระยะยาวนั้นความเป็นจริงมีน้อยเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร