0043: My U.S. Portfolio

เอามาให้ดูกันเล่นๆ ครับ สำหรับพอร์ตในอเมริกาของผม มันไม่มีการซื้อการขายใดๆ เลยมาได้เกือบครึ่งปีแล้วหลังจากที่ผมค่อยๆ ปรับพอร์ตอยู่นานถึงสามปีเพื่อให้ได้พอร์ตที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว และตอนนี้ผมก็ได้พอร์ตที่ผมค่อนข้างพอใจกับมันแล้ว คงไม่ไปทำอะไรกับมันอีกนานแสนนานเพราะเราอยู่ห่างไกลจากตลาดมานานแล้ว

ธีมที่ผมใช้ในการออกแบบพอร์ตก็คือ ผมนั่งนึกดูว่าสหรัฐอเมริกามีความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมใดบ้างในเวทีโลก โลกในยุคต่อไปคือโลกแห่งการค้าเสรี คนที่เก่งที่สุดในธุรกิจนั้นๆ เท่านั้นจึงจะอยู่รอดได้ครับ

Adobe System (ADBE) คือ นับวันบริษัทนี้จะกลายเป็นไมโครซอฟท์แห่งโลกการพิมพ์และ web graphics เข้าไปทุกที คนในวงการทุกคนพยายามสร้างแวลูให้กับตัวเองด้วยการฝึกฝนทักษะในการใช้ผลิตภัณฑ์ของ Adobe อย่างเข้มข้นมานานนับสิบปี ยากที่ทูลจากบริษัทซอฟต์แวร์อื่นๆ จะเข้ามาตีตลาดได้

Harley Davidson (HOG) คือ โรงงานผลิตมอเตอร์ไซต์แห่งเดียวที่ยังอยู่ในสหรัฐฯ มันทนค่าแรงที่แพงขนาดนั้นได้เพราะมันคือมันไม่ใช่พาหนะเพื่อการโดยสารแต่มันคือมอเตอร์ไซต์เพื่อการสันทนาการ หนึ่งในตราสินค้าของสหรัฐฯ ที่ผู้ใช้มีความจงรักภักดีมากที่สุดจนถึงปัจจุบันและไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวเอเชียในยุคที่จะถึงนี้จะทำให้เกิดเศรษฐีเอเชียจำนวนมากที่ต้องการเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซต์ยี่ห้อนี้ พวกเขาใช้มันเพื่อบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมและความเป็นตัวตน ต่อให้มียี่ห้ออื่นทำให้เหมือนขนาดไหนก็ไม่มีทางทดแทนความรู้สึกของบรรดา HOGs (Harley’s owner group) ทั้งหลายได้

Genentech (DNA) สหรัฐฯ อเมริกาเป็นผู้นำด้านไบโอเทค เพราะเป็นประเทศที่มี Venture Capital ที่เจริญที่สุด จึงเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการทุนที่มีความเสี่ยงสูงอย่างการวิจัยยา และ Genentech ก็เป็นบริษัทที่มีพอร์ตของยาที่กระจายที่สุดและมียาที่รอการรับรองอยู่ใน pipeline ที่เพียบที่สุดบริษัทหนึ่งเลยทีเดียว

United Parcel Services (UPS) บริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ แม้ธุรกิจนี้จะมีการแข่งขันสูง แต่บริษัทนี้ก็คงได้รับประโยชน์จากการเติบโตของการค้าระหว่างประเทศในยุคต่อไปไม่มากก็น้อย

EBAY Inc. (EBAY) เวบไซต์ประมูลออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีคนนับล้านที่ทำมาหากินด้วยการอาศัยอยู่บนอีเบย์ ซึ่งนับเป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตออนไลน์อย่างหนึ่งที่เป็นแนวโน้มที่สำคัญของโลก จำนวนผู้ใช้ที่ใหญ่มากจนทิ้งคู่แข่งไปไกลแล้วย่อมทำให้ยากที่ใครจะล้มอีเบย์ได้

Apple Inc. (AAPL) บริษัทที่มีสาวกอยู่มากที่สุดบริษัทหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้คือสิ่งที่คนทั่วโลกใช้เป็นเครื่องแสดงถึงความมีรสนิยมของตัวเอง การกระโดดเข้ามาเล่นในตลาดโทรศัพท์มือถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับบริษัทนี้ครับ

เหลือบไปดูพีอีของหุ้นเหล่านี้แล้วก็ตกใจ (ADBE 47, HOG 16, DNA 35, UPS 19, EBAY 38, AAPL 34) ไม่รู้ว่าถือไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการซื้อๆ ขายๆ จะถึงขั้นเจ๊งได้เลยหรือเปล่า แต่ถ้าบางตัวจะเจ๊งไปบ้างก็ไม่เป็นไร วัดผลงานรวมของทั้งพอร์ตก็ละกัน อย่างไรเสียความผันผวนไม่ใช่ความเสี่ยงของนักลงทุนระยะยาว แต่ผมตั้งใจจะไม่ทำอะไรกับมันแล้วอย่างน้อยก็อีกสักสามปี เวลาเท่านั้นที่เป็นเครื่องพิสูจน์

28 Replies to “0043: My U.S. Portfolio”

  1. โห มีหุ้นของเมกาด้วยหรือครับ นับถือเลย

  2. อืม ลืมถาม ทำไมไม่ซื้อ google microsoft หรือครับ

  3. ^
    ^
    GOOG คงจะไม่มีตังค์เหลือพอซื้อมั้งครับ

  4. แล้วสมัยที่พี่สุมาอี้ซื้อหุ้นเหล่านี้ สมัยนั้น BRK-A ของเฮียวอร์เรน ราคาเท่าไหร่อ่ะครับ

  5. GOOG ผมเคยซื้อครับ แต่ขายหมูไปนานแล้ว หุ้นตัวนี้ IPO 90 กว่าเหรียญ ผมรู้สึกว่ามันแพงไป มันขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 190 เหรียญ ผมถึงได้รู้ว่าที่ราคามันสูงเพราะกำไรกำลังเพิ่มขึ้นในอัตรา 600% ต่อปี พีอี 80 เท่า ผมคิดว่ายังไม่แพง ก็เลยตัดสินใจซื้อครับ ซื้อได้ไม่นานมันก็วิ่งไป 420 เหรียญ พอมันตกเหลือ 390 ผมรีบขายออกไปเลยเพราะกลัวกำไรจะหายไปหมด ปรากฏว่ามันวิ่งต่อไปแตะ 500 เหรียญ เสียหมาเลยครับ ไม่กล้าซื้อกลับแล้ว 🙁

    ตอนนั้น BRKA น่าจะประมาณ 60000 เหรียญครับ แต่ผมไม่กล้าซื้อเพราะกลัวซื้อปุ๊บบัฟเฟตตาย แต่ตอนนี้แกยังไม่ตายสักที หนังเหนียวจริงๆ

  6. อ่อลืมไป ผมคิดว่าไมโครซอฟท์ได้ผ่านจุดสูงสุดในชีวิตของมันไปแล้วครับ เพราะยุคของพีซีผ่านไปแล้ว ยุคนี้เป็นยุคของมือถือและอินเตอร์เนตมากกว่า

  7. น่าจะเพิ่มบริษัทด้านสงครามและค้าอาวุธด้วยนะครับ ไม่ทราบว่าเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่า เพราะแนวโน้มน่าจะดี
    …..
    http://enemy222.blogrevo.com
    …..

  8. งงกับตัวเลขร้อยละ

    EBAY น่าสนใจ ADOBE ไม่รู้จะแพ้ MICROSOFT หรือเปล่า อีกสามปีคงรู้ผล

  9. โห ดูพอร์ตท่านแม่ทัพแล้ว ขนลูกซู่ๆ เลยครับ

  10. บริษัทเมืองไทยผมยังวิเคราะห์ไม่ขาดเลยครับ ถ้าเป็นเมืองนอกยิ่งวิเคราะห์ยากเข้าไปใหญ่ ว่าแต่ผมแปลกใจนะ ทำไมท่านสุมาอี้ถึงสามารถเปิดพอร์ตแล้วซื้อหุ้นที่อเมริกาได้ด้วยล่ะ?

  11. ผมเคยทำงานที่สิงคโปร์อยู่พักหนึ่งเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ตอนไปเรียนเอ็มบีเอที่อเมริกาผมเลยหอบเงินก้อนนั้นไปลงทุนด้วยครับ 🙂

  12. คุณสุมาอี้ไม่ลองลงทุนในจีนบ้างหรือ (หรืออาจมีแล้ว??) บางทีอาจได้กำไรทั้งค่าเงินหยวน และ กำไรหุ้น คิดแล้วเสียไส้แทน เพราะ เศรษฐกิจ US ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไร มีแววขาดดุล มโหฬาร อีกยาวนาน… ว่าง ว่าง ลองวิเคราะห์ เศรษฐกิจ US เพื่อให้ความรู้เพื่อนๆ หน่อยครับ

  13. จีนซื้อไม่ได้ครับไม่มีพอร์ต แต่เคยซื้อ ADR ของ PetroChina เพราะ list ในอเมริกาครับ ^_^

  14. งงกับตัวเลขร้อยล่ะ ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับ

  15. คือ % ราคาเปลี่ยนแปลงในวันที่ผม copy รูปมาจากหน้าจอน่ะครับ ไม่มีความหมายอะไร

  16. แล้วคนที่อยู่เมืองไทยตลอดอย่างผมเนี่ย จะสามารถเปิด port ที่อเมริกาได้หรือป่าวคับ ถ้าได้ ต้องทำยังไงบ้างคับ ขอบคุณมากๆเลยคับ

  17. ทำไม่ได้ครับ ปัจจุบัน ธปท.ยังไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปแลกเงินดอลล่าร์เพื่อ portfolio investment

    ผมเคยทำงานในต่างประเทศและไม่ได้นำเงินกลับไทย

  18. สวัสดีครับ พี่สุมาอี้(ขออนุญาติเรียกพี่นะครับ) ผมเคยขอให้พี่แนะนำหนังสือสำหรับมือใหม่หัดลงทุนในสนามหุ้นบ้านเราซึ่งผมได้ซื้อมาและอ่านศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วดั้งนั้นผมเลยตัดสินใจลงทุน โดย ในPortfolio มีหุ้นดังต่อไปนี้ 1.IRPC 2.PTTAR 3.CRANE 4.SCB ส่วนเงินลงทุนก็40%ของเงินออม อยากทราบความเห็นของพี่สุมาอี้ว่าPotfolioของผมนั้นใช้ได้ไหม (ขอออกตัวก่อนนะครับว่าความเห็นของพี่ไม่มีผลกระทบใดๆต่อPortfolioของผม ในระยะสั้นนะครับ ผมยินดีรับความเสี่ยงภายใต้การตัดสินใจของผม 100% อยู่แล้วครับ) อ้ออีกอย่างนึงครับ พอเห็น Portfolio แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าพี่เป็น VI เลยครับ PE สูงๆก็หลายตัวนะครับ 🙂

  19. อึมเป็นหุ้นที่ผมไม่ได้ตามทุกตัวเลยครับ เลย comments ไม่ถูกเหมือนกัน

    แต่การจะตัดสินใจซื้อหุ้นสักตัว คงต้องใช้เวลาศึกษาพอสมควรนะครับ ไม่แน่ใจว่า คุณ Leon ตัดสินใจเร็วเกินไปหรือเปล่า? ผมว่าควรจะค่อยๆ ดูค่อยๆ ซื้อ พอมั่นใจแล้วก็ค่อยซื้อดีกว่า

    value investing คือ ซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าอัตราการเติบโตของกำไรในระยะยาว ซึ่งจะต่างกับการซื้อหุ้นพีอีต่ำนะครับ ปีเตอร์ ลินซ์บอกไว้ว่า ที่เขาพูดกันว่าให้ซื้อหุ้นพีอีต่ำนั้น สำหรับเขาแล้ว รู้สึกว่าเป็นคำแนะนำที่ไม่ make sense

    ยังไงก็ขอให้โชคดีกับการลงทุนครับ นักลงทุนทุกคนก็ต้องค่อยๆ สะสมประสบการณ์ไปเรื่อ่ย ถือว่าเป็นการเรียนรู้ก็แล้วกัน

  20. ไม่ทราบว่าพี่นรินทร์ แบ่งเงินไปลงทุน ที่เมืองนอก

    กี่% ของ พอร์ต ส่วนตัวของพี่นะครับ

    % ที่อยู่ในรูปใช้หรือเปล่าครับ

  21. ถ้าพี่โจ๊กยังถือ แอปเปิ้ลอยู่ก็ได้เกิน 10 เด้งแล้วสิครับพี่ ^^

  22. ตอนนี้ประมาณ 50:50 ไทย:เทศ ครับ ไม่ได้ตั้งใจว่าสัดส่วนต้องเป็นเท่าไร เจอตัวที่อยากซื้อ ก็ซื้อ มากกว่า

    เปอร์เซ็นต์ในรูปเป็น daily gain/loss ของวันที่ copy พอร์ตมาแปะครับ ไม่มีความหมายอะไรเลย

    ผมซื้อ AAPL หลัง apple ออก ipod แล้ว ถ้าถือมาถึงตอนนี้ก็ได้ไม่ถึง 10 เท่าหรอกครับ

  23. จริงๆจะค้นข้อมูลเกี่ยวกับตัวยาและบริษัทยา แต่มาติดเวปนี้มาด้วย. อ่านแล้วรู้สึกชอบ และอยากศึกษาเรื่องหุ้น. ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปอยากขอคำชี้แนะด้วยค่ะ ว่าควรเริ่มศึกษาจากที่ไหน ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

  24. GOOG is entering $1000 stock club! How is your US portfolio krub? How is it perform compare to SET. I saw my broker (SCBS) advertise that may they will open US trading in next year (2014).

    1. ตอนธปท.ให้คนไทยลงทุนตปทได้ ผมเอาเงินกลับมาเปิดพอร์ต foreign ที่ไทยแทนครับ แต่พอลงทุนไปได้สักพัก ก็พบว่า กฎเกณฑ์ต่างๆ ของสรรพากรยังไม่นิ่ง อยู่ดีๆ อาจจะออกกฎใหม่ที่นักลงทุนไม่ได้คาดไว้ก่อนได้ ก็เลยเลิกลงทุนครับ เสี่ยง เอาไว้ให้กฏของสรรพากรนิ่งก่อน ค่อยว่ากันใหม่

Comments are closed.