ส่ิงที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้หรือรู้ผิด

ปกติคนเรามักแบ่งความรู้หรือข้อมูลออกเป็นแค่สองแบบ คือ ข้อมูลหรือความรู้ที่เรารู้ และ ข้อมูลหรือความรู้ที่เรายังไม่รู้

และเราก็จัดการกับเรื่องที่เรายังไม่รู้ได้ด้วยการไปหาความรู้นั้นๆ มา ให้เพียงพอกับการแก้ไขปัญหาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ที่จริงยังมีความรู้อีกแบบหนึ่งที่เราละเลย หรือมองไม่เห็น และมักเป็นอันตรายมากกว่า นั่นคือ ข้อมูลหรือความรู้ที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เราไม่รู้ หรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เรารู้ผิดๆ เพราะเราจะนิ่งเฉยต่อความรู้ในส่วนนี้ เนื่องจากไม่รู้หรือตระหนักว่ามันเป็นปัญหา ซึ่งบ่อยครั้งทำให้เราล้มเหลวซ้ำซาก เพราะพยายามแก้ไขปัญหาภายใต้กรอบความรู้เดิมๆ เพราะคิดว่านั่นคือทั้งหมดแล้ว

ประเด็นนี้เกี่ยวกับตลาดหุ้นไม่น้อยเลย ความรู้การลงทุนไหนที่เรายังไม่รู้ เราสามารถกำจัดจุดอ่อนนั้นได้ง่ายๆ ด้วยการหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาอ่าน เข้าคอร์สอบรม หรือให้เวลาการการฝึกฝนเพื่อให้เกิดทักษะที่ว่านั้นๆได้ และทำให้เราพัฒนาตัวเองได้  

แต่ที่จะสาหัสก็คือ ความรู้บางอย่างที่เราไม่รู้ แต่เราคิดว่าเรารู้ หรือสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้นั้น เรารู้ผิดๆ เลยทำให้เราลงทุนผิดๆ ซ้ำซาก แต่เราก็ยังไม่คิดจะทำอะไรกับมัน เพราะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือปัญหา ส่วนนี้นับว่าทำให้การลงทุนของเราดักดาน ไม่พัฒนาไปไหนมากที่สุด

เรื่องนี้ผมนึกถึงสมัยเด็กๆ เวลาไปเที่ยวงานวัด งานวัดจะเต็มไปด้วยเกมชิงรางวัลต่างๆ เช่น ตักปลาหางนกยูงด้วยกระชอบกระดาษ ยิงปืนชิงตุ๊กตา เป็นต้น ที่ชอบที่สุดก็น่าจะเป็น ตู้หยอดเหรียญคีบตุ๊กตา

ธุรกิจพวกนี้ทำกำไรได้ดีมากๆ ไม่ใช่เพราะว่าการตักปลาด้วยกระชอนกระดาษ หรือการยิงปืนลม หรือคีมตุ๊กตา เป็นเรื่องยาก มากเท่ากับการที่มันเป็นเรื่องยากที่ดูผิวเผินแล้วเหมือนง่าย เพราะถ้ามันยาก และคนทั่วไปก็เห็นว่ามันยากจริงๆ ก็จะแทบไม่มีลูกค้าเลย แต่เพราะว่าลูกค้ามีมายาคติว่ามันง่าย ที่ทำให้ลูกค้าเล่นแล้วเล่นอีก จนเทเงินหมดกระเป๋า

คนที่ทำใจเชื่อได้แล้วว่ามันยาก ก็จะปลอดภัยเพราะมีภูมิคุ้มกัน และออกห่างจากเครื่องเล่นพวกนี้ หรือถ้าเล่น ก็เล่นน้อยมาก เพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่คิดจะได้ของรางวัล แต่คนที่ยังทำใจเชื่อไม่ได้ว่ามันยาก คือคิดว่ามันน่าจะง่าย คือคนที่เสียหายมากที่สุด ที่น่าเศร้าก็คือ คนอื่นจะมาเตือนก็ไม่ค่อยจะเชื่อเสียด้วย อาจหันมาดุด่าคนที่เตือนด้วยซ้ำไป

เหมือนพรหมลิขิตไว้แล้วว่าพวกเขาต้องเสียเงินจำนวนมากๆ

ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยทฤษฏี หรือแนวกลยุทธ์การลงทุนมากมาย หลากหลายค่าย หลากหลายสำนัก และก็มีอยู่ไม่น้อยเลย ที่เป็นวิธีการที่ดูเหมือนจะทำกำไรได้ง่ายๆ แต่ในความเป็นจริง กลับเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่ขาดทุน หรือทำกำไรได้ยากกว่าวิธีการอื่นที่อาจจะดูแล้วขัดสามัญสำนึกว่าจะได้ผลแน่หรือ? แต่กลับกลายเป็นวิธีที่ทำกำไรได้จริงกว่า และถ้าคุณกำลังมีความเชื่อผิดๆ เหล่านั้นอยู่ ตอนนี้คุณก็มักจะไม่รู้ตัวด้วย แต่นั่นแหละคืออุปสรรคตัวสำคัญที่ขัดขวางการลงทุนของคุณอยู่ และบางทีคนอื่นก็เตือนคุณไม่ได้ (กลัวโดนคุณด่า)​ เป็นต้น

ลองเปิดใจสำรวจตัวเองดูว่าเราอาจมีปัญหานี้อยู่รึเปล่า ที่ทำให้การลงทุนของเราไม่คืบหน้าสักที