เผลอแป๊บเดียวก็ใกล้เวลาที่จะต้องกลับมาสรุปผลงานของพอร์ต 7LTG ประจำปีกันอีกแล้ว วันที่ 25 กันยายนนี้ ก็จะครบปีที่ 12 ของการลงทุน
ต้องยอมรับว่า หลายปีที่ผ่านมา ผมมีมุมมองเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยที่เปลี่ยนแปลงไปมากเลยทีเดียว Outlook ของประเทศไทยในเวลานี้มันดูแตกต่างจากวันแรกที่ก่อตั้งพอร์ตนี้ขึ้นมาเมื่อ 12 ปีที่แล้วเป็นอย่างมาก ตอนนั้นทุกอย่างดูดีมาก และก็เป็นเช่นนั้นต่อมาอีกห้าปี หลังจากนั้นมันก็เริ่มดูแย่ลง ผมบอกตัวเองว่าจะให้เวลามันอีกห้าปี เพื่อว่ามันจะกลับมาน่าสนใจขึ้น พอเข้าปีที่ 10 ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น มุมมองของผมยิ่งแย่ลงกว่าเดิมอีก ทุกวันนี้ผมแทบไม่เห็นเหตุผลเลยว่าทำไมไทยถึงเป็นประเทศที่น่าลงทุน
ผมมองว่าปัญหาหลักของประเทศไทยตอนนี้คือ เรายังอยู่ในเศรษฐกิจแบบ old economy ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เปลี่ยนเร็วมาก โลก Digital จะค่อยๆ กินโลกเก่าไปเรื่อยๆ มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องใช้เวลาแก้นาน แต่ที่สำคัญ ผมมองไม่เห็นความกะตือรือร้อนใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลง คนไทยเราเหมือนมีความภาคภูมิใจในตัวเองบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่ได้มีปัญหาอะไร
ทุกวันนี้ในพอร์ตหลักของผมยังมีหุ้นไทยอยู่ แต่ไม่คิดจะลงทุนเพิ่มแล้ว และมีแผนจะทยอยขายออกเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกวันนี้ผมเลิกสนใจหุ้น old economy แล้ว ดังนั้นจึงแทบไม่เหลือหุ้นไทยให้ผมสนใจ ถ้าหากจะต้องลงทุนจริงๆ ก็อาจจะเป็นหุ้นโรงพยาบาล สนามบิน ร้านอาหาร พลังงานทางเลือก เหลืออยู่แค่นี้ แต่ก็ไม่ได้ชอบหุ้นพวกนี้มาก แค่ neutral เฉยๆ ทุกวันนี้ผมได้เปลี่ยนการทุ่มเททรัพยากรไปให้กับการลงทุนต่างประเทศหมดแล้ว
ส่วนพอร์ตนี้จะยังลงทุนต่อไปก็เพียงเพราะต้องการทำตามความตั้งใจที่ได้ทำไว้ตั้งแต่แรกเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้มีความเชื่อเหมือนแต่ก่อนแล้ว อีกประการหนึ่ง แม้ว่าอยากขาย แต่ช่วงเวลานี้ก็อาจจะไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะขาย เพราะโควิดยังไม่จบ เลยต้องถือต่อไปก่อน ถึงแม้จะมองไม่ดี แต่ก็ไม่ถึงกับจำเป็นจะต้องรีบขายทันที เพราะมองว่าเป็นความไม่ดีแบบต้มกบมากกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคลจริงๆ จึงอาจจะสุดโต่งไปหน่อย แต่ก็เป็นการพูดแบบตรงไปตรงมา ว่าไปตามเนื้อผ้า ต้องขออภัยทุกท่านด้วย และโปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน
(ป.ล. สำหรับการปรับพอร์ตประจำปีที่จะถึงในวันที่ 25 กันยายนนี้ กำลังพิจารณาอยู่ โดยเบื้องต้นมองอยู่สองแนวทาง หนึ่งคือ ยังไม่มีปรับเปลี่ยนอะไร หรือ สอง อาจจะมีการทยอยขายออกปีละหนึ่งตัว โดยน่าจะเริ่มจากตัวที่ไม่ได้อยู่ใน buy list แล้ว แต่ยังค้างอยู่ในพอร์ตก่อน ยังไม่ได้ฟังธงว่าจะเป็นแนวทางไหน ขอเวลาตัดสินใจอีกสักสองสัปดาห์ แต่ที่แน่ๆ น่าจะมีการขายวอร์แรนต์ของ MINT ออกไป เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพอร์ตนี้ที่จะขายวอร์แรนต์ที่ได้มาทิ้งเสมอ ส่วนรายชื่อหุ้นที่จะซื้อเพิ่มในพอร์ตคิดว่าน่าจะยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในปีนี้ รอยืนยันอีกที ส่วนสถานะของพอร์ตจะโพสต์ให้ดูอีกครั้งหลังวันที่ 25 กันยาเหมือนเช่นเคย)
ไม่ได้ซื้อหุ้นไทยมาปีสองปีเช่นกันครับพี่โจ๊ก เพราะมองไม่เห็นแสงสว่างจริงๆ แอบเริ่มไป DCA Index fund หุ้นอเมริกาแบบที่เคยบอกพี่โจ๊กไว้ 1 ปีกว่าๆ ให้ผลค่อนข้างน่าพอใจ (และสบายใจกว่าครับ) รวมทั้งซื้อหุ้น FAAMG บางตัวบ้าง แต่ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะตลาดขาขึ้นด้วยฮะ แต่ตั้งใจไว้เหมือนกัน ว่าถ้า outlook (ทางการเมืองและเศรษฐกิจ) ของไทย ยังคงเป็นแบบนี้อยู่ ส่วนตัวคงขายหุ้นไทย แล้วไปลงทุนหุ้นประเทศอื่นเต็มตัวเช่นกันครับพี่โจ๊ก take care และรักษาสุขภาพด้วยครับผม
สอบถามมุมมอง SCBX พี่โจ๊กมองยังไงครับ จะเป็นการกลับมาของกลุ่ม ธนาคารหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
เป็นสิ่งที่ดีที่ scb กล้าปรับตัวแรงๆ ครับ ดีกว่าไม่ทำอะไรแน่ๆ แต่ว่าจะดีพอที่จะกลับมารุ่งเรืองได้เลยมั้ย อันนี้ไม่แน่ใจครับ เพราะธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบที่แรงมากจาก digital transformation