ถ้าหากผมจะต้องไปติดเกาะร้าง 15 ปี คนที่ผมคิดว่า น่าจะดูแลพอร์ต 7thLTG ให้ผมได้ดีที่สุด น่าจะเป็น Forrest Gump นะครับ สิ่งที่ต้องทำคงไม่มีอะไรมาก นอกจากแค่คอย make sure ว่า มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเพียงพอสำหรับตัดเงินค่าซื้อหุ้น หลังวันที่ 25 ของทุกเดือน เป็นเวลา 15 ปี
คนอย่าง Forrest ดูแลพอร์ต 7thLTG ได้ดีที่สุด เพราะ Forrest เป็นคนมีความเสมอต้นเสมอปลายสูงยิ่ง แค่สั่งให้ Keep an eye on the ball at all times เขาก็จ้องอยู่อย่างนั้นจริงๆ ตาไม่กระพริบ (literally) จนทำให้ตีปิงปองชนะแชมป์โลกได้เลย
คนธรรมดาทั่วไปมี impulse ทำให้อยู่ดีๆ ก็ชอบรู้สึกขึ้นมาว่า สงสัยหุ้นกำลังจะขึ้น หรือสงสัยหุ้นกำลังจะลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นคนธรรมดาเมื่อตั้งนโยบายการลงทุนอะไรขึ้นมาแล้ว สุดท้ายก็มักทำตามไม่ได้ในที่สุด เพราะเมื่อเจอราคาหุ้นที่ผันผวน จิตใจก็จะแปรปรวน
จิตใจของเราเองนี่แหละที่เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการลงทุน
จำได้ว่าในหนัง Forrest ซื้อหุ้นบริษัทขายผลไม้ ที่เพิ่งจะก่อตั้งในช่วงเวลานั้น
รู้สึกจะชื่อ AAPL –> “Apple” …
ถ้าซื้อ AAPL ไว้ตั้งแต่สมัยนิกสัน และไม่มี impulse ขายทิ้งไปเสียก่อน ตอนนี้ ยิ้มเลย
พอร์ตทดลองน่าจะมี AAPL ด้วยนะ
ผมไม่คิดว่าใช่นะครับท่านแม่ทัพ ผมเลี้ยงหลายเป็นออครับ เขานิ่งจริง แต่ EQ มันคนละอย่าง เขาระเบิดได้ตลอดเวลาครับ เหมือน GUMP ที่ระเบิดในเรื่องบ่อยๆ ผมชอบดูหนังเรื่องนี้มากครับ ตอนเด้ก ๆ ผมพัฒนาการช้าเหมือนกันครับ เขาชอบพุดประโยคที่ว่า Life is like a box of chololate you’ll never know what you’re gonna get. ผมทำเสียงเลียนแบบสำเนียงได้เลย เพราะผมไปเรียนแถวนั้น แต่ไม่ใช่ออติสคิคที่ทำให้เขาแจ่ม ถึงแจ่มก็ยังเป้นหนังอยู๋ดี ไม่ใช้เรื่องจริง ที่จริงคือ ชีวิตคนเหมือน chocolate เพราะมันไม่มแน่นอน เราต้องทำทุกอย่างให้มันดีที่สุดฝนตอนนั้น เพราะถ้าเราทำดีในตอนนี้ มันต่อกันเป็นเส้นตรงไปเอง อนาคตมันดีไปเอง ตรงนั้นที่ผมได้จาก GUMP
ผมเลี่ยงหลานเป็นออติสติค พี่ชายเอามาให้ผมเลี้ยงทุกวันเสาร์ เขาเก่งเลขมาก เก่งวิทยาศาสตร์ แต่เรืองอารมณ์ มันไม่ใช่ครับ มันยังไม่ถึงระดับที่เด้กในวัยเดียวกันมี เขาไม่รูว่าอะไรถุก อะไรผิด พอผู้ใหญ่สอนเขา เขาเป็นหุ่นยนต์เลย คือท่องเป็นหุ่นยน ถ้ารองเท้าผมวางผิดที่ เขาจะฑุดแล้วพูดอีก ว่าให้อาโหน่งไปวางให้ถุก ถ้าผมไม่สนใจ เขาจะกลับมาพูดตลอด
ผมไม่คิดว่า เขาจะเปนนักลงทุนในแบบที่ดีได้ ตราบใดที่ EQ เขายังเป็นอย่างนี้
ไม่เหมือนคนที่ปกติ เราเคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่ใจเรากลับนิ่ง คือทันอารมร์ตัวเองตลอด
ด้วยความเคารพ
^O-O^
ผมหาเรื่อง pari-mutuel betting system ที่ท่านแม่ทัพเขียนไม่เจอแล้ว
ช่วยผมทีครับ ว่ามันอยู่ตรงไหน
ขอบคุณมากครับ
เป็นแค่ gimmick เฉยๆ ครับ ผมคงไม่ได้หมายความตามนั้นเป๊ะๆ Forrest ในหนังก็ต่างจากเด็กออสทิสติกตัวจริงหลายอย่างเลยทีเดียว
แค่อยากจะตั้งประเด็นว่า สิ่งที่ยากมากของการลงทุนคือการปฏิบัติให้ได้ตามนโยบายใดๆ ก็ตามที่ได้ตั้งใจไว้แต่แรก ทำให้บางทีคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยกลับลงทุนได้ดีกว่า เหมือนนกแก้วที่เกาหลีใต้ ที่สามารถเอาชนะเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ได้
ผมเพิ่งตัดคำว่าออทิสติกออกไปจากเนื้อความนะครับ ที่จริงตอนเขียนเรื่องนี้ผมไม่ได้นึกถึงเด็กออทิสติกทั่วไปนะครับ ผมนึกถึง Forrest Gump ที่เป็นตัวละครในภาพยนตร์อย่างเดียว
อย่างนั้น รบกวนท่านแม่ทัพลบ comment ผมออกด้วยครับ
ผมหาที่ท่านแม่ทัพเขียนเกี่ยวกับ pari-mutuel betting system เจอแล้ว
ขอบคุณมากครับ ในเมืองไทยไม่มีใครเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย มีแต่ท่านแม่ทัพนี่ละครับ
ลบ commeny อันนี้ออกด้วยนะครับ
ด้วยความเคารพและคิดถึงท่านเสมอ
^ ^
ผมติดลิงค์มาฝากท่านเป็นการตอบแทนสำหรับบทความดี ๆจากท่าน
เพลงนี้เป็นตอบจบของเรื่อง Forrest Gump
ผมชอบมากครับ
ผมไมได้เปิดนานแล้ว
เปิดเมื่อไหร่ เพื่อนๆ ต้องถามว่าเป้นเพลงจากเรื่องอะไร
วันนี้ติดมาฝากท่านครับ เพราะท่านเล่นเปียโนด้วย
สวัสดีครับ
http://www.youtube.com/watch?v=jVO8keNJ_Q0
คงไม่ต้องลบคอมเม้นท์พี่โหน่งหรอกครับ
ผมว่าจะต้องหัดดูแลเนื้อหาในบล็อกในแง่ที่อาจเป็นเรื่องอ่อนไหวแล้วเหมือนกัน ต้อนรับสังคมสมัยใหม่ครับ
ขอบคุณสำหรับเพลงครับพี่โหน่ง
ชอบหนังเรื่องนี้มากเหมือนกันครับ
สมองของ Forrest เค้า for rest ครับ ไม่ต้องคิดอะไรโฟกัสเฉพาะสิ่งที่ต้องทำในขณะนั้นโดยไม่ต้องไปคิดเรื่องผลลัพธ์ ซึ่งเมื่อไม่วอกแวกและทำได้ดีแล้วเดี๋ยวผลลัพธ์ดีๆมันก็ตามมาเอง
ต่างจาก Babba สมองเค้าเหมือน for work ที่มักคิดยู่ตลอดเวลาว่าจะเอากุ้งไปต้ม,ไปทำโน่นทำนี่ ทั้งที่ยังไม่ได้ออกไปจับกุ้งด้วยซ้ำ
แต่สุดท้ายแล้ว เหมือนหนังจะบอกว่าสมองทั้ง2ส่วนนี้มันก็ต้องทำงานร่วมกัน อย่างที่เราเห็นหลายๆฉากในหนังที่ Babba กับ Forrest มักใช้เวลาอยู่ด้วยกัน