ที่จริงตั้งใจจะไม่เขียนเรื่อง Investing ในบล็อคนี้แล้วแต่สืบเนื่องจากหัวข้อ Growth vs. Value ที่เคยโพสต์เอาไว้เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ลองมาดูผลกันว่าหนึ่งปีผ่านไปเป็นยังไงบ้างตามที่ได้สัญญาไว้
ผลตอบแทน=(ราคาปัจจุบัน+เงินปันผลที่ได้รับระหว่างทาง-ราคาเมื่อปีที่แล้ว)/(ราคาเมื่อปีที่แล้ว)
Value Port
TF (508+7.75+10.78-444)/444 = 18.6 %
WG (44+2.5-46)/46 = 1.1 %
RATCH (50+1+1.1-42.25)/42.25 = 23.3 %
ผลตอบแทนของทั้งพอร์ต(เฉลี่ย) = average(18.6, 1.1, 23.3) = 14.33%
Growth Port
MINT (17.3+0.15-11)/11 = 58.6 %
BGH (39+0.5-30)/30 = 31.7 %
ERAWAN (4.04+0.05-4.38)/4.38 = -6.6 %
ผลตอบแทนของทั้งพอร์ต(เฉลี่ย)= average(58.6, 31.7, -6.6)= 27.9%
หนึ่งปีผ่านไป Growth Port นำอยู่ครับ แต่อย่าลืมว่าการทดลองนี้ตัดสินที่ปีที่ 3 แต่ติดตามผลทุกหนึ่งปี เอาไว้อีกหนึ่งปีข้างหน้าค่อยมาติดตามกันนะครับ
^-^ แหมะ นึกว่า “คลายเครียดเรโช” ซะอีก มองผิดไป อิ อิ แต่ดูอัตราผลตอบแทนแล้ว ท่านสุมาอี้ทำได้ดีกว่าวอเรน บัฟเฟตอีกนี่ครับ คนนั้นเขาได้ผลตอบแทนทบต้นที่ 20% เอง T-T ผมยังทำไม่ได้เลย
เป็นเพียงพอร์ตทดลองน่ะครับพี่ไท้
ข้อสังเกตจากการทดลอง
การซื้อหุ้นพีอีต่ำนั้นไม่ใช่วิธีที่ทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเสมอไป เพราะตลาดพยายามให้พีอีตามอัตราการเติบโตของกำไรของแต่ละบริษัทอยู่แล้ว ถ้าอยากเอาชนะตลาด ต้องหาทางซื้อหุ้นที่มีพีอีต่ำเมื่อเทียบกับโอกาสในการเติบโตของกำไร ไม่ใช่ซื้อหุ้นพีอีต่ำโดยไม่สนใจโอกาสในการเติบโต
การถือหุ้นไว้เฉยๆ โดยไม่ขายหนีระเบิดกทม. ไม่ขายหนีซับไพรม์ ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่กลับให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียว การเทรดหุ้นบ่อยๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกนั้น อาจจะได้รับผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม
Growth นำห่างนะครับ
การถือหุ้นไว้เฉยๆ นะไม่ได้ทำได้ง่ายๆ นะครับ
จะมีจิตใจมั่นคงแบบนั้น คงมีน้อยน่าดู
มิน่าจะ คนที่สำเร็จผลจึงมีน้อย เหมือนกัน
ผมซื้อหนังสือวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเองของคุณสุมาอี้มาอ่านนะครับ
จะขอคำแนะนำเกี่ยวกับ “interest coverage ratio” นะครับว่า
มันคืออะไร แล้วคำนวนยังไง
แล้วก็อย่างอุตสาหกรรมแบบ ขายข้อมูล เช่น BOL เราจะหาข้อมูลอุตสาหกรรมได้ยังไงครับ
แล้วความน่าเชื่อถือละครับ จะหายังไงงง
ขอบคุณมากครับ
ครบ 3 ปีแล้วนี่ครับ
ไม่เห็นใครว่าไง ไม่รู้ลืมไปหรือยัง
ผมช่วยเฉลยให้นะครับ
ERAWAN ลบแหลกราญ ตอนนี้เหลือ 2.54 ติดลบไปเกินครึ่ง
BGH ตอนนี้เหลือ 24.30
MINT ตอนนี้เหลือ 11.30
เฮ้อ ใครซื้อตามมีหวังแย่หน่อยนะครับ
วันครบกำหนดคือวันที่ 18 พย.นะครับ ไม่ได้ลืมครับ มันยังไม่ถึง
ถ้าลองถือตั้งแต่วันนี้ ไปถึงปลายปีหน้า ผมว่า น่าจะโอเคนะครับคุณ เหลียง ครับ ^^
มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
ผมไม่ได้เชียร์วิธีไหนมากกว่ากันนะครับ ผมเขียนเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มการทดลองว่า ทั้งสองวิธี ล้วนมีข้อบกพร่องทั้งคู่ วิธีหนึ่งมองแต่ราคา อีกวิธีหนึ่งมองแต่คุณค่า เป็นการมองอะไรด้านเดียวทั้งสองวิธี
https://dekisugi.net/2006/11/18/0018/
ตามมาจากหลาย link รวมถึงเรื่องเดือนวาด ถกกันถึงลูกถึงคนจริง ๆ
ผลลัพท์ปีนี้ หลังจากมีวิกฤต คงได้ผลอีกแบบนึง
การลงทุนเป็นอะไรที่ซับซ้อน สถานการณ์หนึ่ง ๆ ทำให้วิธีหนึ่ง ๆ ได้ผลดี
จนบอก ๆกันต่อ และเป็น talk of the town ในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ผลลัพท์จีรัง และยั่งยืนแค่ไหน รวมถึงคนใช้ นำไปใช้ได้ดีแค่ไหน
ก็ทางใครทางมันล่ะไอ้ศร 🙂
ไม่ทราบตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ? พี่สุมาอี้ ช่วยเปรียบเทียบระหว่างหุ้นสองประเภทหน่อยครับ
ขอบคุณครับ
ดูห้วข้อ 0243: Growth vs. Value (Results) ครับ
แต่ผมว่าเวลาสามปียังน้อยเกินไปที่จะวัดอะไรได้ โดยเฉพาะเป็นช่วงที่มีวิกฤติด้วย