0026: Growth vs. Value (Revisited 1)

ที่จริงตั้งใจจะไม่เขียนเรื่อง Investing ในบล็อคนี้แล้วแต่สืบเนื่องจากหัวข้อ Growth vs. Value ที่เคยโพสต์เอาไว้เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ลองมาดูผลกันว่าหนึ่งปีผ่านไปเป็นยังไงบ้างตามที่ได้สัญญาไว้

ผลตอบแทน=(ราคาปัจจุบัน+เงินปันผลที่ได้รับระหว่างทาง-ราคาเมื่อปีที่แล้ว)/(ราคาเมื่อปีที่แล้ว)

Value Port

TF (508+7.75+10.78-444)/444 = 18.6 %

WG (44+2.5-46)/46 = 1.1 %

RATCH (50+1+1.1-42.25)/42.25 = 23.3 % 

ผลตอบแทนของทั้งพอร์ต(เฉลี่ย) = average(18.6, 1.1, 23.3) = 14.33%

Growth Port

MINT (17.3+0.15-11)/11 = 58.6 %

BGH (39+0.5-30)/30 = 31.7 %

ERAWAN (4.04+0.05-4.38)/4.38 = -6.6 % 

ผลตอบแทนของทั้งพอร์ต(เฉลี่ย)= average(58.6, 31.7, -6.6)= 27.9%

หนึ่งปีผ่านไป Growth Port นำอยู่ครับ แต่อย่าลืมว่าการทดลองนี้ตัดสินที่ปีที่ 3 แต่ติดตามผลทุกหนึ่งปี เอาไว้อีกหนึ่งปีข้างหน้าค่อยมาติดตามกันนะครับ

11 Replies to “0026: Growth vs. Value (Revisited 1)”

  1. ^-^ แหมะ นึกว่า “คลายเครียดเรโช” ซะอีก มองผิดไป อิ อิ แต่ดูอัตราผลตอบแทนแล้ว ท่านสุมาอี้ทำได้ดีกว่าวอเรน บัฟเฟตอีกนี่ครับ คนนั้นเขาได้ผลตอบแทนทบต้นที่ 20% เอง T-T ผมยังทำไม่ได้เลย

  2. เป็นเพียงพอร์ตทดลองน่ะครับพี่ไท้

    ข้อสังเกตจากการทดลอง

    การซื้อหุ้นพีอีต่ำนั้นไม่ใช่วิธีที่ทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเสมอไป เพราะตลาดพยายามให้พีอีตามอัตราการเติบโตของกำไรของแต่ละบริษัทอยู่แล้ว ถ้าอยากเอาชนะตลาด ต้องหาทางซื้อหุ้นที่มีพีอีต่ำเมื่อเทียบกับโอกาสในการเติบโตของกำไร ไม่ใช่ซื้อหุ้นพีอีต่ำโดยไม่สนใจโอกาสในการเติบโต

    การถือหุ้นไว้เฉยๆ โดยไม่ขายหนีระเบิดกทม. ไม่ขายหนีซับไพรม์ ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่กลับให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียว การเทรดหุ้นบ่อยๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกนั้น อาจจะได้รับผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม

  3. Growth นำห่างนะครับ

    การถือหุ้นไว้เฉยๆ นะไม่ได้ทำได้ง่ายๆ นะครับ
    จะมีจิตใจมั่นคงแบบนั้น คงมีน้อยน่าดู

    มิน่าจะ คนที่สำเร็จผลจึงมีน้อย เหมือนกัน

  4. ผมซื้อหนังสือวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเองของคุณสุมาอี้มาอ่านนะครับ
    จะขอคำแนะนำเกี่ยวกับ “interest coverage ratio” นะครับว่า
    มันคืออะไร แล้วคำนวนยังไง

    แล้วก็อย่างอุตสาหกรรมแบบ ขายข้อมูล เช่น BOL เราจะหาข้อมูลอุตสาหกรรมได้ยังไงครับ
    แล้วความน่าเชื่อถือละครับ จะหายังไงงง

    ขอบคุณมากครับ

  5. ครบ 3 ปีแล้วนี่ครับ
    ไม่เห็นใครว่าไง ไม่รู้ลืมไปหรือยัง
    ผมช่วยเฉลยให้นะครับ

    ERAWAN ลบแหลกราญ ตอนนี้เหลือ 2.54 ติดลบไปเกินครึ่ง
    BGH ตอนนี้เหลือ 24.30
    MINT ตอนนี้เหลือ 11.30

    เฮ้อ ใครซื้อตามมีหวังแย่หน่อยนะครับ

  6. วันครบกำหนดคือวันที่ 18 พย.นะครับ ไม่ได้ลืมครับ มันยังไม่ถึง

  7. ถ้าลองถือตั้งแต่วันนี้ ไปถึงปลายปีหน้า ผมว่า น่าจะโอเคนะครับคุณ เหลียง ครับ ^^

    มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม

  8. ผมไม่ได้เชียร์วิธีไหนมากกว่ากันนะครับ ผมเขียนเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มการทดลองว่า ทั้งสองวิธี ล้วนมีข้อบกพร่องทั้งคู่ วิธีหนึ่งมองแต่ราคา อีกวิธีหนึ่งมองแต่คุณค่า เป็นการมองอะไรด้านเดียวทั้งสองวิธี

    https://dekisugi.net/2006/11/18/0018/

  9. ตามมาจากหลาย link รวมถึงเรื่องเดือนวาด ถกกันถึงลูกถึงคนจริง ๆ

    ผลลัพท์ปีนี้ หลังจากมีวิกฤต คงได้ผลอีกแบบนึง

    การลงทุนเป็นอะไรที่ซับซ้อน สถานการณ์หนึ่ง ๆ ทำให้วิธีหนึ่ง ๆ ได้ผลดี

    จนบอก ๆกันต่อ และเป็น talk of the town ในช่วงเวลาหนึ่ง

    แต่ผลลัพท์จีรัง และยั่งยืนแค่ไหน รวมถึงคนใช้ นำไปใช้ได้ดีแค่ไหน

    ก็ทางใครทางมันล่ะไอ้ศร 🙂

  10. ไม่ทราบตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ? พี่สุมาอี้ ช่วยเปรียบเทียบระหว่างหุ้นสองประเภทหน่อยครับ

    ขอบคุณครับ

    1. ดูห้วข้อ 0243: Growth vs. Value (Results) ครับ
      แต่ผมว่าเวลาสามปียังน้อยเกินไปที่จะวัดอะไรได้ โดยเฉพาะเป็นช่วงที่มีวิกฤติด้วย

Comments are closed.