Skip to content

22: 0026: Growth vs. Value (Revisited 1)

ที่จริงตั้งใจจะไม่เขียนเรื่อง Investing ในบล็อคนี้แล้วแต่สืบเนื่องจากหัวข้อ Growth vs. Value ที่เคยโพสต์เอาไว้เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ลองมาดูผลกันว่าหนึ่งปีผ่านไปเป็นยังไงบ้างตามที่ได้สัญญาไว้

ผลตอบแทน=(ราคาปัจจุบัน+เงินปันผลที่ได้รับระหว่างทาง-ราคาเมื่อปีที่แล้ว)/(ราคาเมื่อปีที่แล้ว)

Value Port

TF (508+7.75+10.78-444)/444 = 18.6 %

WG (44+2.5-46)/46 = 1.1 %

RATCH (50+1+1.1-42.25)/42.25 = 23.3 % 

ผลตอบแทนของทั้งพอร์ต(เฉลี่ย) = average(18.6, 1.1, 23.3) = 14.33%

Growth Port

MINT (17.3+0.15-11)/11 = 58.6 %

BGH (39+0.5-30)/30 = 31.7 %

ERAWAN (4.04+0.05-4.38)/4.38 = -6.6 % 

ผลตอบแทนของทั้งพอร์ต(เฉลี่ย)= average(58.6, 31.7, -6.6)= 27.9%

หนึ่งปีผ่านไป Growth Port นำอยู่ครับ แต่อย่าลืมว่าการทดลองนี้ตัดสินที่ปีที่ 3 แต่ติดตามผลทุกหนึ่งปี เอาไว้อีกหนึ่งปีข้างหน้าค่อยมาติดตามกันนะครับ

Tags:

11 thoughts on “22: 0026: Growth vs. Value (Revisited 1)”

  1. ^-^ แหมะ นึกว่า “คลายเครียดเรโช” ซะอีก มองผิดไป อิ อิ แต่ดูอัตราผลตอบแทนแล้ว ท่านสุมาอี้ทำได้ดีกว่าวอเรน บัฟเฟตอีกนี่ครับ คนนั้นเขาได้ผลตอบแทนทบต้นที่ 20% เอง T-T ผมยังทำไม่ได้เลย

  2. เป็นเพียงพอร์ตทดลองน่ะครับพี่ไท้

    ข้อสังเกตจากการทดลอง

    การซื้อหุ้นพีอีต่ำนั้นไม่ใช่วิธีที่ทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเสมอไป เพราะตลาดพยายามให้พีอีตามอัตราการเติบโตของกำไรของแต่ละบริษัทอยู่แล้ว ถ้าอยากเอาชนะตลาด ต้องหาทางซื้อหุ้นที่มีพีอีต่ำเมื่อเทียบกับโอกาสในการเติบโตของกำไร ไม่ใช่ซื้อหุ้นพีอีต่ำโดยไม่สนใจโอกาสในการเติบโต

    การถือหุ้นไว้เฉยๆ โดยไม่ขายหนีระเบิดกทม. ไม่ขายหนีซับไพรม์ ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่กลับให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียว การเทรดหุ้นบ่อยๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกนั้น อาจจะได้รับผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม

  3. Growth นำห่างนะครับ

    การถือหุ้นไว้เฉยๆ นะไม่ได้ทำได้ง่ายๆ นะครับ
    จะมีจิตใจมั่นคงแบบนั้น คงมีน้อยน่าดู

    มิน่าจะ คนที่สำเร็จผลจึงมีน้อย เหมือนกัน

  4. ผมซื้อหนังสือวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเองของคุณสุมาอี้มาอ่านนะครับ
    จะขอคำแนะนำเกี่ยวกับ “interest coverage ratio” นะครับว่า
    มันคืออะไร แล้วคำนวนยังไง

    แล้วก็อย่างอุตสาหกรรมแบบ ขายข้อมูล เช่น BOL เราจะหาข้อมูลอุตสาหกรรมได้ยังไงครับ
    แล้วความน่าเชื่อถือละครับ จะหายังไงงง

    ขอบคุณมากครับ

  5. ครบ 3 ปีแล้วนี่ครับ
    ไม่เห็นใครว่าไง ไม่รู้ลืมไปหรือยัง
    ผมช่วยเฉลยให้นะครับ

    ERAWAN ลบแหลกราญ ตอนนี้เหลือ 2.54 ติดลบไปเกินครึ่ง
    BGH ตอนนี้เหลือ 24.30
    MINT ตอนนี้เหลือ 11.30

    เฮ้อ ใครซื้อตามมีหวังแย่หน่อยนะครับ

  6. วันครบกำหนดคือวันที่ 18 พย.นะครับ ไม่ได้ลืมครับ มันยังไม่ถึง

  7. ืหมอนุ่น

    ถ้าลองถือตั้งแต่วันนี้ ไปถึงปลายปีหน้า ผมว่า น่าจะโอเคนะครับคุณ เหลียง ครับ ^^

    มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม

  8. ผมไม่ได้เชียร์วิธีไหนมากกว่ากันนะครับ ผมเขียนเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มการทดลองว่า ทั้งสองวิธี ล้วนมีข้อบกพร่องทั้งคู่ วิธีหนึ่งมองแต่ราคา อีกวิธีหนึ่งมองแต่คุณค่า เป็นการมองอะไรด้านเดียวทั้งสองวิธี

    https://dekisugi.net/2006/11/18/0018/

  9. ตามมาจากหลาย link รวมถึงเรื่องเดือนวาด ถกกันถึงลูกถึงคนจริง ๆ

    ผลลัพท์ปีนี้ หลังจากมีวิกฤต คงได้ผลอีกแบบนึง

    การลงทุนเป็นอะไรที่ซับซ้อน สถานการณ์หนึ่ง ๆ ทำให้วิธีหนึ่ง ๆ ได้ผลดี

    จนบอก ๆกันต่อ และเป็น talk of the town ในช่วงเวลาหนึ่ง

    แต่ผลลัพท์จีรัง และยั่งยืนแค่ไหน รวมถึงคนใช้ นำไปใช้ได้ดีแค่ไหน

    ก็ทางใครทางมันล่ะไอ้ศร 🙂

  10. ไม่ทราบตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ? พี่สุมาอี้ ช่วยเปรียบเทียบระหว่างหุ้นสองประเภทหน่อยครับ

    ขอบคุณครับ

    1. ดูห้วข้อ 0243: Growth vs. Value (Results) ครับ
      แต่ผมว่าเวลาสามปียังน้อยเกินไปที่จะวัดอะไรได้ โดยเฉพาะเป็นช่วงที่มีวิกฤติด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *