30 Checklist ง่ายๆ สำหรับเลือกหุ้นเติบโต

ผมเชื่อว่าการเลือกหุ้นควรเป็นการวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพ แต่ เพื่อช่วยให้ง่ายและจับต้องได้มากขึ้น ผมได้ลองคิดถึง Checklist สำหรับการเลือกหุ้นเติบโตสำหรับลงทุน (ระยะกลางและยาว) นักลงทุนอาจใช้ Checklist นี้ เพื่อช่วยกรองหุ้นเบื้องต้น หรือมาเสริมการวิเคราะห์เชิงคุณภาพของเราก็ได้ครับ

1. สินค้าหลักของบริษัท เป็นสินค้าที่ตลาดมีโอกาสบริโภคมากขึ้นในอนาคตหรือไม่ (คำตอบควรจะเป็น “ใช่” หรือในกรณีที่คำตอบคือ “ไม่” คำตอบของคำถามข้อ 2 ควรจะเป็น “เพิ่มขึ้น”)
2. บริษัทกำลังมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นหรือลดลง
3. ในอนาคต บริษัทจะขายสินค้าได้มากขึ้นด้วยเหตุผลใด ลูกค้าแต่ละรายบริโภคมากขึ้น จำนวนลูกค้ากำลังเพิ่มขึ้น หรือทั้งสองอย่าง
4. บริษัทมีการขยายธุรกิจไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ สินค้าตัวใหม่ๆ หรือภูมิภาคใหม่ๆ บ้างหรือเปล่า
5. ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการใช้กำลังการผลิตเท่าไรของกำลังการผลิตรวม และบริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตหรือไม่
6. ในกรณีที่กำลังการผลิตเต็ม หรือมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิต บริษัทมีแหล่งเงินทุนจากไหน (กำไรสะสม/เงินกู้/เพิ่มทุน) จำเป็นต้องเพิ่มทุนก่อนหรือไม่
7. ในกรณีที่กำลังการผลิตยังเหลืออีกมาก รายได้บริษัทกำลังเติบโตหรือเปล่า
8. บริษัทสามารถตอบได้อย่างแจ้งชัดหรือไม่ว่า เป้าหมายระยะกลางหรือยาวของบริษัทคืออะไร
9. บริษัทมีคู่แข่งขันกี่ราย ไม่มีเลย มีไม่เกินสามราย หรือมีคู่แข่งจำนวนมาก
10. บริษัทจุดเด่นมีอะไรบ้างเมื่อเทียบกับคู่แข่งเหล่านั้น และจุดเด่นของบริษัทเป็นปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากแค่ไหน
11. บริษัทตอบได้อย่างแจ้งชัดหรือไม่ว่า บริษัทมีข้อได้เปรียบหรือจุดเด่นอะไร
12. บริษัทตอบได้อย่างแจ้งชัดหรือไม่ว่า กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทคืออะไร
13. สิ่งที่เป็นจุดเด่นของบริษัท มีแนวโน้มจะเด่นขึ้นอีกหรือว่าเสื่อมถอยลงในอนาคต
14. อุตสาหกรรมที่บริษัทอยู่ มีการตัดราคากันหรือไม่ ผู้ประกอบการสามารถตั้งราคาได้เองมากน้อยแค่ไหน
15. บริษัทสามารถตั้งราคาสินค้าแพงกว่าคู่แข่งได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ได้ บริษัทมีข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งอยู่หรือไม่
16. บริษัทกำลังมีหนี้สินต่อทุนไม่เกินหนึ่งเท่าหรือไม่ (หนี้สินนับเฉพาะที่มีดอกเบี้ย)
17. บริษัทมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้ใช้เหลือกับธนาคารพาณิชย์อีกเท่าไร
18. บริษัทมีวอแรนต์ หรืออีสป หรือหุ้นกู้แปลงสภาพที่รอแปลงเป็นหุ้นสามัญอยู่หรือไม่ และคิดเป็นสัดส่วนเท่าไรเทียบกับหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบัน
19. บริษัทมี EBITDA เป็นบวกอยู่หรือไม่ และมี interest coverage ratio กี่เท่า
20. บริษัทมีลูกค้ารายใหญ่รายเดียวที่สร้างรายได้เกิน 30% ของรายได้ทั้งหมดหรือไม่ หรือมีลูกค้าใหญ่ไม่กี่รายที่สร้างรายได้รวมกันเกิน 50% ของรายได้รวมหรือไม่
21. รายได้ของบริษัทมีลักษณะเป็น Project-based ที่ไม่แน่ไม่นอน และสร้างฐานลูกค้าในระยะยาวไม่ได้หรือเปล่า
22. รายได้ของบริษัทขึ้นอยู่กับราคาขายของผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทตั้งราคาเองไม่ได้ และราคาก็ผันผวนสูงหรือเปล่า
23. ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทคิดทำอะไรใหม่ๆ หรือมีความเคลื่อนไหวอะไรที่ใหม่บ้าง
24. บริษัทมีประวัติของการเพิ่มทุนหรือออกวอแรนต์เป็นประจำหรือไม่
25. ถ้าเพิ่งเข้าตลาดได้ไม่นาน ราคาหุ้นร่วงลงจากราคาจองอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
26. หุ้นมีพีอีสูงแค่ไหน เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตต่อปีที่เป็นไปได้ของธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า
27. ถ้าพีอีปัจจุบันสูงเกินไปเมื่อเทียบกับการเติบโต มาร์จิ้นปัจจุบันของบริษัทเป็นมาร์จิ้นระดับปกติหรือไม่ ถ้าลองปรับให้เป็นปกติ พีอียังสูงอยู่หรือเปล่า
28. ถ้าพีอีปัจจุบันสูงเกินไป บริษัทยังมีโอกาสเติบโตที่มองไม่เห็นอะไรบ้างที่พอจะมาอธิบายพีอีที่สูงเกินไปได้บ้าง
29. นอกจากพีอีแล้ว อัตราส่วนอื่นๆ ของบริษัท แสดงว่า ราคาหุ้นของบริษัทอาจสูงเกินไปหรือไม่ ถ้าอาจสูงเกินไป แล้วเรามีคำอธิบายหรือเปล่า
30. หุ้นดังกล่าวอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกับหุ้นที่เรามีอยู่แล้วในพอร์ตหรือธุรกิจเกี่ยวข้องกันมากจนทำให้พอร์ตของเราขึ้นอยู่กับธุรกิจประเภทใดประเภทหนึ่งมากจนเกินไปหรือเปล่า