[youtube https://www.youtube.com/watch?v=LWr8hbUkG9s]
เพิ่งไปดูหนังเรื่องนี้มาครับ The Big Short (2015) หนังสร้างจากเรื่องจริงในหนังสือของ Michael Lewis เกี่ยวกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นหายนะวิกฤตซับไพร์ม ก่อนคนอื่น และสามารถทำกำไรมหาศาลได้จากมัน
โดยส่วนตัวผมว่าข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้คือ ฟองสบู่ไม่ได้เกิดจากคนที่กล้าเสี่ยงแบบบ้าบิ่นมากเท่ากับการที่คนจำนวนมากเชื่อว่ามีอะไรบางอย่างที่เชื่อถือได้อย่างแน่นอนว่าปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นหลักทรัพย์ตัวไหนก็ตาม หรือแม้แต่ทฤษฎีหรือหลักการลงทุนอะไรบางอย่าง เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราเชื่อแบบนั้น เราจะทุ่มสุดตัว และหมดตัวได้ ต่างจากอะไรก็ตามที่เรายังเชื่อว่ามีความเสี่ยงอยู่ เราจะระมัดระวังมากกว่า และทำให้ได้ไม่ได้เสียหายจากมัน
คนเรามักชอบให้มีคนมาบอกว่า “คุณจะปลอดภัย” (Everything is gonna be alright) มากกว่าที่จะอยากรับรู้ข้อเท็จจริงตามเนื้อผ้า นี่เป็นเหตุให้เกิดภาวะเชื่อตามๆ กัน เพราะมันสร้างความอุ่นใจให้เราได้มากกว่า และทำให้เกิดธุรกิจหมอดู นักพยากรณ์ ที่ปรึกษาการลงทุน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฯลฯ ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากกว่าทำให้เรารู้สึกสบายใจ ทั้งที่การป้องกันความเสี่ยงจริงๆ คือการเผชิญหน้ากับข้อมูล ข้อเท็จจริง ตามเนื้อผ้า ไม่ว่าข้อเท็จจริงนั้นจะทำให้เราสบายใจหรือรู้สึกหดหู่ก็ตาม ตัวละครในเรื่องคือกลุ่มคนที่เลือกอย่างหลัง เขาเช็คข้อมูลด้วยตนเอง ตัดสินใจจากข้อมูล และยอมโดนคนอื่นหัวเราะเยาะ เพราะคิดอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนชาวบ้าน และสุดท้ายพวกเขาก็รอดตาย และได้รางวัลสมกับที่พวกเขายอมแลกมันมาด้วยการค้นหาความจริงและทำสิ่งที่คนรอบข้างไม่เห็นด้วย
วันนี้ไปดูเรื่องนี้มา หลังจากได้อ่านหัวข้อนี้เลยครับ สนุกดี
ชอบตรงที่หนังมีการเล่าเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้นผ่านการเปรียบเปรย โดยให้ตัวละครรับเชิญมาช่วยอธิบาย
ต้องไปดูว้างแล้วครับ น่าสนุก
จะลองหาดูครับ
สนุกมากๆเลยครับ เสี่ยงมากๆ ถ้าสายป่านไม่พอนี่ เศร้าเลย หรือโดนตัดหลังก่อน (อย่างจีน)
ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ก็ย้อนนึกไปถึงหนังอีกเรื่อง คือ the inside job ที่เล่าเรื่องวิกฤติ Lehman shock อีกมุมนึงของเรื่องนี้ ที่ไล่สัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวของกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ถ้ามีหนังไทยที่เล่าเรื่อง วิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 แบบนี้คงน่าสนใจมากทีเดียวหล่ะครับ
ไปดูเพราะว่าเคยอ่านหนังสือแล้วชอบ
หนังทำได้ดีทีเดียวครับ
คนเรามักมีสองด้าน ด้านกล้าได้กล้าเสียมักทำให้เรากล้าตัดสินใจในเรื่องที่เสี่ยง ถ้าใช้ในทางที่ถูกก็ทำให้เกิดความก้าวหน้าในชีวิต อีกด้านคือด้านความกลัวซึ่งก็เป็นด้านที่คอยเตือนใจเราไม่ให้หุนหันพลันแล่นในการตัดสินใจทำอะไร อยู่ที่แต่ละคนจะควบคุมด้านทั้งสองด้านนี้ให้สมดุลกัน
—– สาระน่ารู้รองเท้าแตะหูหนีบ
มีแผ่นวางขายที่ไหนบ้างครับ
ผมไปทำความเข้าใจวิกฤตซับไพร์มจากบทความหลายๆ เว็บในเน็ต ผมมีคำถามเกี่ยวกับการกระทำของ Dr.Michael Burry ว่าทำไมเขาถึงเลือก ที่จะ Short ตราสารอนุพันธ์ (CDS) แทนที่จะเป็นตราสารหนี้หลักคือ (CDO) ใครตอบได้ช่วยตอบให้เป็นความรู้ทีคับ
จะเป็นเพราะว่าใช้เงินน้อยกว่ารึเปล่า