0329: หุ้นพื้นฐาน?

ที่จริงผมไม่ค่อยอยากแตะเรื่องนี้เท่าไร แต่ไม่ทราบว่าทำไมช่วงนี้ถึงได้มีนักลงทุนมาบ่นกับผมเรื่องขาดทุนหุ้นเป็นจำนวนมากจนผิดปกติ เลยอยากฝากมุมมองบางอย่างไว้ เผื่อว่าบางมุมอาจจะเป็นประโยชน์กับท่านนักลงทุนบ้างนะครับ

แต่ไหนแต่ไรมาเป็นที่รู้กันดีว่าตลาดหุ้นไทยมีขาใหญ่ที่เป็นขบวนการปั่นหุ้นสิงสถิตย์อยู่ คนกลุ่มนี้มีข้อได้เปรียบนักลงทุนทุกรูปแบบ ตั้งแต่สามารถบอกให้สื่อช่วยเขียนข่าวตามใจได้ มีช่องทางประจำสำหรับการปล่อยข่าวลือในห้องค้า และที่เด็ดสุดคือมีการจับมือกับผู้บริหารของหุ้นที่จะปั่นด้วย คือต่อให้เทรดหุ้นผิดพลาดเองก็ยังบอกให้บริษัทช่วยออกข่าว ออกวอแรนต์ เพิ่มทุน หรือตัดขาดทุนรายการพิเศษ เพื่อให้ตัวเองพลิกกลับมากำไรได้อีก นักลงทุนกลุ่มนี้จึงเล่มเกมที่ตัวเองมีข้อได้เปรียบนักลงทุนคนอื่นอย่างมากมาย 

แต่ที่จริงผมกลับไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องนี้เท่าไร เพราะสมัยนี้ หุ้นที่ขบวนการพวกนี้ปั่นอยู่มักเป็นที่รู้และพูดถึงกันทั่วไปในตลาดหุ้น ถ้านักลงทุนอยากรู้ว่ามีตัวไหนบ้างก็มักหาคำตอบได้โดยง่าย รายย่อยที่เกรงกลัวภัยพวกนี้มักจะไม่เข้าไปยุ่งกับหุ้นพวกนี้กันอยู่แล้ว ส่วนรายย่อยอีกจำพวกหนึ่ง ที่หากได้ยินว่าขาใหญ่จะปั่นตัวไหนก็จะรีบเข้าไปเล่นด้วยทันที (ยิ่งมีเจ้า ข้ายิ่งชอบ) กลุ่มนี้ผมก็ไม่ห่วงเช่นกัน เพราะพวกนี้มักจะเข้าไปโดยรู้อยู่แล้วว่ามีอันตราย จึงมีการระวังตัวแจ พวกนี้ถ้าเจ็บตัวมา ผมไม่ค่อยรู้สึกว่าน่าสงสารมากเท่าไร เหมือนเวลาดูมวย เราไม่ได้สงสารนักมวยบนเวทีเวลาที่เขาโดนต่อยเพราะเรารู้ว่าเขาเลือกอาชีพของเขาเองและเขารู้ดีก่อนเลือกว่าการเป็นนักมวยจะต้องเจ็บตัว

แต่ยุคหลังๆ นี้ คนที่ขาดทุนมากๆ กลับไม่ใช่แบบที่ว่ามา แต่กลับเป็นคนที่ขาดทุนจากหุ้นที่เขาซื้อเพราะคิดว่าเป็นหุ้นพื้นฐาน คนขาดทุนหุ้นในลักษณะนี้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นแบบที่ผมรู้สึกสลดใจมากกว่าแบบดั่งเดิมมาก เพราะเป็นการขาดทุนที่มาจากความเข้าใจผิด ความหลงผิด หรือความไม่รู้ เป็นการขาดทุนที่มีต้นเหตุมาจากความศรัทธามากกว่าความโลภ คนที่มาปรับทุกข์กับผมคนหนึ่งบอกว่า เขาเพิ่งจะสิ้นเนื้อประดาตัวไปกับหุ้นตัวเดียวที่คิดว่าซื้อได้เต็มที่เพราะว่าเป็นหุ้นพื้นฐาน

ปกติแล้ว คนที่ซื้อหุ้นที่คิดว่าเป็นหุ้นปั่น มักจะซื้อแบบยั้งๆ เพราะตระหนักดีว่า มีอันตรายอะไรอยู่ แต่คนที่ซื้อหุ้นเพราะคิดว่าเป็นหุ้นพื้นฐานนั้น น่ากลัวกว่ามาก พวกเขาจะกล้าซื้อแบบทุ่มสุดตัว เพราะคิดว่ามีพื้นฐานรองรับอยู่ ถ้าซื้อแล้วลง ก็กล้าซื้อหนักขึ้นอีก เพราะเชื่อว่าหุ้นพื้นฐานดี ยิ่งตก ต้องยิ่งซื้อ ขนาดความเสียหายของคนที่ขาดทุนหุ้นพื้นฐานนั้นมักจะรุนแรงมากเป็นพิเศษ

อยากเตือนเพื่อนนักลงทุนทุกคนว่า ไม่มีหุ้นส่วนหนึ่งในตลาดหุ้นที่เรียกว่า “หุ้นพื้นฐาน” ซึ่งจะปลอดภัยจากภาวะฟองสบู่ หรือการสร้างราคาใดๆ หรอกครับ (จะมีก็แต่แนวการลงทุนแบบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น) หุ้นทุกตัวในตลาดสามารถกลายเป็น “หุ้นปั่น” หรือเกิดภาวะฟองสบู่ได้ทั้งสิ้นถ้าหากมีคนสนใจหุ้นตัวนั้นมากๆ

เวลาหุ้นที่ไม่ได้มี “ภาพลักษณ์” ว่าเป็นหุ้นพื้นฐานปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น เรามักอธิบายกันว่าเป็นเพราะมีคน “ปั่น” อยู่ แต่ถ้าหากเป็นหุ้นที่คนดังในเว็บหุ้นแนว “พื้นฐาน” เชียร์ ปรับตัวขึ้นแบบเดียวกันบ้าง เรามักอธิบายกันว่า เป็นการขึ้นเพราะ “พื้นฐาน” ที่ดี แต่ที่จริงแล้วผมอยากจะโต้แย้งว่าหุ้นที่ขึ้นได้มากๆ หลังจากที่มีการเชียร์กันตามเว็บหุ้นพื้นฐานนั้น ไม่ได้ขึ้นได้เพราะพื้นฐานแต่ขึ้นได้เพราะเกิดภาวะ “แห่ตามกัน” ของนักลงทุน แบบเดียวกับเวลาที่หุ้นเก็งกำไรปรับตัวขึ้นได้แรงเลยครับ   

เหตุผลหนึ่งที่ชอบอ้างกันก็คือว่าขึ้นได้เพราะเป็นหุ้นที่ยังมีพีอีเรโชที่ต่ำมาก แต่ผมอยากจะแย้งว่า หุ้นที่มีพีอีที่ต่ำมากนั้น มีอยู่อย่างดาษดื่นตลอดเวลาในตลาดหุ้นไทย และกี่ปีกี่ปี พวกมันก็ยังมีพีอีต่ำมากอยู่อย่างนั้น ไม่เห็นว่าจะขึ้น การที่หุ้นมีพีอีต่ำมากจึงไม่ใช่เหตุผลที่หุ้นจะต้องขึ้น บ่อยครั้งที่หุ้นบางตัวมีพีอีที่ต่ำมากเป็นเพราะพวกมันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ดีอยู่ เช่น เป็นธุรกิจที่กำไรค่อนข้างเปราะบาง อุตสาหกรรมที่เป็นวัฏจักรผันผวนสูง หรืออาจเกิดจากสถานะทางการเงินที่อ่อนแอ ต่างหาก การที่พวกมันมีพีอีต่ำมาก จึงเป็นพีอีต่ำที่มีเหตุผลของมันอยู่ แต่การที่หุ้นพีอีต่ำมากขึ้นได้หลังจากที่เซียนเชียร์นั้นเป็นเพราะว่าเกิดภาวะที่นักลงทุนแห่ซื้อตามเซียนต่างหาก หุ้นพวกนี้พอมีข่าวร้ายเกิดขึ้นเมื่อไร บารมีของเซียนเอาไม่อยู่ พีอีก็จะตกกลับลงมาต่ำเหมือนเดิมใหม่ แต่ราคาหุ้นจะต่ำยิ่งกว่าเดิม เพราะว่าข่าวร้ายทำให้ E ลดลงด้วย นักลงทุนที่แห่ซื้อตามเซียนไป ก็มักจะขาดทุนเสียหายกันเป็นจำนวนมาก เพราะต้นทุนสูงกว่าเซียนมาก

ฟองสบู่ในหุ้นพื้นฐานบางทีก็ไม่ได้เกิดจากเหตุผลเรื่องพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นเอง แต่เกิดจากการศรัทธาในตัวบุคคลของผู้ที่เชียร์หุ้นตัวนั้นมากกว่า ชื่อของเซียนบางคนเป็นแบรนด์ที่ทรงพลัง แค่ข่าวรั่วออกไปว่าเข้าไปถือหุ้นตัวไหน คนจำนวนมหาศาลก็พร้อมที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นตามทันทีโดยไม่ต้องถามเหตุผล เพราะเลื่อมใสในเซียนผู้นั้นมาก แบบว่าถ้าเซียนคนนี้คิดว่าดี ยังไงก็ต้องดีแน่ๆ ไม่มีทางพลาด เก่งออกขนาดนั้น ชื่อนี้การันตี ตกลงว่าพื้นฐานดีจริงหรือเปล่ายังไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปก่อนแล้วแน่นอนเพราะเกิดจากแรงซื้อของสาวกนั่นแหละ

ถ้าใครชอบไปตามดูของเก่าจะพบว่า หุ้นหลายตัวที่ราคาเคยทะยานได้อย่างมากมายช่วงหนึ่งในอดีต เพราะมีเซียนคนนั้นคนนี้ออกมาบอกว่า จะได้โปรเจ็คใหญ่ ทำให้กำไรก้าวกระโดดเท่านั้นเท่านี้ แต่สุดท้ายแล้ว ผลประกอบการกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยนั้น มีอยู่เยอะมาก ที่กลับตาลปัตร กลายเป็นขาดทุนแถมยังเจอเพิ่มทุนอีกมหาศาลก็มีไม่ใช่น้อยๆ เลย ถ้าลองทำตัวเป็นนักสืบย้อนรอยตามไปเก็บผลงานเก่าๆ ดูจะตกกะใจว่า ที่จริงแล้ว ความถี่ที่เซียนคิดถูกนั้นน้อยพอๆ กับคนธรรมดาเลยทีเดียว แต่ก่อนที่ผลสอบจะออกมา ราคาหุ้นก็มักปรับตัวขึ้นไปได้อย่างมากมายแล้ว นั่นก็เพราะแรงศรัทธาในตัวเซียนล้วนๆ 

ผมไม่ได้เป็นห่วงทุกคนที่ซื้อหุ้นตามเซียนหุ้นพื้นฐานหรือหุ้นที่กำลังเชียร์ๆ กันในเว็บหุ้นพื้นฐานหรอกครับ ที่จริงแล้วมีนักเก็งกำไรจำนวนมากที่ได้กำไรไปอย่างมากมายจากการฉกฉวยโอกาสกับหุ้นเหล่านี้ เพราะคนที่เข้าใจว่า หุ้นพื้นฐานเหล่านี้ขึ้นมาแรงเพราะเกิดสภาวะแห่ตามกันเท่านั้นเอง ส่วนของจริงจะดีอย่างที่เชียร์กันหรือไม่ยังไม่มีใครรู้ ไม่น่าห่วงหรอกครับ หรือคนที่เห็นด้วยกับเหตุผลด้านพื้นฐาน แต่ก็เข้าใจด้วยว่า ราคาที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนี้เกิดจากการแห่ตามกันของนักลงทุนไปก่อนเท่านั้น ก็ไม่น่าเป็นห่วงเช่นกัน แต่คนที่หลงผิดคิดว่าหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรงได้เป็นเพราะว่าพื้นฐานมันดีจริงแล้วนั้น เป็นพวกที่ผมห่วงที่สุด เพราะผมพบว่า คนที่เจ็บตัวจากหุ้นพื้นฐานแล้วมาปรับทุกข์ให้ผมฟังนั้นล้วนเป็นคนที่คิดแบบนี้กันทั้งนั้น

32 Replies to “0329: หุ้นพื้นฐาน?”

  1. ^^ ขอบคุณครับพี่ครับ
    โดนใจเหมือนที่อ.ผมบอกไว้เลยครับ ^^

  2. นึกว่าจะพูดถึงเวปหุ้นพื้นฐานด้วย อิอิ

    ความเชื่อนี่เป็นเรื่องอันตรายจริง ๆ

    สิ่ง ๆ นี้ทำให้คนย่อยยับมานับต่อนับแล้วในประวัติศาสตร์หุ้น

    ผมตกรอบ HMPRO/KH ไปอ่ะ ตอนนี้ตลาด hot ยังลามไปที่ com visit ด้วย เต็มเร็วมั่ก ๆ
    เอาไว้ถ้าได้เป็นสำรอง คงได้เจอกันครับ 🙂

  3. เห็นด้วยครับ ยิ่งช่วงนี้กระแสเรื่องนี้ “แรง” ดีจริง ๆ หุ้นตัวไหนเป็นกระแส ตัวนั้นเป็น พุ่ง มันดีแท้

    ส่วนผมของ focus หุ้นอยู่ใน list ของผมดีกว่า หุ้นตัวไหนจะพุ่งยังไงก็ปล่อยไปเถอะ ของของเรา ยังไงก็เป็นของเรา ผมคิดว่าหุ้นที่ผม success จะเป็นหุ้นที่ผมมีความพร้อมอยู่แล้ว ไม่ใช่แห่ตามครับ พอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ครับ 😀

  4. ผมขอให้ท่านแม่ทัพช่วยอธิบายความเป็นไปและจุดจบของหุ้นที่ห่วยๆที่คนขายทิ้งกันหมดจน volume ตํ่าๆ หรือหุ้นถูกเรื้อรังว่าผลจะเป็นอย่างไรกับตัวบริษัทเองบ้าง ไม่เห็นมันจะถูกขับออกจาก ตลท. เลยครับ หรือว่าต้องล้มละลายเท่านั้นครับ ผมว่าประเด็นนี้จะช่วยวิเคราะห์แรงจูงใจของผู้บริหารได้นะครับ
    ขอความรู้ให้ผมบ้างนะครับ ผมเป็นเด็กใหม่จริงๆเพิ่งจะถอยรถเข้าตลาดหุ้นได้ประมาณ 4 เดือนเอง ถ้าถามโง่ๆก็อย่าว่ากันเลยนะครับ
    ขอขอบคุณล่วงหน้า

    โดย….หมออยากเล่นหุ้น

  5. ช่วงนี้บางบริษัทแค่ออกข่าวว่าจะมีโปรเจคใหม่และจะกำไรเพิ่มขึ้นในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นไปเท่าตัวหรือเกือบๆเท่าตัวในเวลาไม่กี่วัน พอราคาวิ่งแรงทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นบริษัทพื้นฐานดี ยิ่งเซียนการันตี ยิ่งไปกันใหญ่ ช่วงนี้น่ากลัวมากๆ ผิดกับช่วงตลาดขาลงขนาดงบออกมาดีมากๆปันผลก็สูงราคาก็ยังไม่ตอบสนอง พอราคาไม่วิ่งก็คิดกันไปเองแล้วว่าบริษัทไม่ดี

  6. บทความนี้โดนใจผมมากที่สุดในปีนี้เลยครับพี่…

  7. ยิ่งช่วงนี้ได้ข่าวเซียนหลายท่านกำไรกันมากมาย…ความโลภของเราก็ยิ่งครอบงำ

    อยากตามเซียนบ้าง

    ขอบคุณมากคะ…เป็นบทความช่วยเตือนสติอย่างมาก

  8. หลังจากเจ็บมา 5 ปี ตอนนี้ผมถือเงินสดอย่างเดียว เข้าครั้งล่ะไม่กี่ครั้ง ถ้าไม่ได้ราคาที่ต้องการจะไม่ซื้อเด็ดขาด และไม่เคยเชื่อว่าหุ้นในตลาดจะไม่มีเจ้ามือครับ มันต้องมีเจ้ามือคนนึง หรือหลาย ๆ คนนั่นแหล่ะ ดังนั้น นักลงทุนต้องกลัวหุ้นทุกตัวครับ และต้องศรัทธาจากประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดของตัวเองเท่านั้นแหล่ะจึงจะรอด 😉

  9. นักลงทุนควรจะพึ่งตัวเองเป็นหลัก มีแนวคิดและมีหลักการของตัวเอง ไม่หลงเชื่อใครง่ายๆ …

  10. หลังๆผมเห็นมีการใช้ social network อย่าง twitter, facebook สร้างกระแสในการลงทุน อย่างมาร์ผมส่งเมลข่าวหุ้นให้ผมทุกวัน ข้อความพวกนั้นผมเห็นก่อนแล้วใน twitter บางคนดังหน่อย ก็มีคน follow เป็นหมื่น เวลาจุดกระแสกันก็ง่าย

    เวบชื่อดังก็เห็นใช้ google analytic ตั้งนานแล้ว เล่นจับกระแสกันง่ายๆแบบนี้เลย

  11. ข้อมูลข่าวสารสมัยนี้ไวมาก ราคาหุ้นสะท้อนมูลค่าตามข่าวสาธารณะตลอดเวลา ทำให้หุ้นราคาถูกหายาก…..ครั้นจะหาข่าวเชิงลึกเพื่อค้นหาหุ้นที่ราคายังไม่ปรับขึ้น เราก็ไม่รู้จักคนวงในที่พอจะรู้ข้อมูลเชิงลึกได้

    โดย ….ตำรวจเล่นหุ้น(7thLTG)

  12. ผมยังไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมความคิดที่ว่าหุ้นพื้นฐานดียิ่งตกยิ่งซื้อเป็นความคิดที่ผิดน่ะครับ หรือว่าเพราะเขาไม่ถือยาวเลยขายขาดทุนหรือเปล่าครับ

  13. เห็นด้วยครับ…

    สุดท้ายจะลงทุนอะไร ควรยึดในหลักกาลามาสูตรเอาไว้ก่อน

    ขนาดพระพุทธเจ้ายังบอกว่า… อย่าเชื่อถึงแม้ว่าคนบอกจะเป็นพระพุทธเจ้าเอง

    แล้วอย่างนี้เราจะไปเชื่อ คนๆ นึง จิตใจเต็มไปด้วยกิเลสได้อย่างไร

  14. ตลาดดีขนาดนี้ แถมยังซื้อหุ้นพื้นฐาน… ยังมีคนเจ็บได้ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวเชียวหรือนี่ เช่นตัวไหนบ้างครับ?

  15. ขออนุญาติพี่โจ้ก เอาไปแปะไว้ที่ thaivi.com นะครับ

    น่าจะช่วยเตือนสติ น้องๆในนั้นได้ดี

  16. คนที่เกือบเจ๊งคนนั้นไม่ใช่รอบนี้ แต่เป็นช่วงก่อนหน้านี้

    แต่หมู่นี้ มีคนมาบ่นกับผมหลายคน ทั้งที่ติดหุ้นอยู่บ้าง ทั้งที่มีวิธีคิดเกี่ยวกับตลาดหุ้นที่ฟังดูแปลกๆ บ้าง เช่น ซื้อหุ้นพื้นฐานแล้วทำไมยังเหวี่ยงแรงอีก บางคนทุ่มซื้อแบบคิดแต่จะได้อย่างเดียวบอกว่าหุ้นดีไม่ต้องกลัว ดูแล้วน่าเป็นห่วง

  17. อีกอย่าง ผมชอบมุมมองของพี่โจ้กในการมองการลงทุน เเละ ตลาดมากครับ

    ช่วงนี้ มีเพื่อนๆหลายๆคนอยากจะเริ่มลงทุน

    ไม้ตายผมเลย บอกเพื่อนๆแค่ว่า ให้ไปสั่งหนังสือของพี่โจ้กมาอ่านก่อน

    เห็นว่าล่าสุก สั่งไปเรียบร้อยแล้วครับ

    ขอบคณพี่โจ้กสำหรับแนวทางที่สำหรับผม และเพื่อนๆด้วยครับ

  18. ผมถือ BJC ทุนเฉลี่ย 5.24 หน้าด้านถือว่าเรื่อย ตอนนี้ 18 บาทกำไรฟาดไป 250% ใน 6 เดือน งงตัวเองเหมือนกันถือมาได้ไงเนี่ย

  19. ขอบคุณครับพี่โจ๊ก สำหรับทความดีๆ

  20. หลายปีมาแล้ว ตอนที่เริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆ แรกๆ ก็ซื้อ ขายแบบเก็งกำไร พอไปไม่รอดก็กลับมาลองหุ้นพื้นฐานตามที่เซียนๆ เขาว่ากันนี่แหละ จำได้ไม่ลืม fancy ใครๆ ก็ว่าพื้นฐานดี ผู้บริหารดี ฐานะการเงินดี สัดส่วนอะไรๆ ก็ดี ถือยาวได้

    แล้วก็ไม่รู้ว่ามันกลายเป็นหุ้นไร้พื้นฐานตั้งแต่ตอนไหน เซียนเขาปล่อยกันไปเมื่อไหร่ก็ไม่เห็นบอก (หรือที่ถูกคือ เราไม่รู้จักติดตามเองตะหาก 555) รู้ตัวอีกที อ้าว! ทำไมเงินเราเหลือแค่นี้ ?:-)

  21. เดจาวู ครับ

    ตลาดโหดร้ายเสมอกับผู้หวังกำไรโดยไม่รู้จักป้องกันตัวเอง

  22. Fancy เป็นตัวอย่างที่ดีครับ ว่า การมองกระจกหลังไม่ได้ช่วยอะไร
    แล้วก็ บริษัทที่ไม่มีหนี้ ยังไงก็ไม่เจ๋ง (ง่ายๆ) ครับ

  23. น่าสนใจครับ
    เมื่อหลายเดือนก่อนไปเจองานชิ้นนึง เค้าทำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง stock prices กับสิ่งที่พูดถึุงกันในเวป social media อย่าง twitter พอดี

    ลองอ่านดูคร่าวๆ แล้วน่าสนใจครับ ด้วยการใช้ model ทางคณิตศาสตร์ (machine learning) สามารถนำตัวแปรที่อ่านได้จากเวป social media มาประเมินการขึ้นลงราคาหุ้นไ้ด้ใกล้เคียงทีเดียว

    ตาม link เลยครับ
    http://www.iccs.inf.ed.ac.uk/~miles/msc-projects/yi.pdf

  24. คุณ vitamin x ครับ
    ผมสนใจอยู่เหมือนกัน ครับ svm นี่ แต่จะนำมาลองใช้เกี่ยวกับ quality ดู ไม่ทราบว่า คุณ vitamin x พอจะแนะนำวิธีการสร้าง หรือ software สำหรับการทำ nn พวกนี้หรือไม่ครับ

  25. ต้องการซื้อหนังสือเกี่ยวกับหุ้น ของคุณ สุมาอี้ ซื้อได้ที่ไหน มีเงื่อนไขยังไงครับ

  26. มีขายที่ร้านบีทูเอสครับ ถ้าไม่สะดวกหรือไปแล้วมีของไม่ครบ สามารถสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ ดูวิธีใน https://dekisugi.net/books ครับ

  27. ผมไปหามาเมื่อ 3-4 เดือนก่อน ไม่มีขายเลยครับยกเว้น 35 idea เล่มเดียว

  28. 1.พวกมีประสบการณ์ ซื้อตามแล้วได้กำไรพอสมควรแล้วรีบออก กำไรไม่มากนักแต่โอกาสเจ็บตัวน้อยกว่า
    2.พวกยังใหม่ ซื้อตามตอนราคาดอย น่าเห็นใจแต่ได้ประสบการณ์ ทำนองผิดเป็นครู แต่จำนวนเงินลงทุนยังไม่มากนัก
    3.พวกยังใหม่ ศรัทธาแกร่งกล้า ซื้อตอนราคายังสูงไม่มาก แต่ด้วยศรัทธา ถือนานพอได้กำไรสูงมาก

    ผมว่าพวก3. น่ากลัวกว่าเพื่อน เพราะ2-3ปีที่ผ่านมา ตลาดเป็นขาขึ้น และพวก3.น่าจะระดมทุนญาติพี่น้องมาเพิ่มอีกด้วยครับ

  29. พฤติกรรมแห่ทำตามกันนั้น น่าจะเกิดจากสัญชาติญาณบางอย่าง(ตัวเลมมิ่ง) เพื่อนกลุ่มหนึ่ง ทนกับกระแสอะไรไม่ได้เลย เคยซื้อจตุคาม เลี้ยงปลาหมอสี คลั่งชาเขียว คิดว่า คนจำนวนหนึ่งจะแห่ตามคนอื่นตลอด (รู้ตัวอีกทีก็ทำตามคนอื่นไปแล้ว )กับมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความคิดเป็นของตัวเอง
    สาวกแห่ซื้อตามเซียนนี่เห็นจะเป็นสูตรสำเร็จฟองสบู่ไปแล้ว

Comments are closed.