มีหุ้นอะไรใหม่ๆ มั้ย

ช่วงนี้มีคนถามผมว่า ผมไม่เจอธุรกิจอะไรใหม่ๆ ที่น่าลงทุนบ้างเลยเหรอ? อึม ก็จริงนะครับ เหอๆ

ช่วงนี้ ยอมรับว่า เป็นช่วงที่มองยากอยู่เหมือนกันหุ้นดีๆ ในตลาดหุ้นไทยเมื่อสี่ห้าปีก่อน เวลานี้ก็ยังดูเป็นหุ้นที่เติบโตต่อไปได้อยู่ แต่ว่าราคาหุ้นเหล่านี้ล้วนอยู่ในระดับสูงทั้งนั้น เพราะคนทั่วไปรู้กันหมดแล้วว่าธุรกิจเหล่านี้มันดี ราคาเลยเป็น superstock กันหมด ดังนั้นจะหวังผลตอบแทนเท่าเดิม โดยพึ่งพาหุ้นตัวเดิมๆ ต่อไปอีกห้าปี ก็คงจะหวังได้ยาก เพราะราคาหุ้นพวกนี้ไม่ถูกอีกต่อไปแล้ว

ครั้นจะหันมาจับหุ้นหน้าใหม่ๆ ที่เข้ามาในตลาดพักหลังๆ ก็ต้องยอมรับว่า หุ้นหลายตัวที่ดูเป็นธุรกิจที่มีอนาคตนั้น พื้นฐานไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ถ้าจะลงทุนก็ต้องแบกความเสี่ยงมากขึ้น แต่ราคาหุ้นเหล่านี้กลับจะแซง superstock ไปด้วยซ้ำ สังเกตจากตลาดหุ้นในช่วงนี้ หุ้นตัวเล็กดูจะแพงเป็นพิเศษ ดังนั้นการจะหนีมาหุ้นตัวเล็ก ก็ไม่ได้เป็นทางเลือกที่มี Reward-to-Risk Ratio ที่ดีขึ้นเท่าไร

แถมช่วงนี้ยังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศไทย ซึ่งมองไม่ค่อยออกว่า เรากำลังจะมุ่งไปสู่อะไรกันแน่ ทำให้การมองหุ้นแบบ Top Down ยิ่งทำได้ยาก เพราะยังไม่ดูไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ประเทศจะหันไปทางไหน จะเลือก Sector ที่เด่นอย่างไร

ในภาวะแบบนี้ บางทีก็อยู่เฉยๆ ก็อาจเป็นทางเลือกที่เหลืออยู่ที่ดีกว่าก็ได้ ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา เราก็คัดแต่หุ้นคุณภาพดี และพยายามกระจายความเสี่ยงให้มากพอ พวกมันก็ควรจะดูแลตัวเองได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้น เราจึงควรมีความเชื่อเสมอว่า พอร์ตของเราก็ดีอยู่แล้ว ถ้าหากจะปรับพอร์ตก็ต้องเป็นโอกาสที่ดีกว่าของดีที่มีอยู่แล้วเท่านั้น ถึงจะน่าปรับ ถ้าหากของใหม่ไม่ได้น่าสนใจจริง ก็ควรอยู่เฉยๆ ดีกว่า

ตามธรรมชาติ คนเรามักรู้สึกในแง่ลบกับคนที่อยู่เฉยๆ เรามักคิดว่าการทำอะไรสักอย่างยังไงก็ย่อมดีกว่าการไม่ทำอะไรเลยเสมอ ซึ่งก็อาจจะจริงในหลายเรื่อง แต่ไม่จริงเสมอไปในเรื่องของการลงทุน ตรงกันข้าม วอเรน บัฟเฟต กล่าวว่า Occasionally Successful investing requires inactivity. นักลงทุนจำนวนมากไม่ประสบความสำเร็จก็เพราะนิสัยอยู่เฉยๆ ไม่ได้นี่เอง

บ่อยครั้งที่ทางเลือกทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าเราอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกใจเราเลยสักทางเดียว แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังต้องเลือกทางเลือกที่แย่น้อยที่สุดอยู่ดี ไม่ใช่เรื่องถูกใจไม่ถูกใจ แต่เป็นเรื่องของทางเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ การทำอะไรก็ได้แค่ให้รู้สึกสบายใจว่าอย่างน้อยก็ได้ทำอะไรบางอย่างแล้ว ไม่ใช่ตรรกะที่ถูกต้อง

ถึงตรงนี้ก็อยากชี้ให้เห็นว่า บางทีส่วนที่สำคัญมากส่วนหนึ่งของการพัฒนาตนเองในฐานะนักลงทุนก็คือด้านจิตวิทยา อย่างเช่น การพัฒนานิสัยบางอย่างให้เอื้อต่อลงทุน อย่างการบังคับตัวเองให้สามารถอยู่เฉยๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องปรับพอร์ตอยู่เรื่อยๆ ไม่ react ตามอารมณ์อยู่ตลอดเวลา คุณสมบัติทำนองนี้สร้างความแตกต่างระหว่างผลตอบแทนของนักลงทุนแต่ละคนได้อย่างมาก และเป็นเรื่องที่นักลงทุนทั่วไปก็พัฒนาได้ แต่นักลงทุนยังไม่ได้ให้ความสำคัญและนำมันมาใช้เพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้กับตัวเองมากพอ

22 Replies to “มีหุ้นอะไรใหม่ๆ มั้ย”

ขอบคุณมากครับพี่

ทำยังไม่ไม่ให้คันมือไปกดซื้อขายดีครับ ^^

Narin Olankijanan says:

October 7, 2014 at 6:06 am

ก็พยายามอย่าเกาะติดกระดานหุ้นมากเกินไป

เรียนสอบถามคุณโจ๊กครับ ผมมองว่าtrendของe-commerceในเมืองไทยเพิ่งเริ่มต้น ขณะที่ofmก็ประกาศตัวว่าจะเป็นเบอร์หนึ่งของธุรกิจนี้ เรียนถามคุณโจ๊กครับว่าการเลือกofmเพื่อถือรอลุ้นผลประกอบการในอนาคตในขณะที่ผมก็รู้สึกว่าราคาขณะนี้ค่อนข้างแพง มันจะดูจะเสี่ยงไปมั๊ยครับ

Narin Olankijanan says:

October 7, 2014 at 6:08 am

e-commerce โตสูงมากทุกปี แต่ ofm ก็อาจจะไม่ใช่ leader หรือรายที่ทำได้ดีก็ได้ เพราะว่ามีคู่แข่งเยอะมาก โดยส่วนตัวบางทีผมก็ไม่ได้คิดว่าซื้อของทางเน็ตกับบริษัทใหญ่จะมีข้อดีมากกว่าบริษัทเล็กมากมายนัก บางทีเราหาของที่หาซื้อไม่ได้มากกว่า ดังนั้น ถ้าถามว่า e-commerce โตมั้ย ผมว่าโตสูงแน่ แต่ใครจะเป็น winner ในตลาดนี้ อันนี้ตอบยากครับ

ขอบคุณมากครับ

ได้รับหนังสือทั้งสองเล่มแล้วคะ ขอบคุณ คะ

ขอบคุณครับ

ตรงใจมากกับคำว่า”successful investing require inactivities” ของปู่บัฟเฟต ส่วนตัวรู่สึกว่าการอยู่นิ่งๆนั้นยากที่สุด ยากกว่าการหาหุ้นสะอีก เพราะหุ้นหาแค่ทีเดียวจบและก็ติดตามบริษัทเป็นระยะ แต่เหมือนนิสัยของเรามันอยู่เฉยไม่เป็นสะจริงๆ คิดโน้นนี่หาเรื่องยุ่งกับพอร์ตตลอดทั่งจะเพิ่มจะลด ต้องปรับปรุงตัวเองอีกเยอะ ขอบคุณครับ

ยังไม่ได้รับหนังสือเลย ต้องทำยังงัยค่ะ

Narin Olankijanan says:

October 8, 2014 at 7:22 am

@chamai สมาชิกยังไม่ขึ้น never เลย ไม่ทราบว่าได้แจ้งการโอนเงินมาแล้วหรือยัง ถ้ายังแจ้งช่องทางที่โอน วันที่โอน จำนวนเงิน ไปยัง [email protected] ครับ

ได้รับหนังสือ2เล่มแล้วครับ ขอบคุณมากๆครับ

ขอบคุณคุณโจ๊กมากๆครับที่ชี้แนะเรื่องofm วิธีหนึ่งที่ทำให้ไม่คันมือโดยเฉพาะช่วงตลาดผันผวนแบบนี้คือปิดหน้าจอแล้วเอาหนังสือคุณโจ๊กมานั่งอ่านครับ ไม่เสียอารมณ์ และได้ความรู้ด้วยครับ