Market Commentary 4Q17

เรากำลังอยู่ในวัฏจักรขาขึ้นของดอกเบี้ยโลก ปีหน้าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง แต่ในความเป็นจริง ตลาดกลับไม่ได้กังวลในเรื่องนี้แล้ว ดังจะเห็นได้จากทิศทางการไหลของทุน และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรระยะยาว

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยุโรปและญี่ปุ่นเอง ก็ยังเพิ่มปริมาณเงินออกมาอยู่ ทำให้สภาพคล่องของโลกสุทธิแล้วก็ยังเพิ่มขึ้นไปอีกสักระยะ

แต่เหตุผลใหญ่จริงๆ อาจไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายของธนาคารกลาง แต่เกิดจากสภาวะตลาดที่มีความต้องการที่จะออม (ซื้อพันธบัตร) สูงกว่าความต้องการที่จะลงทุน (โดยภาครัฐและเอกชน) ทำให้สภาพคล่องในระบบมีล้นเกิน ดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐอยู่ในอัตราต่ำ (เพราะความต้องการซื้อพันธบัตรมีสูงมาก) ทำให้มองได้ว่า ต่อให้ไม่มีนโยบายการเงินของธนาคารกลาง สภาพคล่องของโลกก็อยู่ภาวะล้นเกินอยู่ดี

พูดอีกนัยหนึ่ง หลังนโยบายคิวอีจบ เราก็อาจจะยังเห็นดอกเบี้ยต่ำ สภาพคล่องล้น ตลาดหุ้นแพง อย่างนี้ต่อไปอีกนาน เพราะเป็นปรากฏการณ์เชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจ (คนแก่เพิ่มขึ้น, โอกาสในการลงทุนมีน้อยลง) ที่เป็นไปในยุคนี้

ถ้าหากนโยบายดอกเบี้ยไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ความเสี่ยงอื่นที่อาจมากระทบตลาดหุ้น ก็อาจจะเป็นเศรษฐกิจสหรัฐที่โตตามดอกเบี้ยขาขึ้นไม่ได้ เช่น อาจจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป ทำให้โตน้อยลง หรือกลับไปหดตัว แต่ตลาดก็ดูจะไม่กังวลในเรื่องนี้เช่นกัน เพราะเราก็รู้อยู่ว่า ทุกวันนี้ เฟดแคร์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่น้อยไปกว่าเสถียรภาพของราคา ต่างจากสมัยก่อนที่เฟดพร้อมจะรัดเข็มขัดแรงๆ เวลาเงินเฟ้อ ดังนั้น ถ้าหากเศรษฐกิจสหรัฐรับดอกเบี้ยขาขึ้นไม่ไหวจริง ก็อาจกระทบตลาดหุ้นในระยะสั้น เพราะเฟดย่อมปรับนโยบายดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับการเติบโตที่ลดลง เพราะเฟดก็อยากให้เศรษฐกิจดีเหมือนกัน ตลาดจึงไม่กลัวในประเด็นนี้เท่าไหร่

ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เรามองเห็นว่า ตลาดหุ้นก็อาจจะอยู่ในสภาวะราคาแพง ต่อไปอีก ราคาหุ้นที่สูง ทำให้เกิดความอ่อนไหวของราคาได้ง่าย ถ้าหากมีข่าวร้าย ราคาหุ้นก็อาจปรับตัวลงได้เยอะ แต่ไม่นานนัก ก็จะกลับมามีเสถียรภาพได้ใหม่ เพราะธนาคารกลางยุคใหม่ที่คุมเกมพร้อมที่จะช่วยเหลือตลาดอยู่แล้ว ในภาพของตลาดหุ้นแบบนี้ นักลงทุนก็น่าจะพอกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะกับความต้องการของตัวเองได้ไม่ยากเย็นนัก

อีกเรื่องหนึ่งที่ร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมาเกินกว่าจะไม่พูดถึงได้ คือ บิตคอย คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาทิศทางราคาบิตคอยในอนาคต เพราะเป็นเรื่องของอารมณ์ของตลาด แต่สิ่งหนึ่งที่เราอนุมานได้จากความนิยมของบิตคอยก็คือ สภาพคล่องในตลาดการเงินในเวลานี้ก็น่าจะมีล้นเหลือจริงๆ ถึงได้มีความต้องการที่จะเก็งกำไร ที่ช่วยผลักดันราคาของเงินสมมติให้เพิ่มขึ้นไปได้มากขนาดนี้