สถานะพอร์ต 7LTG ณ จบปีที่ 12
- ก่อนขาย MINT, MINT-W8, MINT-W9, BTS-W3 (21/9/2021)
2. หลังขาย (22/9/2021)
3. เงินปันผลสะสมตั้งแต่เริ่มต้น
ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่เราสรุปพอร์ตตอนกำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤตโควิด ดัชนีกลับมาได้บ้างแล้วแต่ก็ยังอยู่ที่ประมาณ 1600 จุด ถือว่าค่อนข้างซวยที่มาเจอวิกฤตอีกครั้งในช่วงที่ใกล้จะครบ 15 ปี เหมือนต้องถอยกลับไปตั้งต้นใหม่ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ควรจะดีขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะครบปีที่ 15
เอาจริงๆ พอร์ตนี้ไม่ได้แย่หรอก ไม่ได้ขาดทุน แม้จะเจอวิกฤตมาหลายหน เงินปันผลสะสมที่ได้มาสูงกว่าที่คิดไว้มาก แต่ Capital Gain ถือว่าน้อยไปหน่อย ควรจะได้มากกว่านี้
ขอพูดถึงหุ้นตัวที่ยังเหลือในพอร์ตดีกว่า
ADVANC บอกตามตรง เป็นตัวที่อยากขาย เพราะมาคิดได้ทีหลังว่า จริงๆ แล้วเราเลือกหุ้นผิด ADVANC ดูเหมือนจะเป็นหุ้นเทคโนโลยี แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ถูกดิสรัป หุ้น Tech เองก็สามารถถูก Tech ใหม่ๆ มาดิสรัปได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็คือกรณีของ ADVANC ที่รายได้ส่วน Voice โดน Data ดิสรัป ดังนั้นต่อให้ Data โตสูง ก็แค่ช่วย offset ส่วน Voice ที่หายไปได้เท่านั้น ได้แค่เสมอตัว ตอนแรกผมมองโลกในแง่ดีว่า AIS Fibre ยังโตได้อีกเยอะ น่าจะมาช่วยสร้างการเติบโตได้อีกแรง แต่เอาเข้าจริงๆ ตลาดนี้กำลังอยู่ในสงครามราคา บ้านผมเองเคยจ่ายเดือนละ 800 ตอนนี้จ่ายแค่เดือนละ 300 บาท คนที่มีกำลังจ่ายเน็ตแรงๆ มีอยู่จริง แต่ก็กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพชั้นในเท่านั้น คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้มีกำลังซื้อสูงขนาดนั้น หรือไม่ก็ไม่ได้เห็นความจำเป็นที่ต้องมีเน็ตที่เร็วมากๆ ยิ่งมี 5G ยิ่งทำให้ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น แต่รายได้กลับเพิ่มได้ยาก เพราะหลายปีที่ผ่านมาคนไทยไม่ได้มีกำลังซื้อสูงขึ้นตามเทคโนโลยี
BJC ตัวนี้เลือกเข้าพอร์ตมาเพราะมองว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่น่าจะโดนดิสรัป อย่างน้อยก็ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งก็ยังเชื่อแบบนั้นอยู่ แต่ตัว BJC เอง ก็ยังไม่มีความกะตือรืนร้นที่จะปรับตัวมากพอ
BDMS ตัวนี้ยังชอบอยู่ ยังเป็นจุดแข็งไม่กี่อย่างของประเทศไทย แต่ก็คงจะหวังเติบโตสูงๆ ไม่ได้ เพราะตัวใหญ่มากแล้ว แต่สองปีที่ผ่านมาก็ถือว่าบอบช้ำจากโควิดพอสมควร เพราะคนไข้ต่างชาติหายเรียบ ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าประคองตัวได้ดีแล้ว คิดว่าต่อจากนี้น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นช่วงฟื้นตัว
AOT ตัวนี้ก็เช่นกันครับ สตอรี่คล้ายๆ กับ BDMS
CPN ตัวนี้เป็นห่วง เป็นธุรกิจที่เสี่ยงโดนดิสรัปมากๆ จากธุรกิจออนไลน์ แถมโควิดยังทำให้คนคุ้นเคยกับดิลิเวอรี่มากขึ้น ถือว่าโดนสองดอกเลย แม้ว่าตอนนี้ภาพยังไม่ได้ดูแย่ คนยังเชื่อมั่นในคำว่าเซ็นทรัล แต่ในอนาคตน่าเป็นห่วง เป็นอีกตัวที่อยากขาย
PSH ตัวนี้จมอยู่ในภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ oversupply แต่เรื้อรังที่ยาวนานมาก และก็คิดว่าน่าจะยังเป็นอย่างนั้นต่อไป ถือเป็นอีกตัวที่เลือกผิด เป็นตัวที่ขาดทุนด้วย แต่ไม่ได้ขาดทุนมากเท่ากันที่เห็นหรอก เพราะตัวนี้ถูกแลกหุ้นมาจาก PS ซึ่งตอนนั้นมีกำไรอยู่เล็กน้อย จำไม่ผิดน่าจะประมาณ 15% พอกลายมาเป็น PSH ถูกล้างต้นทุนใหม่กลายเป็น 0% และตัวนี้เป็นตัวที่ได้ปันผลสูงมากมาตลอดราวๆ 7% ติดต่อกันหลายปี และเคยมีปันผลพิเศษครั้งใหญ่อีกด้วย จริงๆ แล้วถือว่าแค่เสมอตัว
BTS ช่วงที่ผ่านมาถือว่าโดนหนักมาก ทั้งโควิดที่ทำให้ผู้โดยสารหายไป และยังมีกรณี กทม.ไม่ยอมจ่ายหนี้อีกต่างหาก แต่หลังจากนี้ควรจะดีขึ้นแล้ว ไม่ได้เป็นห่วงอะไร
แผนการต่อจากนี้ยังคงเหมือนที่เคยบอกไว้คือจะทยอย Exit ออกไปปีละหนึ่งตัว แล้วแต่จังหวะว่าตัวไหนเหมาะสม หวังว่าสุดท้ายแล้วจะไม่มีตัวไหนขาดทุน
เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ลงทุนจบครบ 15 ปีแล้วขายทีเดียวอย่างที่เคยตั้งใจไว้ตั้งแต่วันแรก ด้วยเหตุผลที่เคยเล่าไปแล้วว่า ทุกวันนี้ผมไม่ได้เชื่อมั่นใน SET Index เท่ากับเมื่อสิบปีที่แล้วอีกต่อไปแล้ว การลงทุนแบบ DCA ตลาดจะผันผวนขนาดไหนในระยะสั้นเราก็รับได้ แต่เราต้องเชื่อว่าในระยะยาว ตลาดที่ลงทุนนั้นจะยังกลับมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้เสมอ ถ้าไม่มีความเชื่อนั้นอยู่แล้ว การลงทุนแบบ DCA ก็ดูขาดเหตุและผล